พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 38

“เจ้าอยากจะให้ข้าแต่งงานกับคนรับใช้? หนานกงเยว่ลั่ว เจ้าบ้าไปแล้วใช่ไหม?” หนานกงลู่ซิ่วมองไปที่เฟิ่งชิงหัวอย่างตกตะลึง คนคนนี้คือหนานกงเยว่ลั่วในอดีตที่ขี้ขลาดและอ่อนแอ ตอนที่ถูกนางทุบตีก็ไม่กล้าฟ้องคนนั้นหรือ?

แต่งงานเข้าไปในจวนอ๋องเฉินแล้ว แม้แต่ความกล้าก็มีมากขึ้นอย่างนั้นจริงๆหรือ หรือนางคิดว่าท่านอ๋องเจ็ดจะยุ่งกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เพื่อนางจริงๆ?

เฟิ่งชิงหัวเกี่ยวริมฝีปากขึ้นมาแล้วกล่าวว่า: “น้องสาวสาม ข้าก็ทำเพื่อเจ้าทั้งนั้น หากเจ้าไม่แต่งงานกับสองคนนี้ ถึงเวลาเรื่องที่เจ้าเคยถูกชายที่เป็นคนนอกแตะต้องตัวเผยแพร่ออกไป จวนเฉิงเซี่ยงจะเอาหน้าไปไว้ไหน? ถึงเวลานั้นเจ้าก็คงทำได้แค่ไปเป็นแม่ชีในวัด และชีวิตที่เหลือคงต้องอยู่อย่างอ้างว้างในพระพุทธศาสนาแล้ว พี่สาวรองก็แค่เอ็นดูสงสารเจ้าเท่านั้น”

“เจ้าอย่ามาไม้นี้หน่อยเลย! เจ้าจะมีจิตใจดีขนาดทำเพื่อข้าเชียวหรือ? ข้าว่าเจ้าแทบอยากจะให้ข้ามีชีวิตที่ย่ำแย่เจ้าถึงจะมีความสุขด้วยซ้ำ” หนานกงลู่ซิ่วกล่าวด้วยความโกรธ

“น้องสาวสาม ทำไมเจ้าถึงคิดอย่างนี้กับพี่สาวรองล่ะ” เฟิ่งชิงหัวเช็ดน้ำตาด้วยแขนเสื้อ ทำท่าทางเศร้าโศกไม่สิ้นสุดที่ถูกเข้าใจผิด มองไปทางหนานกงจี๋: “ท่านพ่อ ข้ารับใช้สองคนนี้ลูกก็ไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ ถ้าอย่างไรท่านช่วยน้องสาวสามดูหน่อยเป็นไร คนไหนคู่ควรจะเป็นลูกเขยของตระกูลเรามากกว่ากัน? จวนเฉิงเซี่ยงไม่มีผู้ชาย รับลูกเขยที่แต่งงานเข้ามาคนหนึ่งก็ไม่เลวเช่นกัน เช่นนี้หลังจากที่ท่านถึงแก่กรรมแล้วก็มีคนจัดพิธีส่งท่านไปสู่ปรโลก ท่านคิดว่าอย่างไร?”

น้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่คำที่พูดออกมากลับทำให้คนแทบจะกระอักเลือด

หนานกงจี๋สีหน้าหม่นหมอง: “เป็นถึงจวนเฉิงเซี่ยงจะรับคนรับใช้คนหนึ่งมาเป็นลูกเขยได้อย่างไรกัน!”

เฟิ่งชิงหัวกล่าวต่อไปอีกว่า: “เช่นนั้นท่านจะไม่สนใจชื่อเสียงของน้องสาวสามแล้วหรือ?”

“ที่นี่ก็มีแต่เราไม่กี่คนเท่านั้น ขอเพียงแค่เจ้าไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้หรอก!” หนานกงจี๋หรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง ในดวงตาแฝงไปด้วยการข่มขู่

เฟิ่งชิงหัวได้ยินคำพูดก็พยักหน้าเบาๆ: “ก็ดีเหมือนกัน ข้าเองก็รู้สึกว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกับน้องสาวสามเช่นกัน”

หนานกงลู่ซิ่วได้ยินคำพูดก็แอบโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง มองไปทางเฟิ่งชิงหัว ใบหน้าเต็มไปด้วยการยั่วยุ: ถือว่าเจ้ารู้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร

ทันทีหลังจากนั้น ก็ได้ยินเฟิ่งชิงหัวกล่าวพึมพำกับตัวเองว่า: “พี่สาวใหญ่กำลังจะแต่งงานกับองค์ราชทายาทอยู่แล้ว คิดว่าองค์ราชทายาทเป็นคนใจกว้าง ก็น่าจะไม่รังเกียจที่มีน้องเมียที่ชื่อเสียงได้รับความเสียหายเช่นนี้หรอก”

ทันทีที่หนานกงจี๋ได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยทันที

ในสายตาคนนอกองค์ราชทายาทเป็นคนใจกว้างและโอบอ้อมอารีมาตลอด แต่นิสัยในพื้นที่ส่วนตัวหนานกงจี๋ก็เคยได้ยินมาเล็กน้อยเช่นกัน หากว่าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูของเขา เกรงว่าจะทำให้เขาเกิดความไม่พอใจขึ้นมา

หากเขาโกรธขึ้นมา แล้วยกเลิกการแต่งงานกับจวนเฉิงเซี่ยงอีกครั้ง เช่นนั้นจวนเฉิงเซี่ยงจะไม่กลายเป็นตัวตลกของทั่วทั้งเมืองหลวงหรอกหรือ?

หนานกงจี๋เม้มริมฝีปาก มองต่ำลงไปแล้วครุ่นคิด หลังจากที่กวาดตามองเห็นเก้าอี้เข็นที่อยู่ด้านข้าง ก็ได้สติกลับมาทันที จู่ๆในหัวแจ่มใสขึ้นมาทันที

ใช่แล้ว เขาลืมไปได้อย่างไร ตอนนี้ท่านอ๋องเจ็ดก็อยู่ที่นี่ด้วย ท่านอ๋องท่านนี้คือลูกชายที่ฝ่าบาททรงโปรดปรานมากที่สุด หากไม่ใช่ว่าได้รับบาดเจ็บที่ขา ตำแหน่งองค์ราชทายาทเกรงว่าอาจจะมีการเปลี่ยนคนก็มีความเป็นไปได้ สิ่งที่ทำให้องค์ราชทายาทไม่ชอบหรือไม่ก็เพิ่มความอึดอัดไม่พอใจ ท่านอ๋องเจ็ดจะไม่ชอบได้อย่างไร

หนานกงจี๋ยกมือไปคว้าตัวหนานกงลู่ซิ่วเข้ามาอย่างแรง หนานกงลู่ซิ่วไม่ทันสังเกตเห็นไปชั่วขณะขาทั้งสองข้างกระแทกลงไปบนพื้น และคุกเข่าลงไปต่อหน้าเฟิ่งชิงหัวอย่างแรง

“นังลูกชั่ว ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษพี่สาวเจ้าอีก!” หนานกงจี๋กล่าวด้วยความโกรธ: “พี่สาวเจ้าหวังดีต่อเจ้า ต่อจวนเฉิงเซี่ยงอย่างสุดจิตสุดใจ เจ้าจะใช้คำพูดเช่นนั้นมาคาดคะเนนางตามอำเภอใจได้อย่างไร!”

“แต่ว่า ท่านพ่อ นางเป็นคนจะให้ข้าแต่งงานกับคนรับใช้ผู้ต่ำต้อยก่อนเองนะ!” ดวงตาทั้งคู่ของหนานกงลู่ซิ่วแดงก่ำ หัวเข่าทั้งสองข้างเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ อยากจะลุกก็ลุกไม่ขึ้น

“พี่สาวเจ้าก็แค่ล้อเล่นกับเจ้าเท่านั้น เจ้ารีบคารวะหน้าผากแตะพื้นยอมรับผิดต่อนางซะ!” หนานกงจี๋อาศัยตอนที่เฟิ่งชิงหัวไม่สังเกตส่งสัญญาณให้กับหนานกงลู่ซิ่ว

ในใจของหนานกงลู่ซิ่วไม่เต็มใจอย่างมาก ความรังเกียจบนใบหน้าก็ยิ่งมากมายสุดจะบรรยาย

“ในเมื่อลูกสาวของท่านไม่ยินดีจะแต่งงานก็ช่างมันเถอะ” เสียงของจ้านเป่ยเซียวดังขึ้นมาอย่างราบเรียบจากด้านหนึ่ง

ทุกคนมองไปทางเขา ก็เห็นชายหนุ่มเอนกายสบายๆอยู่ตรงนั้น สายตามองต่ำลงไป หยุดอยู่ที่แหวนปานจื่อหยกที่อยู่บนนิ้วหัวแม่มือ

หนานกงจี๋ได้ยินคำพูดนี้กลับรู้สึกเหมือนกับระฆังเตือนภัยถูกตีอยู่เหนือศีรษะของเขาอย่างแรง ยกเท้าขึ้นมาก็ถีบไปที่แผ่นหลังของหนานกงลู่ซิ่ว: “ยังไม่ขอโทษอีกข้าจะขายเจ้าออกไปทันที นับแต่นี้เจ้ากับจวนเฉิงเซี่ยงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว