พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ นิยาย บท 132

สรุปบท ตอนที่ 132 นกกระยางสู้กับหอย คนจับปลาจับได้หมด: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ

อ่านสรุป ตอนที่ 132 นกกระยางสู้กับหอย คนจับปลาจับได้หมด จาก พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ โดย ฝูซูกงจื่อ

บทที่ ตอนที่ 132 นกกระยางสู้กับหอย คนจับปลาจับได้หมด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฝูซูกงจื่อ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 132 นกกระยางสู้กับหอย คนจับปลาจับได้หมด

หลินจื่อถูกพากลับมายังตำหนักหลิน

เมื่อผู้ใหญ่ตระกูลหลินทั้งสองเห็นว่าลูกสาวสุดที่รักที่ออกไปดีๆ ในตอนเช้าถูกพากลับมาในสภาพเช่นนั้นก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะฮูหยินเชิ่น นางร้องไห้คร่ำครวญออกมาจนเกือบจะเป็นลมไป

เป่ยจื่อหัวอยู่เคียงข้างไม่ห่างออกไปแม้แต่ก้าวเดียว ภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเสียใจ

จางอวี่โหร่วยืนเฝ้ามองอยู่ข้างๆ เมื่อได้พบกับสถานการณ์เช่นนี้ เดิมทีนางก็ไม่อาจจะทำอะไรได้

นอกจากคอยเฝ้าให้ฟ้าเห็นใจ ปกป้องให้หลินจื่อรีบฟื้นขึ้นมา ตอนนี้สิ่งเดียวที่นางสามารถทำได้ก็คือการคิดวิธีการแก้แค้นให้กับหลินจื่อ

เฉินซูเสียนอาศัยองค์รัชทายาท ตอนนี้ถึงได้กล้ากระทำก้าวร้าวเช่นนี้ อีกไม่นานแผนการของนางก็คงจะใกล้เป็นความจริงแล้ว

ตอนนี้นางเกลียดชังองค์รัชทายาทมาก และไม่ได้รู้สึกเห็นใจเลยแม้แต่น้อย การมีอยู่ของเขาก็เป็นเหมือนตัวนำพาความซวยเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ไม่ควรจะช่วยเหลือเขาเลย หากว่าเขาตายไปเสีย ตอนนี้หลินจื่อก็คงจะไม่ถูกพวกเขาทำร้ายถึงเพียงนี้

......

ภายในห้องหนังสือตำหนักอ๋องชิงผิง

ชายหนุ่มกำลังตวัดพู่กันอยู่ที่หน้าโต๊ะอย่างตั้งใจ ทุกๆ ตัวอักษรเต็มไปด้วยพลัง ปรากฏขึ้นบนกระดาษอย่างมีชีวิตชีวาราวกับมังกรแหวกว่าย หงษาเริงระบำ

แม้ว่าจะไม่ทำอะไร และเพียงมองดูเขาเขียนอักษรก็รู้สึกดุจดั่งศิลปะอันสมบูรณ์แบบ

ในเวลานี้ อยู่ๆ หญิงสาวที่รูปลักษณ์งดงาม รูปร่างสะสวยก็เดินเข้ามาจากทางประตู

ยามปกติเมื่อนางพบเจอเขา ใบหน้าก็จะประดับไปด้วยรอยยิ้มหวาน แต่ว่าในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความอึมครึมไม่สดใส

เมื่อเห็นท่าทีไม่เป็นสุขเช่นนี้ของนาง ภายในใจของเขาก็บีบแน่นขึ้นมา

ตอนนี้ดูเหมือนว่าอารมณ์ของนางะสามารถชักจูงจิตใจของเขาได้อย่างง่ายดาย ทำให้เขาอดนึกถึงเหตุผลที่ทำให้นางไม่มีความสุขขึ้นมาไม่ได้

“เป็นเช่นใด?” เขาวางพู่กันลงไปยังที่วาง หลังจากนั้นก็เดินไปยังด้านหน้าของนาง

ใบหน้ารูปไข่ที่งดงามเช่นนี้ ถ้าหากไร้รอยยิ้ม มันก็ทำให้รู้สึกน่าเสียดายจริงๆ

จางอวี่โหร่วเงยหน้าขึ้นไปจ้องมองเขาราวกับมีเพียงมองเห็นหน้ากากเขี้ยวหมาป่าทองแดงอันดุร้ายนี้เท่านั้น นางจึงจะสัมผัสได้ถึงความปลอดภัยมากมาย

อยู่ๆ นางก็ยื่นมือออกไปกอดเขาเอาไว้ หลังจากนั้นก็ซุกตัวลงในอ้อมอกของเขา

“มีใครรังแกเจ้าหรือไม่ บอกข้ามา ข้าจะไปร้องความเป็นธรรมแก่เจ้า”

จางอวี่โหร่วส่ายหน้า : “คนที่ถูกรังแกมิใช่ข้า ข้าช่างไร้ประโยชน์ แม้แต่คนเคียงกายก็ยังไม่อาจจะปกป้องได้ เมื่อเห็นนางได้รับบาดเจ็บหนักเช่นนั้น หรือบางทีอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก ข้ารู้สึกกลัวมากจริงๆ”

แผนการแก้แค้นของนางยังไม่สำเร็จลุล่วง แต่คนเคียงกายนางกลับเริ่มต้องสังเวยชีวิต การโจมตีเช่นนี้ จางอวี่โหร่วจะสามารถอดทนรับได้อย่างไร?

“เจ้าหมายถึงหลินจื่อ? ตอนบ่ายที่ข้ากลับมา ข้าได้ยินผู้ดูแลกล่าวว่าชาวใช้ตำหนักหลินมาหาเจ้า หลังจากนั้นเจ้าก็รีบร้อนจากออกไป เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”

เมื่อจางอวี่โหร่วได้ยินเสียงที่อบอุ่นของเขา ภายในใจของนางก็แสบร้อยขึ้นมา นางทั้งเจ็บใจและเสียใจ น้ำตาจึงรินไหลลงมาอย่างอดกลั้นไม่อยู่ หลังจากนั้นนางก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้เขาฟัง

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!

แววตาด้านหลังหน้ากากของชายหนุ่มประกายความหม่นหมองออกมา

หลินจื่อถูกองค์รัชทายาทและเฉินซูเสียนทำให้เดือดร้อน พาตัวไปยังตำหนักดองกง และข่มเหงกระทำชำเรากับนาง และยังให้องค์รัชทายาทกระทำเรื่องไร้ยางอาย ต้องการจะทำลายความบริสุทธิ์ของนางอีก

คิดไม่ถึงว่าเขาเพิ่งจะจากไปได้เพียงหนึ่งวัน ภายในราชวังจะเกิดเรื่องน่าสนใจมากมายเพียงนี้

ในตอนนั้นเขาก็พูดออกมาแล้ว เพียงแค่มีจางอวี่โหร่วอยู่ ราชวงศ์หนานหชู่แห่งนี้จะต้องเต็มไปด้วยความวุ่นวาย และเริ่มพังทลายจากภายใน

ในตอนนั้นเอง ขอเพียงแรงกดดันจากภายนอกเพียงเล็กๆ ทุกสิ่งของหนานหชู่ก็จะสามารถพังทลายได้อย่างง่ายดาย

แต่ว่าเขายังคิดไกลไม่พอ ก่อนหน้านั้นเขายังต้องอาศัยสิ่งนี้ก่อให้เกิดสงครามสี่แคว้นขึ้น ดังนั้นตอนนี้มันเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น

หลังจากที่จางอวี่โหร่วบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดแก่เขาแล้ว การตอบสนองของชายหนุ่มก็คือการกอดรัดนางแน่นเข้าไป มันแน่นเสียจนราวกับต้องการจะรั้งนางให้แทรกซึมเข้าไปในกายของเขาและเกือบจะหายใจไม่ออก

เขาทำอะไรอยู่? นางบอกเรื่องของหลินจื่อออกไป หวังว่าหลังจากพูดออกไปแล้วเขาจะช่วยคิดหาวิธี ทำไมเขาถึงกระทำเช่นนี้?

“ยังดีที่ไม่ใช่เจ้า!” ในตอนที่เขาพูดออกมาในที่สุด เขาก็พูดออกมาอย่างชัดเจน

ในใจของจางอวี่โหร่วชะงักไป นางจ้องเจ้าไปภายในดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวลของเขา ภายในใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งมากมาย

ไม่แปลกเลยว่าทำไมเมื่อสักครู่เขาถึงตื่นตระหนกเพียงนั้น ที่แท้เขาก็กังวลในความปลอดภัยของนาง นางรับรู้ความรู้สึกนี้ของเขาแล้ว

หยอกล้อกันมาพอสมควรแล้ว ตอนนี้น่าจะต้องเข้าเรื่องกันได้แล้ว

“เอาล่ะ เจ้าว่า เจ้าเข้าใจอะไรบ้างแล้ว?”

เมื่อพูดเข้าเรื่องจริงจังขึ้นมา จางอวี่โหร่วก็จริงจังขึ้นมาเช่นกัน

“เรื่องในวันนี้เป็นการเตือนพวกเราอย่างรุนแรง ฮ่องเต้รักใคร่ในตัวขององค์รัชทายาทมาก มากจนถึงขั้นที่ไม่แยกแยะผิดถูกเช่นนี้ มันหนักหนากว่าที่พวกเราคาดการเอาไว้มาก เฉินซูเสียนเองก็น่าจะอาศัยใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทมาต่อกรกับพวกเราต่อไป ดังนั้นพวกเราไม่สามารถนั่งรอความตายเช่นนี้ได้ จะต้องตัดต้นตอของปัญหาเสีย”

ก่อนหน้านี้ศัตรูของนางมีเพียงองค์ชายสามและลี่เฟย ตอนนี้ยังมีเฉินซูเสียนและองค์รัชทายาทเข้ามาเพิ่มอีก หรืออาจจะเชื่อไปถึงฮ่องเต้

ศัตรูตัวหลักยังไม่ถูกจัดการ แต่ศัตรูรอบข้างกลับเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนเส้นทางหลังจากนี้จะยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

“ขุดรากถอนโคน จะยากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่ายเช่นกัน หากอยากจะเป็นนักล่าที่หลักแหลมก็ควรจะเข้าใจว่าอะไรคือ ‘นกกระยางต่อสู้กับหอย นั่งรอรับประโยชน์อย่างคนตกปลา’”

จางอวี่โหร่วพยายามคิดความหมายที่ซ่อนอยู่ด้านในประโยคของเขาอย่างตั้งใจ หลังจากนั้นก็เอ่ยถามออกมา : “ท่านหมายความว่า จะต้องยุแยงให้องค์ชายสามและองค์รัชทายาทขัดแย้งกัน? แต่ว่าเขาจะโง่เขลาถึงเพียงนั้นหรือ?”

ก่อนหน้านี้นางเองก็อยากจะอาศัยเป่ยจื่อห้าวและลี่เฟยในการจัดการองรัชทายาท แต่ว่าหลังจากที่เกิดเรื่องของหลินจื่อขึ้นมาแล้ว ทุกคนต่างก็เห็นท่าทีของฮ่องเต้ได้อย่างชัดเจน พวกเขาจะกล้าทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายเช่นนั้นหรือ?

“ไม่ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ เจ้าก็ต้องพยายามทำอย่างเต็มที่ เพราะว่านี่เป็นเพียงวิธีการเดียว”

ใช่แล้ว เรื่องการฆ่าองค์รัชทายาทนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ตอนนี้นางพยายามดิ้นรนมาสุดกำลังแล้ว มีสายตามากมายหลายคู่คอยจ้องมองนางอยู่

ถ้าหากนางไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองก็จะถูกจับได้อย่างง่ายดาย และเมื่อถึงตอนนี้ก็มีแต่ต้องตายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หรืออาจจะสร้างความเดือดร้อนไปถึงหันยี่ฉี ทั้งตระกูลจาง นางไม่มีทางจะเอาคนที่รักและใกล้ชิดที่สุดมาเสี่ยงอันตรายอย่างแน่นอน

ตอนนี้ในยามที่นางไตร่ตรองเรื่องราวต่างๆ อยู่ นางไม่ได้นึกถึงเพียงตระกูลจางแล้ว แม้แต่หันยี่ฉีก็ถูกรวมอยู่ในนั้น

“ดีล่ะ ข้ารู้แล้ว!” นางพยักหน้า ตอนนี้มีเพียงวิธีการนี้เท่านั้นที่จะสามารถใช้ได้

“บางครั้งการจัดการเรื่องบางเรื่องก็ต้องกลับพลิกหนทาง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีมากเท่าไหร่ก็จะต้องมีหนทางรอดที่ถูกต้อง เจ้าจะต้องเรียนรู้การใช้ประโยชน์จากข้อดีของศัตรู นำมันมาเป็นอาวุธที่มีประโยชน์ที่สุดต่อตนเอง และในตอนนี้เรื่องที่เจ้ากังวลใจอยู่ บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่ภายในใจของเจ้าหวาดกลัว เข้าใจหรือไม่?”

จางอวี่โหร่วเป็นหญิงสาวที่มีความฉลาดหลักแหลมเป็นอย่างมาก เมื่อเขาเอ่ยเตือนขึ้นมา แน่นอนว่านางจะต้องเข้าใจ

การปกป้องอย่างไม่สนใจเหตุผลใดๆ ของฮ่องเต้ที่มีองค์รัชทายาททำให้นางรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่ว่าในสายตาของเป่ยจื่อห้าว มันน่าจะยิ่งน่าอิจฉาริษยาเสียมากกว่า

เขาทะเยอทะยานอยากจะได้ตำแหน่งฮ่องเต้ และเพ่งเล็งองค์ชายรองมาโดยตลอด ส่วนองค์รัชทายาทนั้นเดิมทีเขาก็ไม่เคยมองอยู่ในสายตา

แต่ว่าในตอนนี้ อย่าได้พูดถึงองค์ชายรองเลย แม้แต่องค์รัชทายาทเขาก็ยังจัดการไม่ได้ ตอนนี้คนที่อยู่ในตำแหน่งสืบทอดบัลลังก์คือองค์รัชทายาทต่างหาก เป่ยจื่อห้าวจะปล่อยเขาไปง่ายๆ หรือ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ