พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ นิยาย บท 111

สรุปบท ตอนที่111งานอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาท: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ

ตอน ตอนที่111งานอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาท จาก พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่111งานอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาท คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ ที่เขียนโดย ฝูซูกงจื่อ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่111งานอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาท

“ฮ่องเต้หรือว่าฝ่าบาทไม่ทรงกังวลพระทัยแล้ว?”ลี่เฟยอดทนแล้วอดทนเล่ายังคงอดไม่ไหวต้องกล่าววาจาออกมา“ฐานะตระกูลจางในราชสำนักได้เป็นมือเดียวปิดกั้นฟ้าแล้วตอนนี้ธิดาของพวกเขาก็ได้อภิเษกสมรสกับอ๋องชิงผินที่กุมอำนาจทางทหารไว้ในมือฮ่องเต้ทรงทราบเหตุผลการมีผลงานดีเด่นสูงส่งย่อมสะเทือนสะท้านเจ้านายหรือไม่เพคะ?”

ตามหลักแล้วพระสนมห้ามร่วมในการว่าราชการทางราชสำนักตอนนี้นางกล่าววาจาเช่นนี้จริงๆแล้วผิดสถานะแต่นางก็มิอาจใส่ใจแล้ว

ฮ่องเต้น่านทรงสดับฟังแล้วได้ทอดพระเนตรดูนางอย่างลึกซึ้งคราหนึ่งสีพระพักตร์ค่อนข้างหนักพระทัยบ้าง

“บังอาจ!”

วาจาล้วนได้กล่าวออกมาจากปากแล้วสายเกินไปที่จะกู้คืนมาลี่เฟยคุกเข่าลงกับพื้นแสดงออกอย่างระมัดระวังรอบคอบ

นางต้องเดิมพันสักคราตอนนี้ข้างนอกคำร่ำลือซุบซิบนินทามากมายขนาดนั้นนางไม่เชื่อว่าฮ่องเต้ไม่ได้รู้อะไรสักนิดบทเรียนจากคนรุ่นเก่าย่อมเป็นกระจกเงาของคนรุ่นหลังมากมายเช่นนั้นในยุคสมัยก่อนๆพระองค์ไม่ทรงกลัวว่าตนเองจะจบเห่ลงแบบนั้นด้วยหรือ?

“หม่อมฉันเป็นสนมรู้ว่าวาจาสัตย์จริงไม่รื่นพระกรรณแต่ไม่ว่าอย่างไรจิตใจหม่อมฉันเพื่อฮ่องเต้ทั้งสิ้นคิดเผื่อองค์รัชทายาทเพคะ”

ฮ่องเต้ทรงเอาพระหัตถ์ไพล่หลังเดินช้าๆไปทั่วห้องเห็นได้ชัดว่าในพระทัยพระองค์ทรงกำลังครุ่นคิดใคร่ครวญ

ในที่สุดพระองค์ก็ทรงเอ่ยพระโอษฐ์ตรัสอย่างช้าๆ“ถ้างั้นเจ้าก็มาบอกเจิ้นว่าทำไมเจ้าจึงได้คิดเช่นนี้ตระกูลจางเป็นขุนนางผู้มีคุณูปการในการก่อตั้งประเทศสัตย์ซื่อจงรักภักดีเพื่อประเทศมาสามรุ่นและอ๋องชิงผินยิ่งได้นำกองทัพเหล่าทหารเขตชายแดนร่วมเป็นตายเพื่อเขตแดนของหนานหชู่แล้วจึงได้ปกป้องหนานหชู่เราไม่ถูกรบกวนโดยแคว้นเยแคว้นเชียวทั้งสองประเทศถ้าแม้แต่ขุนนางที่ซื่อสัตย์เช่นนี้เจิ้นยังสงสัยต้องระวังแล้วทั้งสิ้นไยมิใช่ทำให้พวกเขาผิดหวังต่อการลงแรงเกินไปแล้วถ้าเช่นนั้นเจิ้นมีอะไรแตกต่างจากทรราชที่ไม่แยกแยะความผิดถูกเหล่านั้นหรือ?”

ในใจลี่เฟยจมดิ่งทันทีหรือว่า...นางเดิมพันผิดแล้ว?

ความเชื่อถือของฮ่องเต้ในตัวพวกเขาถึงขั้นมิอาจปกป้องการรุกรานได้แล้วจริงๆหรือ?กระทั่งความสงสัยแม้แต่น้อยนิดก็ไม่มีเชียวหรือ?

“หม่อมฉันหม่อมฉัน...”เสียงนางสั่นจนมิกล้าเอ่ยปากบ้างอีกแล้ว

เดิมวาจาเหล่านี้ที่นางกล่าวในวันนี้ก็เป็นเรื่องร้ายแรงละเมิดกฎเกณฑ์ ถ้ากระตุ้นพระพิโรธของฮ่องเต้ขึ้นมาอีกถ้าเช่นนั้นนางก็ได้ยกหินทุ่มใส่เท้าของตนเองแล้ว

ขณะที่ในใจนางกำลังคิดไม่หยุดว่าควรจะหาเหตุผลวิธีการอย่างไรที่จะผ่อนผันให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้กลับไม่คิดว่าเวลานี้ฮ่องเต้ทรงตรัสออกมาอีก

“แต่สิ่งที่เจ้ากล่าวไม่ผิดด้วยไม่ว่าเรื่องอะไรล้วนต้องป้องกันเหตุร้ายไว้ก่อนเป็นดีตอนนี้เจิ้นประทับนั่งบนเก้าอี้มังกรตัวนี้พวกเขาไม่กล้าที่จะทำอะไรแต่ถ้าองค์รัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ในวันข้างหน้ายากที่จะรับประกันได้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรผิดปกติขึ้นในราชสำนัก”

การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในทัศนคติของพระองค์ทำให้ลี่เฟยแทบจะมิสามารถตอบสนองกลับมาได้ทันทั้งหมด

อย่าดูว่าฮ่องเต้ที่ปกติมีลักษณะมีน้ำใจใจกว้างจะกล่าวอย่างไรพระองค์ก็ทรงเป็นฮ่องเต้องค์หนึ่งด้วยถ้าไม่มีความคิดอันแยบยลสักนิดก็มิอาจสามารถประทับนั่งบนบัลลังก์นี้ได้อย่างมั่นคงเช่นนี้ความคิดอ่านในใจของพระองค์ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนปกติสามารถคาดเดาได้

และเมื่อนางได้ยิน“ใจแปลก”คำนี้ลี่เฟยอดที่จะรู้สึกกินปูนร้อนท้องมิได้รู้สึกว่าตนเองได้ถูกหุ้มห่อไว้ภายใน

“ใช่แล้วถ้าพวกเขาสามารถจริงใจตลอดมาก็เป็นเรื่องดีแน่นอนแต่เป็นเรื่องยากที่จะรับประกันได้ว่าหลังจากที่พวกเขาร่วมกันแข็งขันแล้วจู่ๆจะเกิดใจทะเยอทะยาน ถึงเวลานั้นทั้งประเทศหนานหชู่จะมีใครสามารถยับยั้งได้อีกเล่า?”

ประมาณว่านางก็ดูอะไรออกมาได้บ้างแล้วด้วยในตอนนี้ในเมื่อฮ่องเต้พระองค์ทรงตรัสวาจาเช่นนี้ออกมาก็แทนความหมายว่าพระองค์ไม่ได้เชื่อถืออ๋องชิงผินและตระกูลจางทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง

ตอนนี้พระองค์ทรงใช้สอยพวกเขาเพียงเพราะคิดต้องการใช้พวกเขาเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพของประเทศสถานการณ์ความมั่นคงเพียงถือว่าพวกเขาเป็นเครื่องมือที่ใช้สอยเท่านั้นนี่ก็เป็นศิลปะในบารมีของฮ่องเต้

“เจ้าไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้แล้วเพราะการพระราชทานอภิเษกสมรสเรื่องนี้ยังเป็นเฉินกั๋วกงได้ทูลเชิญพระราชโองการกับเจิ้นเองและเป็นคุณหนูเฉินเองที่เต็มใจจะทำตามเจิ้นได้ถามชิงเอ๋อเขาก็พอใจในคุณหนูเฉินคนนั้นมากไยเจิ้นไม่ช่วยให้ผู้คนสมหวังกันเล่า?”

อะไรให้ผู้คนสมหวังกันนี่เป็นการวางแผนอย่างแยบยลของเขาเองโดยสิ้นเชิง

ตลอดที่ผ่านมาเป่ยจื่อเฉินก็มีลักษณะธรรมดาไร้ความสามารถได้แต่รับปากครับผมลูกเดียวเขาไหนเลยสามารถออกความเห็นอะไรได้

เฉินซูเสียนนั่นไยมิใช่รู้สึกว่าตนเองอภิเษกสมรสกับองค์ชายสองไม่สำเร็จดังนั้นจึงคิดเก็บปีนป่ายกิ่งสูงแล้วจงใจมาแก้แค้น

ไม่ว่าลี่เฟยโกรธแค่ไหนก็ควรเข้าใจลูกคิดของนางล้มเหลวสูญเปล่าอีกครั้งแล้ว

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้นั่นเป็นเรื่องน่ายินดีที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง!”นางพยายามที่จะเก็บรักษารอยยิ้มเล็กน้อยออกมาแต่ในใจกลับมีพายุบุแคมคลื่นที่น่ากลัวลูกหนึ่งขี้นมาตั้งนานแล้ว

ฮ่องเต้เพื่อรักษาตำแหน่งขององค์รัชทายาท ทรงใช้สมองครุ่นคิดอย่างหนักจริงแท้แน่นอนก่อนหน้านี้ได้ทรงดำริคิดไปถึงจางยวี่โหร่วแต่ไร้ผลหลังจากนั้นก็ได้หมายตาเฉินซูเสียนอีก

ตั้งแต่เรื่องที่จางยวี่โหร่วและเฉินซูเสียนได้ต่อสู้วิวาทกันที่เทียนเวียงโหลวจางแล้วตระกูลจางกับตำหนักเฉินกั๋วกงก็ได้มีสภาพดั่งน้ำไฟแล้วในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ฮ่องเต้ได้พระราชทานเฉินซูเสียนให้อภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาทเป็นพระชายาองค์รัชทายาทนั่นไม่เท่ากับหมายความว่าได้รับเฉินกั๋วกงเข้ามาอยู่ภายใต้ปีกสยายของตนแสดงออกต่อตระกูลจางว่าแตะต้องพวกเขามิได้หรือ?เมื่อเป็นเช่นนี้ในระหว่างการต่อสู้วิวาทของตระกูลจางกับเฉินกั๋วกงเห็นได้ชัดว่าอยู่ในสภาพเสียเปรียบอีกแล้ว

ตอนนี้ลี่เฟยเองก็ไม่ได้รับส่วนแบ่งปันที่ดีอะไรเลยจึงได้แต่เพียงวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียจากเหตุการณ์

บางทีนี่อาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนักนางจะได้เห็นการต่อสู้ระหว่างกองกำลังของพวกเขาสองสามด้านหลังจากนั้นนั่งเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ดุจเฒ่าประมงตกปลาได้ประโยชน์ก็ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ