ความอ่อนโยนบนใบหน้าของเฟิ่งชิงหัวแทบจะห้ามไม่อยู่
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ จ้านเป่ยเซียวกำลังจ้องนางนิ่ง เมื่อนางกล้าที่จะหลุดเสียงหัวเราะ จ้านเป่ยเซียวจะบีบคอนางจนตายทันที
เฟิ่งชิงหัวแสดงสีหน้าเฉยเมย เขย่งเท้าดันไหล่จ้านเป่ยเซียวเพื่อให้เขานั่งลง หยิบผ้าและเริ่มเช็ดเลือดบนนั้น
ขณะที่กำลังเช็ดอยู่นั้นก็พูดว่า “เมื่อบวมยิ่งเม้มปากก็จะยิ่งบวม และจะยังมีเลือดออกเหมือนที่เป็นอยู่”
จ้านเป่ยเซียวจ้องดวงตาของเฟิ่งชิงหัว สายตาของเขาเหมือนจะพูดว่า ทำไมมันถึงบวม และใครเป็นต้นเหตุ
เฟิ่งชิงหัวรู้สึกผิดจนนางไม่กล้ามองเข้าไปในดวงตาของจ้านเป่ยเซียว นางช่วยเขารักษาบาดแผลด้วยใจจริง จากนั้นก็หยิบยาออกมาทาให้เขา
เนื้อสัมผัสของยานี้คล้ายกับลิปบาล์ม หลังทาแล้วจะรู้สึกสดชื่น เย็น และยังให้ความชุ่มชื้นอีกด้วย
เฟิ่งชิงหัวพูดอย่างจริงจัง “อันที่จริง ริมฝีปากอวบอิ่มจะดูเซ็กซี่มาก เป็นริมฝีปากอิ่มในตำนาน ซึ่งเย้ายวนมาก”
“เจ้าคิดว่ารูปลักษณ์ของข้าเซ็กซี่มากหรือ?” ในที่สุด จ้านเป่ยเซียวก็เอ่ยคำแรกกับเฟิ่งชิงหัวตั้งแต่ที่นางเข้ามา
เฟิ่งชิงหัวพยักหน้าซ้ำๆ “ใช่”
“ถ้างั้นจงทำตัวให้เหมือนข้าในตอนนี้ซะ แล้วข้าจะเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูด” จ้านเป่ยเซียวพูดเสียงเรียบ
มุมปากของเฟิ่งชิงหัวกระตุกเล็กน้อย นางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เหมาะ ข้าไม่ใช่คนเซ็กซี่ สิ่งนี้ก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน”
อุณหภูมิรอบตัวจ้านเป่ยเซียวต่ำกว่าศูนย์ เขาไม่เชื่อคำพูดไร้สาระของเฟิ่งชิงหัวเลย
เฟิ่งชิงหัวปวดหัวทันที นางไม่คาดคิดจริงๆ นางแค่คิดขึ้นมาได้ทันทีว่าจะแกล้งเขา นางสาบาน
นางคิดว่าจ้านเป่ยเซียวจะรู้ทันทีหลังจากทานแรก แต่ใครจะรู้ว่าเขาสามารถกินทั้งชามด้วยท่าทางเงียบ ๆ จึงทำให้เกิดผลที่ตามมาแบบนี้
เฟิ่งชิงหัวอ้าปากเพื่อจะขอโทษ แต่เมื่อนางเงยหน้าขึ้น นางมองเห็นริมฝีปากที่แดงก่ำและเป็นมันวาวอวบอิ่มของจ้านเป่ยเซียวภายใต้หน้ากากของเขา ซึ่งตรงกันข้ามกับออร่าโดยรวมของเขาอย่างมาก
เดิมที ริมฝีปากของจ้านเป่ยเซียวเป็นสีชมพูและบาง เขาดูเย็นชาและไร้ความรู้สึก
แต่ตอนนี้ กลายเป็นรอยยิ้มริมฝีปากทันที
นัยน์ตากำลังปล่อยลูกธนูเย็นชา แต่มุมปากยกขึ้นอย่างอารมณ์ดี เมื่อรวมกันแล้วมันก็เป็นแค่เรื่องขบขัน
“ข้าผิดไปแล้ว คิก” เฟิ่งชิงหัวขอโทษได้ครึ่งหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอีกครั้ง
แม้ว่าเขาจะสวมหน้ากาก แต่เฟิ่งชิงหัวก็ยังเห็นสีหน้าจ้านเป่ยเซียวเปลี่ยนจากขาวเป็นเขียว และในที่สุดก็กลายเป็นดำด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เฟิ่งชิงหัวเองก็หมดหนทางเช่นกัน นางต้องการควบคุมตัวเองจริงๆ แต่นางไม่สามารถควบคุมได้จริงๆ และนางก็หมดหวังเช่นกัน
นางยิ้ม แต่ในใจนางกำลังร้องไห้เหมือนหมา
มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ดีว่าจะต้องใช้เลือดน้ำตามากแค่ไหนเพื่อตอบแทนเสียงหัวเราะในตอนนี้
เฟิ่งชิงหัวสิ้นหวัง เดิมทีนางก้มหลังอยู่ตอนนี้ก็คุกเข่าลงบนเตียงทันที กอดเอวแน่นของจ้านเป่ยเซียวด้วยร่างกายที่สั่นเทา
หากไม่มีเสียงหัวเราะ นางสามารถแสร้งทำเป็นว่านางเสียใจ แต่เสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายนั้นทำให้นางเองก็น่าตบเหลือเกิน
เส้นเลือดที่หน้าผากของจ้านเป่ยเซียวเต้นแรง “ออกไปให้พ้น!”
เฟิ่งชิงหัวกอดจ้านเป่ยเซียวแน่น “จ้านเป่ยเซียว เจ้าเชื่อข้า เจ้าเชื่อข้า ข้ารู้ว่าข้าคิดผิดไปแล้วจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เสียงหัวเราะนี้ เสียงหัวเราะนี้ไม่ได้เยาะเย้ยเจ้า จริงๆแล้วข้ากำลังร้องไห้ ข้าเสียใจมาก”
จ้านเป่ยเซียวนั่งอยู่บนขอบเตียงกับมีกขนาดใหญ่ มองดูเฟิ่งชิงหัวคุกเข่าพร้อมกอดตนเองแล้วหัวเราะอย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าของเขาไม่มีการแสดงออกพิเศษ
เขาเริ่มคิดในใจว่าเขาชอบผู้หญิงคนนี้ตีงไหนกัน?
หน้าตา?
ธรรมดาเกินไปและไม่โดดเด่นแม้แจะโยนเข้าไปในฝูงชนก็ไม่โดดเด่นอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...