สรุปตอน ตอนที่ 29ควรระวังตัวตลอดเวลา – จากเรื่อง พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ โดย ฝูซูกงจื่อ
ตอน ตอนที่ 29ควรระวังตัวตลอดเวลา ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ โดยนักเขียน ฝูซูกงจื่อ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 29ควรระวังตัวตลอดเวลา
เมื่อจ้าวซินซินมาตามถึงที่บ้าน ก็พบว่าจางยวี่โหร่วกับหลินจืออยู่ด้วยกันกำลังนั่งอ่านโคลงกลอนโบราณกันอย่างสำราญใจ
จ้าวซินซินตอนยังเด็กฐานะยากจน ภายหลังบิดาได้ตำแหน่งเล็กๆอย่างยากลำบาก เนื่องจากที่บ้านให้ความสำคัญบุตรชายมากกว่าบุตรสาว นางจึงไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ดังนั้นแม้แต่จะรู้หนังสือแค่ไม่กี่ตัวก็ยังทำได้ยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องโคลงกลอนที่พวกจางยวี่โหร่วกำลังร่ำบทกลอนกันอยู่
แต่ว่า คุณหนูที่นั่งอยู่ข้างๆจางยวี่โหร่วคือใครกัน? ทำไมนางถึงไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนล่ะ
ดูท่าทางของทั้งสองคนแล้วความสัมพันธ์เป็นไปด้วยดีมาก ดวงตาของจ้าวซินซินฉายแววความอิจฉาออกมา
จางยวี่โหร่วสมควรจะสนิทสนมกับนางมากที่สุดไม่ใช่หรือ แล้วมันเรื่องอะไรกันที่ตอนนี้จู่ๆผู้หญิงคนนี้ก็โผล่ออกมา?
หลังจากที่จางยวี่โหร่วเห็นนางแล้ว ก็ส่งสายตาบอกให้หลินจือรู้ แล้วหัวเราะขึ้นพูดว่า “น้องหลิน ท่านนี้ก็คือน้องจ้าวที่ข้าเคยพูดถึงยังไงล่ะ น้องจ้าว ท่านนี้คือหลินจือ ธิดาของเสิ่นส้าวเจียน พวกเจ้าเพิ่งพบหน้ากันเป็นครั้งแรก ทำความรู้จักกันสักหน่อยดีไหม”
หลินจือ ! นั่นมันคุณหนูตระกูลหลินที่สลับตัวกับนางที่เกี้ยวเจ้าสาวมิใช่หรือ?
จ้าวซินซินคิดว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้ช่างประหลาดเหลือเกิน ทั้งสองไม่น่าที่จะญาติดีต่อกันได้ แต่ทำไมดูแล้วกลับเข้ากันได้เป็นอย่างดีล่ะ?
จ้าวซินซินจึงระมัดระวังตัว ทักทายหลินจือตามธรรมเนียม “พี่หลิน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณหนูจ้าวค่ะ” หลินจือทักทายตอบ“ เมื่อครู่นี้พี่ยวี่โหร่วยังพูดถึงเจ้าอยู่เลย สวยสมคำร่ำลือจริงๆด้วยสิ มิน่าองค์ชายสามถึงได้ชอบเจ้านัก ถึงกับจะแต่งกับเจ้าพาเข้าตำหนักไปด้วย”
พอนางพูดเรื่องนี้ขึ้นมา จ้าวซินซินก็รู้สึกตกใจ รีบมองหน้าจางยวี่โหร่ว ก็เห็นนางยิ้มบางๆ ไม่มีสีหน้าไม่พอใจแต่อย่างใด จึงรู้สึกเบาใจ
“ไม่เลยค่ะ เป็นเพราะอาศัยบารมีของพี่ยวี่โหร่วข้าถึงโชคดีได้เข้าตำหนักองค์ชายด้วย วันหลังที่พี่ได้แต่งงานกับองค์ชายแล้ว ข้าก็จะได้ติดสอยห้อยตามไปรับใช้อยู่ข้างกายท่านพี่”
“จริงหรือ งั้นแสดงว่าเจ้าเอาใจใส่พี่ยวี่โหร่วอย่างแท้จริง ข้ารู้สึกอิจฉาท่านพี่ที่มีน้องสาวแสนดีแบบนี้”
หลินจือเป็นคนฉลาด แค่ได้ฟังคำที่นางพูดสองสามประโยค ก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่านางเป็นคนเช่นไร
จางยวี่โหร่วยิ้มพลางพูดขึ้นว่า “พรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงวันเกิดของพระสนมเสียนเฟย ข้าตั้งใจจะพาน้องหลินเข้าวังไปด้วย ทีแรกข้าเห็นว่าที่เจ้าตกน้ำครั้งก่อนร่างกายยังไม่แข็งแรงดีจึงอยากให้เจ้าพักฟื้นให้หายดีเสียก่อน ตอนนี้เห็นสีหน้าเจ้าดีขึ้นมากแล้ว ข้าก็รู้สึกสบายใจ”
“อาศัยบารมีของท่านพี่ ข้าหายดีแล้วค่ะ” นางรีบเดินเข้าไปอยู่ด้านข้างของจางยวี่โหร่ว เอามือดึงแขนของนางอย่างสนิทสนม เจตนาที่จะข่มหลินจือ “ก่อนหน้านี้งานเลี้ยงในวังทุกครั้งข้าจะเป็นคนคอยติดตามดูแลท่านพี่ตลอด เป็นห่วงว่าหากข้าไม่อยู่ด้วยท่านพี่จะรู้สึกไม่ชินได้ อย่าว่าแต่ร่างกายข้าหายดีแล้วเลย ถึงข้าจะป่วยก็ขอยืนกรานว่าจะติดตามท่านพี่ให้ได้ค่ะ”
ปากของคนอย่างจ้าวซินซิน มีแต่ทำให้คนฟังไม่ชื่นชอบ ใบหน้าที่ห่อหุ้มด้วยหน้งหนาๆของนางนั้น พูดราวกับว่าจะมีคนมาแย่งแสงสว่างจากนางไป
“น้องจ้าวช่างเป็นห่วงเป็นใยจริงๆ งั้นก็ได้ พรุ่งนี้เราเข้าวังไปพร้อมกัน น้องหลิน เจ้าก็กลับไปเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเถอะ”
หลินจือพยักหน้า ถวายคำนับ แล้วลากลับไป
จ้าวซินซินรู้สึกแปลกใจนิดๆ เตรียมพร้อม เตรียมพร้อมเรื่องอะไร ? !
จางยวี่โหร่วจับตาพฤติกรรมของนางไว้ตลอด ในใจนางรู้ดีอยู่แล้ว แต่ใบหน้ากับแสดงสีหน้าอีกอย่าง “น้องจ้าว เจ้าเป็นอะไรไปน่ะ ร่างกายยังไม่หายดีนี่ สู้เจ้าพักรักษาตัวให้หายดีก่อนดีกว่า งานเลี้ยงวันพรุ่งนี้ให้น้องหลินไปเป็นเพื่อนข้าก็พอ ไม่ว่ายังไงร่างกายก็สำคัญที่สุดนะ”
จ้าวซินซินคันไปทั้งตัวจนทนไม่ไหว แต่พอได้ยินนางพูดแบบนี้ก็ทนขึ้นมาได้ทันที
“ไม่…..ไม่เป็นไร” แย่แล้ว ทำไมยิ่งรู้สึกคันมากขึ้นล่ะ
น้ำเสียงของจางยวี่โหร่วยิ่งแสดงความห่วงใยมากขึ้น สายตาก็แสดงความเป็นห่วงออกมา “จริงสิ ครั้งก่อนเป็นเพราะเรื่องของข้า ทำให้เจ้าโดนพ่อเจ้าตีจนช้ำไปทั้งตัว แถมยังต้องมาตกน้ำอีก อากาศก็ร้อนขึ้นอีกด้วย บาดแผลอาจจะติดเชื้อก็เป็นได้ เจ้าต้องทายาให้ตรงเวลาล่ะ”
ถูกแล้ว เป็นเพราะสาเหตุนี้แน่ๆ นางจึงรู้สึกแสบคันที่แผลจนทนไม่ได้ เป็นเพราะตอนตกน้ำแผลเกิดติดเชื้อขึ้นมา สมควรตายนัก เรื่องนี้เป็นเพราะเจ้าทำข้าไม่ใช่หรือ?
จ้าวซินซินทนฝืนยิ้มพูดว่า “เพราะได้ยาชิ้วฮัวหยกลู่ที่ท่านพี่ส่งมาให้ข้า หลังจากทายานั่นแล้วบาดแผลก็สมานได้เร็วมาก เพียงแต่ว่า…..ของราคาแพงขนาดนั้น ข้าจะเก็บไว้ใช้ได้ยังไงกัน”
จางยวี่โหร่วอ่านความหมายที่นางต้องการสื่อถึงออก จึงรีบพูดสั่งว่า “รั่วสุ่ย รีบไปเอายาชิ้วฮัวหยกลู่ที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งข้ามาอีกกล่อง ผิวของจ้าวซินซินมีค่ากว่ายานั้นนักจะให้เกิดแผลเป็นไม่ได้เป็นอันขาด ไม่งั้นข้าคงรู้สึกเสียดายแย่”
รั่วสุ่ยได้ยินก็รู้สึกสะใจ รีบพูดขึ้นว่า “ค่ะ !”
“ยาชิ้วฮัวหยกลู่นี้ได้มายากเย็นนัก ของดีแบบนี้ท่านพี่ยังไม่ยอมใช้ แล้วข้าจะกล้าจะใช้ได้ยังไงกันคะ?” พอเห็นรั่วสุ่ยเดินออกไปไกลแล้ว จ้าวซินซินถึงได้กล้าพูดแสดงความรู้สึกเกรงใจ นางเกรงว่าจางยวี่โหร่วจะเกิดเปลี่ยนใจไม่ให้จริง ชิ้วฮัวหยกลู่เป็นยาชั้นดี มีหรือที่นางจะไม่เอา
“ไม่เป็นไรหรอก เจ้าเป็นน้องรักของข้านี่นา ของๆข้าก็เหมือนของๆเจ้า“ แม้จางยวี่โหร่วปากจะพูดออกไปแบบนั้น แต่เมื่อเห็นความละโมบในแววตาของจ้าวซินซินแล้ว นางก็นึกรังเกียจชิงชังในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...