พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 9

สรุปบท บทที่ 9 นั่งรถม้าด้วยกัน: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว

ตอน บทที่ 9 นั่งรถม้าด้วยกัน จาก พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 9 นั่งรถม้าด้วยกัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว ที่เขียนโดย เสี่ยวโหม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

องครักษ์คนนั้นเงยหน้าขึ้นมองเข้าไปในรถม้าอย่างลำบากใจ เฟิ่งชิงหัวเอียงตัวมาบดบังสายตาของเขาเอาไว้ เอ่ยด้วยรอยยิ้มเสแสร้งว่า “อย่างน้อยข้าก็เป็นพระชายาของท่านอ๋องของพวกเจ้า คำพูดข้าใช้ไม่ได้เลยหรือ หรือว่าพวกเจ้าไม่เห็นท่านอ๋องอยู่ในสายตา”

ไม่ได้ยินเสียงของท่านนาย องครักษ์คนนั้นก็ได้แต่ก้มหน้าลง เอ่ยอย่างนอบน้อมว่า “ข้าน้อยไม่กล้า”

เฟิ่งชิงหัวหมุนตัวเข้าไปนั่งในรถม้า ไม่ช้ารถม้าก็เริ่มเคลื่อนตัว และไม่รู้สึกโคลงเคลงเลยแม้แต่น้อย นางรู้สึกพอใจมาก

รู้สึกน่าเบื่อมาก เฟิ่งชิงหัวจึงเริ่มสำรวจภายในรถม้าอย่างละเอียด

จ้านเป่ยเซียวเห็นนางที่ดูจะอยู่ไม่สุขเอาแต่จับตรงนั้นลูบตรงนี้ในรถม้าไม่หยุด และยังเคาะรถม้าเป็นระยะ ราวกับกำลังศึกษาว่าสิ่งนี้ทำมาจากอะไร

เขาชอบความสงบ บวกกับเมื่อคืนไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ ตอนนี้ยังมาถูกรบกวนอีกจึงรู้สึกหงุดหงิดมาก เส้นเลือดบริเวณขมับปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อคิดถึงการเดิมพัน ก็อดกลั้นความใจร้อนที่อยากจะโยนนางออกไปนอกรถม้าเอาไว้ พยายามข่มตาลง

หลังจากที่เฟิ่งชิงหัวสำรวจดูและลูบคลำไปทั่วภายในรถม้าแล้วสายตาย่อมหันไปมองที่ร่างของเจ้าของรถม้า

ชุดยาวสีหยกสุดหรูหราห่อหุ้มเรือนร่างแข็งแกร่งและสูงของเขาเอาไว้ เส้นผมดำขลับถูกมัดและรัดไว้ด้วยกวานหยก เส้นผมที่ดูนุ่มลื่นราวกับใยไหมทอดยาวประบ่า แม้จะมองเห็นแค่กรามบนใบหน้าที่ดูเรียวยาว ก็ไม่รู้ว่าก่อนที่คนคนนี้จะเสียโฉมจะมีใบหน้าที่สง่างามแค่ไหน

ไม่รู้ว่าเก้าอี้รถเข็นของเขาถูกออกแบบมาอย่างไร ล้อทั้งสองข้างสามารถพับเข้าหากันได้ จ้านเป่ยเซียวที่นั่งอยู่ตรงนั้นดูจะสูงกว่านางอยู่มาก

สายตาของเฟิ่งชิงหัวจดจ่อมากเกินไป จ้านเป่ยเซียวที่เดิมทีกำลังหลับตาเพื่อพักผ่อนลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน สายตาคู่นั้นราวกับถูกหล่อขึ้นด้วยน้ำแข็ง

“ถ้ายังมองอีก ข้าจะควักลูกตาของเจ้า”จ้านเป่ยเซียวเอ่ยเสียงเย็นชา

เฟิ่งชิงหัวแบะปาก ไม่ได้รู้สึกกลัว เปิดช่องลับในรถม้าออกอย่างรู้สึกเบื่อหน่าย เอาหนังสือเกี่ยวกับการศึกออกมาเปิดอ่าน

คนคนนี้ เป็นเพราะเจ้าเล่ห์เกินไป หรือเพราะไม่ใส่ใจกันแน่

รถม้าเข้าไปในเขตพระราชวังอย่างราบรื่น และจอดนอกประตูเมือง ผ้าม่านถูกเลิกขึ้น ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างส่องเข้ามา เฟิ่งชิงหัวจึงได้สติกลับมา ปิดหนังสืออย่างระมัดระวัง วางกลับไปที่เดิม และนำมาซึ่งสายตาเหลือบมองของจ้านเป่ยเซียวอีกแล้ว

เฟิ่งชิงหัวหมุนตัว ไม่รอให้คนข้างนอกมาประคอง กระโดดลงไปจากรถม้าด้วยตนเองทันที ทำเอาผู้คนรอบข้างมองนางด้วยสายตาประหลาดใจ

หลังจากนั้นจ้านเป่ยเซียวก็ถูกองครักษ์สองคนประคองลงมาจากรถม้า เพิ่งจะนั่งลงบนเก้าอี้รถเข็น เห็นเฟิ่งชิงหัวกำลังจะก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างใน จึงเอ่ยเสียงเย็นว่า “หยุด”

เฟิ่งชิงหัวเพิ่งจะนึกถึงเขาขึ้นมา หมุนตัวเดินกลับไปหา ประคองเก้าอี้รถเข็นเอาไว้ แต่คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะคว้าข้อมือของนางเอาไว้ทันที ใช้แรงไม่น้อยเลย เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้นางดิ้นรน

“ถ้าหากยังกล้าหาเรื่องให้ข้าอีกจะตัดขาของเจ้าซะ”ชายหนุ่มเตือนเสียงต่ำ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว