“ท่านอ๋อง คุณหนูก็แค่ตื่นเต้นที่ได้แต่งงาน ไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินท่าน ขอได้โปรดเข้าใจด้วยเจ้าค่ะ”แม่มงคลที่อยู่ข้างๆรีบพูดขึ้นอย่างลนลาน
ถ้าหากคุณหนูแห่งตระกูลหนานกงถูกส่งกลับไปจริงๆ ใต้เท้าเฉิงเซี่ยงคงจะโทษนางแน่ๆ
เมื่อคิดเช่นนี้ นางก็รีบคุกเข่าคลานเข้าไปหาเฟิ่งชิงหัว เอ่ยเสียงต่ำว่า “คุณหนูเอ๋ย ท่านก็พูดอะไรที่อ่อนโยนเป็นการขอร้องท่านอ๋องหน่อยเถอะ ไม่เช่นนั้นพวกข้าจะถูกท่านทำให้พลอยเดือดร้อนไปด้วย”
เฟิ่งชิงหัวเหลือบมองนางแวบหนึ่ง และไม่สนใจนาง เพียงแต่ประสานสายตากับจ้านเป่ยเซียวและพูดขึ้นว่า “หรือท่านอ๋องอยากจะขัดราชโองการ ไม่ยอมแต่งงานกับข้า ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็สามารถเขียนหนังสือหย่าเพื่อหย่ากับข้าก็ได้ ข้าหนานกงเยว่ลั่วจะไม่ตอแยกับท่านอีก จะยอมขึ้นเกี้ยวกลับไป”
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ใช่ความผิดของจวนเฉิงเซี่ยงที่ไม่ยอมทำตามคำมั่นสัญญา แค่ท่านอ๋องเจ็ดต้องการหย่าเอง ไม่ว่าอย่างไรก็นับว่ายอมรับการแต่งงานแล้ว นางเองก็ทำภารกิจได้ลุล่วงราบรื่น
แม่มงคลได้ยินสิ่งที่เฟิ่งชิงหัวพูด ก็แทบอยากจะเป็นลมล้มพับลงไปทันที
ไม่เคยได้ยินหญิงสาวคนไหนเอ่ยปากขอหนังสือหย่าด้วยตนเองมาก่อนเลย คุณหนูรองคนนี้สมองมีปัญหาหรืออย่างไร
“หนังสือหย่า ข้าไม่เคยยอมรับการแต่งงานครั้งนี้ จะต้องการหนังสือหย่าอะไร”
เฟิ่งชิงหัวเม้มปาก ในใจก็คิดว่าคนคนนี้ไม่ธรรมดา ตรรกะแรงกล้าเกินไป
ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่เฟิ่งชิงหัวก็พูดขึ้นว่า “ท่านยอมรับหรือไม่สำคัญด้วยหรือ การแต่งงานของราชวงศ์ท่านไม่สามารถตัดสินใจเองได้ แต่ข้าหนางกงเยว่ลั่วก็ไม่ใช่คนไม่รู้เรื่องราวอะไร ไม่สู้ท่านอ๋องกับข้ามาลองเดิมพันกันสักตั้ง”
เมื่อเห็นว่าจ้านเป่ยเซียวไม่ได้เอ่ยปากห้ามอะไร เฟิ่งชิงหัวก็พูดต่อไปว่า “ภายในสามเดือน ข้าหากท่านอ๋องเกิดชอบหม่อมฉันขึ้นมา เช่นนั้นการแต่งงานครั้งนี้ก็นับว่าเงื่อนไขบรรลุผล ข้าจะเป็นพระชายาของท่าน เป็นนายหญิงเพียงหนึ่งเดียวของจวนอ๋อง แต่ถ้าหากหม่อมฉันแพ้ ก็คิดเสียว่าข้ามารบกวนท่านอ๋องเป็นเวลาสามเดือน ขออาศัยอยู่ในจวนอ๋องชั่วคราว ข้าหนานกงเยว่ลั่วจะจากไปเอง อย่างนี้ดีหรือไม่”
สายตาของจ้านเป่ยเซียวมองนางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างพินิจพิเคราะห์ ราวกับกำลังแยกแยะว่าสิ่งที่นางพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ จากนั้น ก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ก็ได้”
เฟิ่งชิงหัวอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
นี่เป็นการเดิมพันเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น มีเพียงนางที่รู้ดีแก่ใจ นางจะกลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
นางเดาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าชายหนุ่มคงไม่กล้าขัดต่อราชโองการของราชวงศ์
จ้านเป่ยเซียวส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ทางด้านหลังเข็นรถเข็น เฟิ่งชิงหัวเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไป อ้อมไปทางด้านหลังของจ้านเป่ยเซียว “เรื่องอย่างนี้ย่อมต้องให้หม่อมฉันเป็นคนทำจึงจะถูกต้องเพคะ”
องครักษ์ที่เดิมทีกำลังจะเดินเข้าไป กลับถูกจ้านเป่ยเซียวโบกมือให้ถอยไป
เฟิ่งชิงหัวเข็นเขาเข้าไปในห้องโถง อาศัยโอกาสนี้ รีบวิเคราะห์ทุกสิ่งรอบตัวอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...