พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ นิยาย บท 133

สรุปบท ตอนที่ 133 ชีวิตขององค์รัชทายาท: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ

สรุปตอน ตอนที่ 133 ชีวิตขององค์รัชทายาท – จากเรื่อง พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ โดย ฝูซูกงจื่อ

ตอน ตอนที่ 133 ชีวิตขององค์รัชทายาท ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ โดยนักเขียน ฝูซูกงจื่อ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 133 ชีวิตขององค์รัชทายาท

จางอวี่โหร่วคิดไตร่ตรองมากจนเกินไปเสียหน่อย

แม้ว่าฮ่องเต้จะออกคำสั่งให้ปิดเรื่องนี้เอาไว้เป็นอย่างดี แต่ว่าในวันนั้นองค์รัชทายาทพาตัวหลินจื่อมาอย่างเปิดเผยภายในสวนดอกไม้หลวง และในยามออกมาหลินจื่อก็สลบไป ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยเลือด ผู้คนมากมายต่างก็เห็นอยู่ในสายตา แล้วจะสามารถปิดปากเอาไว้นานได้อย่างไร?

ดังนั้นดูเหมือนว่าภายในราชวังจะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่รับรู้เรื่องนี้ เพียงแต่ทุกคนต่างก็บอกต่อกันไปอย่างส่วนตัว ไม่มีใครกล้าออกไปพูดอะไรมากมาย

ทางฝั่งลี่เฟยและเป่ยจื่อห้าวเองก็ไม่อาจจะยอมรับได้เมื่อได้เจอกับศัตรูตัวฉกาจ

“ท่านแม่ หากสิ่งที่ท่านพูดทั้งหมดเป็นจริง หลินจื่อถูกท่านพี่ใหญ่พาตัวเข้าไปในตำหนักดองกงจริง สุดท้ายก็ออกมาด้วยสภาพสลบไป อีกทั้งเสื้อผ้ายังไม่เรียบร้อย องค์รัชทายาทที่อ่อนแอไร้ความสามารถนั่นจะสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้จริงหรือ?”

เมื่อเป่ยจื่อห้าวได้รับข่าวสารก็เข้ามายังราชวัง หลังจากได้ฟังเรื่องนี้แล้ว เขาก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อขึ้นมา

อย่างไรหลินจื่อก็เป็นชายาในอนาคตขององค์ชายรอง แม้ว่าจะไม่พอใจเพียงใดก็ไม่น่าจะพาตัวไปจัดการเป็นการส่วนตัวหรือไม่?

แค่ว่ากล่าวลงโทษสักหน่อยก็เพียงพอแล้ว แต่ว่าเขากลับกล้ากระทำการข่มเหงน้องสาวน้องชายของตัวเองเช่นนี้ แม้แต่เขาเองเมื่อได้ยินแล้วก็ยังรู้สึกว่ามันเกินกว่าเหตุไป

แม้ว่าในตอนแรกเขาจะทำกับจางอวี่โหร่ว แต่ก็เพียงต้องการจะนำประโยชน์ของตนกลับมา แต่ว่าองค์รัชทายาทนั้นกลับเพิ่มขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

“ใช่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายเห็นด้วยตาของตัวเอง แม้ว่าองค์รัชทายาทจะไม่กล้า อย่าลืมว่าข้างกายเขายังมีเฉินซูเสียนอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินซูเสียนยั่วยุ องค์รัชทายาทไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างแน่นอน” ก่อนหน้านี้ในตอนที่ลี่เฟยได้ยินเรื่องซุบซิบเล่ามา นางก็กังวลใจเรื่ององค์รัชทายาท ตอนนี้เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น แน่นอนว่านางจะต้องเกรงกลัวมาก

“ถ้าเช่นนั้นความบริสุทธิ์ของหลินจื่อยังคงอยู่หรือไม่?” ตอนนี้สิ่งที่เป่ยจื่อห้าวกำลังสนใจอยู่ก็คือเรื่องเช่นนี้

“นางถูกจับตัวเข้าไปในตำหนักดองกงนานขนาดนั้น หากว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันก็น่าจะเกิดขึ้นไปแล้ว ถ้าหากความบริสุทธิ์ของนางยังคงอยู่ นางจะโขกศีรษะเข้ากับเสาหมายฆ่าตัวตายเพื่ออันใด? อย่าได้พูดถึงความบริสุทธิ์เลย ฟังจากที่หมอหลวงว่า แม้แต่ชีวิตของนางก็ยังอาจจะไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้” ผู้หญิงต่างก็ชอบการซุบซิบนินทา โดยเฉพาะลี่เฟย นางไปถามไถ่เรื่องนี้มาอย่างกระจ่างแล้ว

“เหอะ......นางกับจางอวี่โหร่วช่างสมกับเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันเสียจริง ตอนนี้พวกนางทั้งสองต่างก็กลายเป็นดอกไม้ไร้ค่า แล้วจะยังเอาหน้าที่ไหนมามีชีวิตต่อ ข้าว่าแม้อาการบาดเจ็บจะไม่หนักหนาเท่าชีวิต ตัวนางก็จะต้องตายเพราะความอับอายของตน นี่มันช่างน่าสุขใจเสียจริง”

ตอนนี้หลินจื่อเป็นฝ่ายเดียวกับจางอวี่โหร่ว ดังนั้นเมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับหลินจื่อ เขาก็รู้สึกราวกับได้แก้แค้นจางอวี่โหร่ว และมีความสุขเสียยิ่งกว่าอะไร

แต่ว่าสีหน้าของลี่เฟยกลับยิ่งดูกังวลใจมากขึ้นไปอีก สำหรับนางแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เรื่องดีอะไร

ตอนนี้องค์รัชทายาทเป็นอาวุธที่มากประโยชน์แก่เฉินซูเสียน นางสามารถสั่งให้เขาจัดการอะไรก็ได้ ตอนนี้นางจัดการจางอวี่โหร่วและหลินจื่อ แต่ว่าเมื่อไรที่ย้ายมาถึงคราวพวกเขาก็จะต้องแย่มากแน่ๆ

“มีอะไรน่าสุขใจนัก! ลูกควรที่จะรู้ เกิดเรื่องใหญ่เพียงนั้นขึ้นในราชวัง ชายาในอนาคตขององค์ชายรองถูกองค์รัชทายาทบังคับข่มเหง อีกทั้งยังเกือบจะเสียชีวิตไป แต่ฮ่องเต้กลับไม่ได้ไต่สวน และสั่งลงโทษเพียงให้เก็บตัวเป็นเวลา 3 วันเพื่อสำนึกความผิด ส่วนเฉินซูเสียนก็ยิ่งไม่เป็นอะไร เพียงเท่านี้ก็สามารถเห็นได้แล้วว่าการปกป้องของฮ่องเต้ที่มีต่อองค์รัชทายาทนั้นเป็นไปถึงระดับไหน”

ตอนแรกเขาดีใจไปเพราะไม่ได้คิดสนใจอะไร แต่เมื่อลี่เฟยเอ่ยเตือนขึ้นมา ภายในใจของเขาก็หนักอึ้งขึ้น

“มีคนมากมายมองดูอยู่ ท่านพ่อเป็นถึงฮ่องเต้ หากว่าอยากจะปกป้องก็จะต้องหาเหตุผลที่สมเหตุสมผลมาจนได้ใช่หรือไม่? และแม้ว่าท่านพ่อจะทำเช่นนั้นแล้ว ท่านพี่รองก็สามารถปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ โดยไม่ร้องความเป็นธรรมแก่หลินจื่อหรือ?”

ภายในรอยยิ้มของลี่เฟยปนไปด้วยความไม่สนใจดูถูกและความเย้ยหยัน : “เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? แม้ว่าองค์ชายรองจะเก่งกล้าเพียงใด แต่ว่าตำแหน่งในใจของฮ่องเต้จะไปสามารถเปรียบกับองค์รัชทายาทได้อย่างไร? ในตอนนั้นเดิมทีฮ่องเต้ก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับฮองเฮาคนก่อน ถ้าหากไม่ใช่เพราะฮองเฮาเจ็บป่วย เขาก็คงไม่มาอภิเษกกับนางสนมเช่นพวกข้า และก็คงไม่มีพวกเจ้า องค์รัชทายาทเป็นลูกที่กำเนิดก่อนที่ฮองเฮาคนก่อนจะจากไป และก็เป็นลูกจากมเหสีเพียงคนเดียวของฮ่องเต้ หลายปีที่ผ่านมานี้เขารักและเอ็นดูองค์รัชทายาทมากเพียงใด และมีท่าทีเช่นใดกับพวกเจ้า อย่าได้พูดถึงว่าตอนนี้หลินจื่อยังไม่ได้อภิเษกกับองค์ชายรองอย่างเป็นทางการ แม้ว่านางจะกลายเป็นชายาขององค์ชายรองแล้วจริง เจ้าคิดว่าฮ่องเต้จะลงโทษองค์รัชทายาท หรือว่าจะจัดการหาตำหนักรับรองให้แก่หลินจื่อเพื่อปกปิดความเสียหายต่อองค์รัชทายาท?”

ในใจของเป่ยจื่อห้าวบีบแน่น บางทีจากเรื่องนี้ก็ทำให้พวกเขารู้สึกได้ว่าองค์ชายรองนั้นไม่ใช่เป้าหมายของพวกเขา ถ้าหากว่าไม่รีบจัดการองค์รัชทายาท และรอให้เขาครองบัลลังก์จริง เมื่อถึงตอนนั้นทุกอย่างก็จะยากขึ้น

“ต่างก็เป็นลูกของท่านพ่อเหมือนกันทั้งนั้น แต่เขาก็ยังคงไม่ยุติธรรมเช่นนี้ ข้ากับองค์ชายรองมีตรงไหนที่โดดเด่นไม่เท่าเขา หรือเหมาะสมกับบัลลังก์ไปน้อยกว่าเขาบ้าง แล้วสายตาของเขาเคยหยุดอยู่ที่ตัวข้าบ้างหรือไม่?”

จากเรื่องนี้ อยู่ๆ เป่ยจื่อห้าวเข้าใจกระจ่างขึ้นมาในทันทีว่าใครกันแน่ที่เป็นคู่แข่งตัวจริงของเขา ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เขาจะโจมตีผิดไป

“เจ้ารู้แล้วก็ดี แผนการครั้งก่อนเดิมทีก็ไม่ได้มีอะไรผิดพลาด แต่ว่ากลับถูกจางอวี่โหร่วเข้ามารบกวนเสียได้ ไม่อย่างนั้นตอนนั้นองค์รัชทายาทก็คงจะตายไปแล้ว และก็ยังสามารถกำจัดเสียนเฟยไปได้ด้วย จางอวี่โหร่วสมควรตายนั่นทำลายแผนการดีๆ ของเรามาหลากหลายครั้ง อีกทั้งยังอยากจะยั่วยวนองค์รัชทายาทด้วยความมากตัณหาของตัวเอง แต่ว่าเดิมทีองค์รัชทายาทก็ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย จะว่าไปแล้วก็สมน้ำหน้านาง ในตอนแรกนางช่วยองค์รัชทายาทไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ตอนนี้หลินจื่อกลับเกือบต้องเสียชีวิตไปเพราะความซื่อสัตย์ที่มีต่อนาง ไม่แน่เมื่อหลืนจื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว พวกนางอาจจะเปลี่ยนจากพี่น้องที่แสนดีมาเป็นศัตรูก็ย่อมได้?”

ไม่รู้ว่าคำพูดนี้ลี่เฟยต้องการจะกล่าวถึงจางอวี่โหร่วหรือว่าเพียงต้องการปลอบใจตัวเองเท่านั้น

อยู่ๆ สีหน้าของเป่ยจื่อห้าวก็เปลี่ยนไป และกำหมัดแน่นขึ้นมา

“ให้ตาย ข้าจะต้องไปบอกจัดการกับเฉินกั๋วกง ท่านพ่อให้ความสำคัญแก่องค์รัชทายาทมากเช่นนี้ แม้แต่เขาจะข่มเหงชายาในอนาคตขององค์ชายรองก็ยังไม่ไต่สวน แล้วเฉินกั๋วกงจะมายืนอยู่ฝั่งเราได้อย่างไร? วันนี้ตอนที่ข้าเข้าราชวังไปพบกับเฉินซูเสียน นางมีท่าทางก้าวร้าวและเย่อหยิ่งเดิมทีก็ไม่ได้มองข้าอยู่ในสายตา แล้วจะให้พูดไปถึงหลังจากนี้จะให้ข้ารับนางเข้ามาอภิเษกได้อย่างไร นี่คือท่าทีของผู้ที่ต้องการเช่นนั้นหรือ?”

จากเรื่องราวที่ผ่านมานี้ เขายิ่งไม่เชื่ออีกแล้วว่าเฉินกั๋วกงมอบความจริงใจให้แก่เขา!

ท่านพ่อของนางคือพ่อเขยของฮ่องเต้ ในตอนนั้นอย่าว่าเพียงตระกูลจางเลย ทุกคนต่างก็จะต้องหมอบลงใต้เท้าของนาง

ในตอนนั้นเฉินซูเสียนกำลังนำชุดและเครื่องประดับของชายาองค์รัชทายาทอันงดงามตระการตามาทาบกับตัวหมุนไปมาหน้ากระจกด้วยความดีใจ

ยาทนั้นเฉินกั๋วกง ท่านพ่อของนางก็ได้เดินเข้ามาจากทางประตู เมื่อเห็นท่าทีที่เต็มไปด้วยความสุขของนางแล้ว ภายในแววตาของเขาก็มืดมนลงไปเล็กน้อย

“เสียนเอ๋อร์ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานของเจ้าแล้ว ครั้งก่อนเจ้าสร้างปัญหาครั้งใหญ่ แม้ว่าฮ่องเต้จะไม่ได้ตามไต่สวน แต่เขาก็โมโหมาก แม้ว่าจะเป็นชายาขององค์รัชทายาทแล้ว เจ้าก็จะต้องรู้จักอดกลั้น อย่าได้ทำอะไรไม่คิดอีก”

ในสายตาของคนอื่น พวกเขายิ่งใหญ่ไร้จำกัดาก แต่ว่าเฉินกั๋วกงกลับตกใจจนตัวสั่น

ใครจะคาดถึงว่าความต้องการแก้แค้นของเด็กสาวจะร้อนแรงถึงเพียงนี้ นางเกือบจะทำให้ชายาในอนาคตขององค์ชายรองเสียชีวิต

แล้วองค์ชายรองจะปล่อยไปง่ายๆ หรือ? ยังไม่ต้องพูดถึงกำลังของทางฝั่งแม่เบื้องหลังซูเฟย เพียงแค่จุดยืนในตำหนักจาวของเขาก็ทำให้ผู้คนเกรงกลัว เขาไม่ใช่คนที่จะทำให้เหยื่อตกใจเลยสักนิด

ตอนนี้ทางฝั่งองค์ชายสามเขาก็ยังไม่ได้จัดการให้เรียบร้อยดี หากดึงดูดการโจมตีจากองค์ชายรองขึ้นมาอีก มันก็คงจะถูกโจมตีจากรอบด้านแล้ว

“ท่านพ่อ ควรจะทำอย่างในใจข้ารู้คิดดี ท่านไม่จำเป็นต้องย้ำเตือนข้า”

ตอนนี้นางเป็นถึงชายาขององค์รัชทายาทแล้ว แน่นอนว่าท่าทางเช่นนี้จะต้องถูกยกขึ้นมา แม้แต่กับพ่อของตัวเองนางก็ยังเริ่มไม่สนใจ

“เจ้ารู้คิด? เจ้ารู้หรือไม่ เรื่องที่เจ้ากระทำเหล่านั้นได้ทำให้องค์ชายสามเกิดความสงสัยในตัวของพวกเราแล้ว เจ้ายั่วยุให้องค์รัชทายาทจัดการหลินจื่อ ฮ่องเต้ไม่ได้กล่าวโทษเจ้า ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มสงสัยว่าพวกเราร่วมมือกับฮ่องเต้และองค์รัชทายาทหรือไม่ พ่อไม่ได้จัดการพวกเขาได้เพียงง่ายดาย!”

เฉินกั๋วกงเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมมากคนหนึ่ง เขาคิดหาประโยชน์จากทั้งสองทาง และคิดหาทางออกเอาไว้แล้ว

แต่ว่ามันกลับช่วยไม่ได้ เพราะเขามีลูกสาวที่คอยถ่วงขาอยู่ แผนการที่เขาสร้างมาด้วยความลำบากต่างก็ถูกทำลายด้วยน้ำมือของนาง

“ท่านพ่อต้องการจะพูดอันใดแน่ ตอนนี้ข้าเป็นชายาขององค์รัชทายาท เขาก็เป็นเพียงองค์ชายสามคนหนึ่งเท่านั้น หลังจากนี้เมื่อพบข้าก็ยังต้องทำความเคารพ แล้วจะไปจัดการอะไรกับเขาอีก!” เฉินซูเสียนไม่อาจจะรับต่อไปได้อีกแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ