พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 51

จ้านเป่ยเซียวหดมือกลับมา แล้วหันตัวไปนอนเอนลงที่อีกด้านหนึ่ง หลับตาลงแสร้งเป็นหลับ: “ต่อไปเวลากลางคืนไม่อนุญาตให้ออกไปไหน หากถูกข้าจับได้......”

“จะตัดขาให้ขวดใช่หรือไม่?” เฟิ่งชิงหัวอดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบนแล้วก็ลุกนั่งขึ้นมา นวดใบหน้าที่ถูกบีบจนเจ็บ

คราวนี้จึงเริ่มดึงสติกลับมาได้ว่าเมื่อครู่จ้านเป่ยเซียวอยากจะดูว่านางใช่หนานกงเยว่ลั่วจริงหรือเปล่างั้นสิ

เป็นไปได้ยังไงที่จะให้เขาดูออกได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ วิชาแปลงโฉมของนางอยู่ในขั้นสุดยอดตั้งนานแล้ว นอกจากนางเอง ใครก็อยากหวังว่าจะมาถอดเอาหนังหน้าชั้นนี้ออกมาได้

เพียงแต่ว่าที่ทำให้นางคาดไม่ถึงก็คือ คิดไม่ถึงว่าจ้านเป่ยเซียวจะวางแผนปล่อยนางไปด้วยอารมณ์ที่ราวกับฟ้าผ่าคำรามเช่นนี้ได้ มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไป

เฟิ่งชิงหัวมองดูผู้ชายที่หันหลังให้กับนางแล้วกล่าวออกมาด้วยอาการหยั่งเชิงว่า: “งั้นข้าไปแล้วนะ?”

ฝ่ายชายไม่ได้ตอบกลับ แม้แต่ขยับก็ยังไม่เลยแม้แต่นิด

เฟิ่งชิงหัวยืนขึ้นมา เดินเท้าเปล่าไปสองก้าวก็รีบหันหน้ากลับมาอีก: “ข้าไปจริงๆ แล้วนะ?”

เฟิ่งชิงหัวเดินไปต่อ หลังจากเดินไปถึงหน้าประตูก็ค่อยๆ ถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง แล้วก็หันหน้าไปอีก: “งั้นข้าไป......”

ยังพูดไม่ทันจบ เฟิ่งชิงหัวได้เพียงรู้สึกว่าสายตาก็พร่ามัวไปเลยในทันที คิดไม่ถึงว่าจะถูกฝ่ายชายม้วนตลบมาที่บนเตียงอีกครั้ง จมูกชนเข้ากับหลังของฝ่ายชายอย่างหนัก

“ในเมื่อไม่อยากไปก็นอนลง” จ้านเป่ยเซียวพูดจบ ฝ่ามือสะบัดขึ้น ผ้าคลุมเตียงก็ล่วงลงมา รอบด้านสงบขึ้นมา บรรยากาศดูแปลกพิกลอย่างบอกไม่ถูก

เฟิ่งชิงหัวกล่าวด้วยรอยยิ้มเหยเกว่า: “ไม่ดีกว่า ข้าค่อนข้างชินกับเตียงที่เคยนอน กลับไปนอนน่าจะดีกว่า”

“เตียงของเจ้าไม่ใช่ว่าถูกเจ้ากระทืบจนพังไม่เป็นท่าแล้วไม่ใช่เหรอ?” ขณะที่พูดอยู่ จ้านเป่ยเซียวก็พลิกตัวมากล่าวต่อหน้าเฟิ่งชิงหัวว่า: “หรือว่าเจ้าไม่อยากนอน อยากจะทำอะไรอย่างอื่นอีกหน่อย?”

เฟิ่งชิงหัวขนลุกซู่ขึ้นมาในบัดดล รับโบกมือขึ้นทันที: “ไม่ต้องหรอกๆ ตอนนี้เป็นช่วงระยะเวลาในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของท่านอ๋อง ไม่สะดวกที่จะใช้แรงงาน”

จ้านเป่ยเซียวได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกแปลกๆ เลยจ้องไปที่ดวงตาของเฟิ่งชิงหัวที่ยิ่งดูมีเลศนัยอยู่ในนั้น มองดูด้านหลังของนางที่มีเม็ดเล็กๆ ลอยขึ้นมาเป็นชั้นๆ

“ความหมายของข้าคือหากไม่อยากนอนก็เล่าว่าดึกดื่นค่ำมืดเช่นนี้แล้วเจ้าไปไหนมา เจ้าคิดไปถึงไหนแล้วเนี่ย หรือว่าในสมองของเจ้าคิดแต่เรื่องแบบนี้?” ในขณะที่พูดอยู่ร่างของจ้านเป่ยเซียวค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ทางด้านของเฟิ่งชิงหัว มือที่เรียวยาวลูบไปบนผมยาวของเฟิ่งชิงหัวที่กระจายออกมาจากการต่อสู้กัน

สายตาของเฟิ่งชิงหัวไล่มองไปยังนิ้วมือของเขาอย่างเกร็งๆ มองดูนิ้วมือของเขาเกี่ยวเส้นผมของนางมาม้วนเป็นเกลียวอยู่ในปลายนิ้วเบาๆ คิดไม่ถึงว่าจะค่อนข้างอาลัยรัก

เฟิ่งชิงหัวกลืนน้ำลายลงไปหนึ่งคำแล้วกล่าวว่า: “แน่นอน แน่นอนว่าไม่ใช่ ข้าเพียงแค่ระทมทุกข์เท่านั้น ท่านอ๋องที่ระทมทุกข์ถูกเสียงที่ดังมาจากด้านนอกกระทบถูกอารมณ์ ดังนั้นแทบจะรอไม่ไหวที่จะพิสูจน์ให้นางสนมได้เห็น”

จ้านเป่ยเซียวได้ยินดังนั้น นิ้วมือก็หยุดไปชั่วขณะ จ้องไปยังเฟิ่งชิงหัว ดวงตาลึกลงไปนั้นลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง

ทั้งๆ ที่แม้แต่แหล่งกำเนิดหนึ่งเดียวในตอนนี้ก็ได้ถูกจ้านเป่ยเซียวดับไปหมดแล้ว แต่เฟิ่งชิงหัวกลับสามารถมองเห็นดวงตาของจ้านเป่ยเซียวได้อย่างชัดเจนได้ จู่ๆ ในใจก็หดตัวขึ้นมาทันทีและเต้นอย่างรุนแรง

ทั้งๆ ที่บนร่างของเขาไม่มีแรงอาฆาตใดๆ เลย แต่ว่าเฟิ่งชิงหัวกลับรู้สึกได้ว่าถึงความไม่มีความสุขของฝ่ายชายอย่างเห็นได้ชัด

ต่างก็บอกกันว่าผู้ชายไม่สามารถบอกว่าไม่ได้ได้ ตนเองยั่วยุเขามาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเช่นนี้แล้ว แม้ว่าจะเป็นพระก็ย่อมมีอารมณ์โกรธอยู่บ้าง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจ้านเป่ยเซียวที่ประหลาดเป็นพิเศษผู้นี้เลย

เขาคงจะไม่เข่นฆ่าตนเองในวินาทีต่อมาหรอกนะ

เฟิ่งชิงหัวค่อยๆ ขยับร่างไปทางด้านหลังเล็กน้อย เตรียมที่จะวิ่งหนีได้ตลอดเวลา

“เจ้ากลัวข้า?” ทันใดนั้นจ้านเป่ยเซียวก้กล่าวออกมา ราวกับว่ามีการพบว่ามีอะไรบางอย่างที่น่าประหลาดใจ

เฟิ่งชิงหัวส่ายหน้า: “ไม่กลัวซะหน่อย”

“งั้นเจ้าหลบอะไร”

“ข้าไมได้หลบ” เพียงแต่ไม่เคยสัมผัสกัยคนที่มีพลังอำนาจเช่นนี้มาก่อนเท่านั้นเอง ดูอวดดีกว่านางเสียอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว