พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 59

“ไม่มีแล้วเพคะ ซุนผินเหนียงเหนียงไม่ชอบสุงสิงกับคนภายนอก ดังนั้นในวังก็มีแต่ข้ารับใช้ที่ใกล้ชิดกับนางที่สุดเพคะ” นางกำนัลรีบเอ่ย

เฟิ่งชิงหัวลากเสียงยาว ยิ้มมองคนอื่นๆ: “พวกเจ้ารู้ว่าซุนผินเหนียงเหนียงมีงานอดิเรกอยางอื่นด้วย?”

“พระชายา นางโกหกเพคะ!” เสี่ยวเอ๋อร์นางกำนัลรินพระอุทกเอ่ยขึ้นทันที: “ซุนผินเหนียงเหนียงไม่เพียงโปรดเสวยดอกไม้เป็นอาหารเท่านั้น ยังโปรดดื่มน้ำค้างยามเช้าด้วย หม่อมฉันเคยเห็นมาหลายครั้งแล้ว ตอนเช้ามืดพระนางจะพานางกำนัลไปเด็ดดอกไม้ที่สวนบุปผาหลวงทุกวัน และจะต้องดื่มน้ำค้างบนกิ่งใบด้วยเพคะ”

นางกำนัลได้ฟังก็หน้าเปลี่ยนสี ถลึงตาค้อนควักใส่เสี่ยวเอ๋อร์ อยากกระสวกนางจนแทบทนไม่ไหว 

เฟิ่งชิงหัวยกยิ้มเอ่ยว่า: “หากข้าจำไม่ผิด ตอนที่เหล่าองครักษ์พบเจ้า เจ้าก็อยู่แถวๆ สวนบุปผาหลวงพอดีเลยนิ?”

สวนบุปผาหลวงอยู่ไม่ไกลจากตำหนักบรรทมของฮองเฮา เหตุผลว่าทำไมซุนผินเหนียงเหนียงปรากฏตัวบนทางตำหนักบรรทมของฮองเฮาเส้นนั้นก็สมเหตุสมผลอยู่

“ต่อให้หม่อมฉันจะอยู่แถวสวนบุปผาหลวง ก็ไม่ได้หมายความว่าหม่อมฉันเป็นคนโปรยพิษบนใบไม้พวกนั้นนี่เพคะ ยิ่งไปกว่านั้นเวลานั้นก็เลยเวลาดื่มน้ำค้างของพระนางไปนานแล้วด้วย!”

“บอกตอนไหนว่าเจ้าเป็นคนโปรยพิษบนใบไม้? นี่ถือว่าเจ้าหลุดสารภาพออกมาเองหรือเปล่า? เรื่องที่ว่าทำไมซุนผินเหนียงเหนียงถึงไปที่สวนบุปผาคนเดียวลำพัง เรื่องนี้ เกรงว่ามีแต่เจ้ากับสนมซุนที่ล่วงลับไปแล้วเท่านี้ที่รู้” เฟิ่งชิงหัวยิ้มกล่าว

“ใต้เท้าถัง ข้าให้ท่านไปตามหาคนในครอบครัวของสนมซุนที่บ้านเกิดของนาง ตอนนี้คนอยู่ที่ใด?”

“คนอยู่ที่โถงด้านหลังแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“เชิญเข้ามาเถิด”

จากนั้นคนสองคนก็เดินออกมาจากโถงด้านหลัง คนหนึ่งคือบิดาแท้ๆ ของซุนผินเหนียงเหนียง อีกคนคือพี่เลี้ยงของซุนผินเหนียงเหนียง

“หลังแท่นเมื่อครู่พวกเจ้าก็ได้ยินหมดแล้ว ไม่รู้ว่ามีอะไรอยากกล่าวหรือไม่?”

เห็นเพียงบิดาแท้ๆ ผู้นั้นพลันเดินเข้าไป แล้วตบนางกำนัลคนสนิทผู้นั้นอย่างแรง

“นังชั่ว ถึงขั้นวางแผนฆ่าพี่สาวเลยรึ พี่สาวเจ้าตายแล้วจะมีประโยชน์อะไรกับเจ้า!” ชายผู้นั้นตะคอกด้วยความโกรธ

นางกำนัลผู้นั้นไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่า พระชายาถึงขั้นสืบรู้เรื่องนี้แล้ว จึงไม่ดันทุรังอีกต่อไป สีหน้าพลันผ่อนคลาย จากนั้นร่างกายก็อ่อนแรงลงตาม จ้องหน้าบิดาผู้ให้กำเนิดของตัวเองพร้อมเอ่ยว่า: “ท่านพูดว่าทำไมข้าถึงอยากให้นางตายหรือ? ข้ามั่นใจว่ารูปโฉมของข้าไม่ได้ด้อยไปกว่านางเลย หากเข้าคัดเลือกข้าต้องถูกเลือกแน่นอน แต่นางถึงขนาดวางยาพิษบนเสื้อผ้าข้าเพื่อไม่ให้ข้าได้รับเลือก ทำให้มีผืนแดงขึ้นเต็มตัวข้าไปหมด ยังไม่ทันได้เข้าเฝ้าก็ถูกส่งตัวกลับบ้านไปก่อน ท่านว่าข้าควรเกลียดนางไหมเล่า?”

“ต่อให้เป็นเช่นนั้น แต่พี่สาวเจ้าก็ให้เจ้าเข้าไปดูแลรับใช้ในวัง เจ้ายังกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าอีกหรือ?” ใบหน้าของบิดาแท้ๆ ยังคงเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

หญิงสาวเค้นเสียงหัวเราะ: “นั่นคือนางช่วยข้าหรือ? นางต้องการอวดเบ่งต่างหาก เบ่งบารมีว่านับแต่นี้ตนคือเจ้านายผู้สูงส่ง แต่ข้ากลับเป็นเพียงนางกำนัลคนสนิทผู้ต่ำต้อยเท่านั้น หากไม่ใช่นาง มีหรือข้าจะเข้าวังไม่ได้ และต้องได้พบครอบครัวดีๆ สักที่แน่ นางแพศยานั่นพูดกับข้าเองว่า ที่นางพาข้าเข้าวังไม่ใช่เพราะอยากช่วยข้าอะไรเลย แต่เพื่อลากข้ามาตาย! ทำให้ทั้งชีวิตนี้ข้าเป็นได้แค่ทาสคนหนึ่ง ทำได้เพียงมองนางเสวยสุขกับยศถาและทรัพย์สมบัติ!”

“เจ้าเลยวางยาหลงกระดูกใส่นางงั้นหรือ?” เฟิ่งชิงหัวมองนางกำนัลคนสนิทผู้นี้

นางเองก็มีความรู้เรื่องโหงวเฮ้งอยู่นิดหน่อย ตอนพบนางกำนัลคนสนิทผู้นี้ก็ดูออกเลยว่าน่าจะมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับสนมซุนผู้นั้นอยู่ และเป็นครอบครัวทางแม่ของสนมซุนด้วย สามารถวางยาพิษชนิดอ่อนนี้กับนางได่ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว