ตอนที่ 28ทะเลเลือดแห่งความคั่งแค้น – ตอนที่ต้องอ่านของ พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
ตอนนี้ของ พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ โดย ฝูซูกงจื่อ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 28ทะเลเลือดแห่งความคั่งแค้น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 28ทะเลเลือดแห่งความคั่งแค้น
เรื่องทุกอย่างก็รายงานหมดแล้ว แต่ว่าเขายังคงนิ่งอยู่ไม่ลุกขึ้น
หันยี่ฉีสังเกตเห็นอาการของเขา จึงได้พูดขึ้นแล้ว “อยากถามอะไร ถามมาสิ”
“ข้าน้อยกลับมาครั้งนี้ได้ข่าวว่า ท่านอ๋องแต่งงานแล้ว”
ก่อนหน้านี้หันยี่ฉีได้แต่งงานแล้วถึงเจ็ดครั้ง มีชื่อกระฉ่อนว่าเป็นดวงพิฆาตภรรยา ในนครหลวงแห่งนี้มีหญิงสาวคนไหนที่ถ้ารู้ว่าตัวเองต้องแต่งงานกับอ๋องชิงผินแล้วจะไม่น่าถอดสีบ้าง เรื่องนี้ไม่เห็นน่าจะถามเลยนี่?
“อืม แล้วยังไง?”
“ท่านอ๋องได้แต่งกับคุณหนูตระกูลจาง ลืมทะเลเลือดแห่งความคั่งแค้นของเราไปแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?” พูดถึงตรงนี้แล้ว เย่หลินก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้น ดวงตาฉายความอำมหิตโหดเหี้ยมอย่างไม่ยอมลงให้ผู้ใด
“บังอาจ !“ คิ้วของชายผู้ทรงอำนาจยกสูงขึ้น แต่ไม่ได้ทำไปเพราะความโกรธ
“ข้าน้อยผิดที่พูดจาบังอาจ แต่ข้าน้อยไม่เข้าใจเลยจริงๆ ท่านอ๋องแต่งงานกับจางยวี่โหร่วมีประโยชน์ตรงไหน เกิดว่าจางยวี่โหร่วต้องมาตายอยู่ในจวนท่านอ๋อง ตระกูลจางไม่มีทางปล่อยท่านไปแน่ ท่านอ๋องดำเนินแผนการในวังมาตั้งนานหลายปี ความสำเร็จเห็นอยู่ตรงหน้าแล้ว ถ้าเกิดโดนขัดขวางจากตระกูลจางขึ้นมา นอกจากไม่เป็นผลดีแล้วซ้ำยังจะเป็นผลร้ายอย่างยิ่งด้วย”
หลายปีนี้พวกเขากับตระกูลจางไม่ยุ่งเกี่ยวกัน จึงไม่ทำให้พวกเขานึกสงสัยอะไร แต่ตอนนี้เกิดมีจางยวี่โหร่วขึ้น ไม่แน่ว่า นางอาจเป็นหมากตัวหนึ่งที่ตระกูลจางส่งมาให้สังเกตการณ์ก็เป็นได้
“จางยวี่โหร่วจะตายไม่ได้ ข้าต้องการให้นางมีชีวิตที่สงบสุข”
เย่หลินมองเขาอย่างแทบไม่อยากเชื่อ รู้สึกรับไม่ได้
“ท่านอ๋อง แต่นางเป็นหลานสาวของเฟิ่งม่อเอี๋ยน หรือท่านลืมไปแล้วว่า…..”
หันยี่ฉีพูดตัดบทเขาอย่างเย็นชา “ข้าไม่ได้ลืม เดิมทีคนที่ข้าตั้งใจจะแต่งงานด้วยไม่ใช่นาง ที่นางต้องแต่งกับข้าเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น”
อุบัติเหตุ? เป็นอุบัติเหตุจริงหรือ? เรื่องนี้ใครฟังก็ยากที่จะเชื่อ
ทำไมอยู่ดีๆถึงเกิดการสลับตัวที่เกี้ยวเจ้าสาวได้ล่ะ และถึงแม้เกิดจากความผิดพลาดจริง แล้วทำไมหลังจากที่ท่านอ๋องรู้ว่าเรื่องเกิดผิดพลาดแล้ว จึงไม่หาทางตัดขาดจากนาง แต่กลับยังทำผิดซ้ำผิดต่อไป เวลานี้ทั่วทั้งหนานฉู่ต่างร่ำลือว่าอ๋องชิงผินกับองค์ชายสามกำลังเปิดศึกชิงนาง จนไม่อาจปรองดองกันได้
แผนการครั้งใหญ่ของพวกเขาใกล้จะบรรลุผลแล้ว แต่ตอนนี้ท่านอ๋องกลับโดนผลักเข้าไปอยู่ท่ามกลางขี้ปากชาวบ้าน นี่ไม่ใช่การกระทำของคนฉลาดเลย
“ถ้างั้นท่านอ๋องมีแผนจะทำอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
หันยี่ฉีลุกขึ้นยืน เดินไปที่หน้าต่าง ร่างผอมเรียวเมื่อสะท้อนกับแสงจันทร์ดูราวกับจะเปลี่ยนเป็นเงาไป
“ใช้แผนซ้อนแผน !” ริมฝีปากบางของเขาสั่นไหวเล็กน้อย สำรอกสี่คำนี้ออกมาช้าๆ
“ข้าน้อยไม่เข้าใจเลยว่าท่านอ๋องคิดอะไรอยู่ ขอท่านอ๋องได้โปรดอธิบายให้ข้าน้อยหายสงสัยด้วยเถิด” เย่หลินไม่เคยแสดงอาการไร้มารยาทเช่นนี้มาก่อน แต่พอเป็นเรื่องตระกูลจางแล้ว ทำให้เขารู้สึกติดค้างใจอย่างมาก จนถึงกับบังอาจล่วงเกินถามเพื่อให้ได้ความกระจ่าง
และถึงแม้เขาจะไม่เป็นคนถาม เย่นอิ่งก็คงไม่นิ่งเฉยปล่อยไปแน่
ไม่ว่ายังไงก็ตาม องค์ชายสามก็รับปากแล้วว่าจะแต่งนางเข้าตำหนักสามด้วย ดังนั้นนางจึงต้องบำรุงรักษาตัวเองให้ดี ผิวกายทุกตารางนิ้วบนตัวนางจะต้องดูสว่างกระจ่างใส จะให้เกิดรอยแผลเป็นขึ้นไม่ได้เด็ดขาด ทำแบบนี้ถึงจะทำให้ผู้ชายหลงเสน่ห์ได้ ยาของจางยวี่โหร่วต้องเป็นยาดีอย่างแน่นอน นางไม่ยอมปล่อยทิ้งให้เสียเปล่าแน่
แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด หลังจากทายาไปแล้ว แขนของนางกลับเกิดอาการแสบคันขึ้นมา
ก่อนหน้านี้หลายครั้งตอนที่นางทายาก็มีอาการแบบเดียวกัน แต่อาการไม่เด่นชัด นางนึกว่าสาเหตุมาจากเพราะบาดแผล แต่ว่าครั้งนี้ รู้สึกแสบคันมากจนนางทนไม่ไหว จนต้องเกาอย่างแรง ทำให้แผลที่ตกสะเก็ดแล้วปากแผลเกิดเปิดขึ้นมาอีก
จ้าวซินซินโกรธจนรีบคว้ากระปุกยาซิ้วฮัวหยกลู่ตั้งใจปาลงกับพื้น แต่หลังจากคิดอีกทีแล้ว นางกลับเก็บยาไว้ดังเดิม
บางทีอาจเป็นเพราะว่าวิธีใช้ยานี้ไม่เหมือนกับยาอื่นทั่วๆไป หรือยิ่งรู้สึกคันยิ่งแสดงว่าบาดแผลจะยิ่งหายเร็วขึ้น บาดแผลนี้ไม่ใช่ว่าจะสมานได้ภายในไม่กี่วันนี่?
ถ้าเป็นอย่างนั้น คันแค่ไหนก็ไม่กลัว ดังนั้นนางจึงยอมอดทนทายาลงบนบาดแผลต่อไป
จางยวี่โหร่วเข้าใจนางเป็นอย่างดี นางรู้ว่าถึงแม้จ้าวซินซินจะรู้ นางก็ทิ้งยานี่ไม่ลงแน่ นั่นเพราะว่านางเป็นแค่คนชั้นต่ำที่ไม่มีวันเงยหัวขึ้นมาได้
เวลานั้นเอง นางก็ได้ยินเด็กรับใช้ในบ้านบอกว่า พรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดของเสียนเฟย ฮ่องเต้ถึงกับทรงมีรับสั่งเองว่าให้จัดงานเลี้ยงในวังขึ้นเพื่อให้พระนางได้ผ่อนคลายจิตใจ ถึงเวลานั้นบรรดาธิดาของขุนนางระดับสามผิ่นและขุนนางระดับสูง ก็จะสามารถเข้าวังไปร่วมงานเลี้ยงฉลองได้
ทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า”งานเลี้ยงในวัง” จ้าวซินซินจะรู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่นไปทั้งร่าง เพราะนั่นหมายความว่านางจะมีโอกาสได้เงยหัวขึ้นอีกครั้งแล้ว
บิดาของนางเป็นแค่ขุนนางระดับเจ็ดผิ่นชั้นผู้น้อย ถ้าอาศัยแค่บารมีของตระกูลนางคงไม่มีโอกาสแม้แต่ได้เข้าใกล้ประตูวังเป็นแน่ แต่ว่ายังมีจางยวี่โหร่วอยู่อีกคน ขอแค่นางคอยเกาะติดจางยวี่โหร่ว ก็จะได้เข้าวังไปเสนอตัวเองต่อหน้าลูกท่านหลานนางทั้งหลายเหล่านั้นได้อีกครั้งแล้ว
เพียงแต่นางรู้สึกไม่พอใจมาก เมื่อก่อนนี้ในวังมีจัดงานเลี้ยงอะไรขึ้น นางไม่จำเป็นต้องเอ่ยถาม จางยวี่โหร่วก็จะส่งคนมาแจ้งให้นางทราบ แถมยังส่งเสื้อผ้าเครื่องประดับสวยงามมาให้นางอีกด้วย แต่ตอนนี้กลับไม่มีอย่างที่ว่าเลย ถ้านางไม่บังเอิญได้ยินสาวใช้พูดแล้ว ตัวเองคงไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง ต้องพลาดงานเลี้ยงครั้งนี้เป็นแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...