พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ นิยาย บท 30

สรุปบท ตอนที่ 30ความผันผวนในวัง: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ

ตอน ตอนที่ 30ความผันผวนในวัง จาก พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 30ความผันผวนในวัง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ ที่เขียนโดย ฝูซูกงจื่อ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 30ความผันผวนในวัง

จางยวี่โหร่วจำได้ว่า ในชาติก่อน สองสามวันหลังจากที่นางแต่งกับเป่ยจื่อห้าวแล้ว ก็มีงานเลี้ยงฉลองแบบนี้ ที่จัดขึ้นเพื่อฉลองวันเกิดให้กับพระสนมเสียนเฟย

นางไม่มีวันลืม ว่าในงานเลี้ยงวันนั้นได้เกิดเหตุการณ์อกสั่นขวัญแขวนขึ้น

พี่เสียนเฟยที่นางเคารพรักอย่างที่สุด ต้องโดนกล่าวหาว่าวางยาพิษไท่จื่อ หลังจากนั้นก็ถูกฮ่องเต้ปลดจากตำแหน่งต้องเข้าไปอยู่ตำหนักเย็น

และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้พี่สะใภ้รองเศร้าโศกเสียใจอย่างยิ่ง แม้ท่านปู่จะพยายามหาวิธีแต่ก็ไม่อาจช่วยได้ เพราะนี่เป็นเรื่องภายในราชวงศ์ ไม่ใช่กิจการบ้านเมือง แม้ท่านปู่จะเป็นถึงไท่ซือแต่ก็ไม่อาจยื่นมือไปยุ่งด้วยได้ มิฉะนั้นจะไปก้าวล่วงกฎมณเฑียรบาลได้

ไท่จื่อเป็นพระโอรสเพียงพระองค์เดียวของฮองเฮาองค์ก่อน และเป็นโอรสที่ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานมากที่สุด

ถึงแม้ไท่จื่อจะเป็นคนสมองช้ามาตั้งแต่เกิด แต่ฮ่องเต้ก็มิได้ทรงใส่ใจ เขาจึงได้รับเลือกให้เป็นรัชทายาทโดยไร้คู่แข่ง การที่เขาโดนคนลอบวางยาพิษ จึงเป็นการจงใจกระตุกหนวดมังกร

ดังนั้นแม้ว่าเสียนเฟยจะถูกลงโทษ แต่แท้จริงแล้วไม่ทรงคิดลงอาญาจริง ที่ให้นางเข้าไปอยู่ตำหนักเย็นตั้งแต่ทีแรกก็เพราะเห็นแก่หน้าองค์หญิง ไม่เช่นนั้นฮ่องเต้คงประทานความตายให้นางไปแล้ว

แต่จางยวี่โหร่วรู้ดีว่า พี่เสียนเฟยไม่มีวันทำเรื่องอย่างนี้ได้แน่ นางอ่อนโยนจิตใจดีงามขนาดนั้น ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ทั้งไม่ใช่คนที่จิตใจอำมหิตลงมือฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็นแน่

องค์ไท่จื่อสำหรับพระสนมทั้งหลายแล้วถือเป็นภัยคุกคามต่อตัวเอง เป็นเพราะพวกนางล้วนแต่ให้กำเนิดพระโอรส ใครบ้างจะไม่อยากให้บุตรชายตัวเองได้เป็นฮ่องเต้ในอนาคตกัน? แต่พี่เสียนเฟยมีองค์หญิงเพียงพระองค์เดียว ทั้งอายุเพิ่งจะแค่ห้าขวบ จึงไม่มีเหตุผลที่นางต้องลงมือทำแบบนี้

ดังนั้น ต้องเป็นพระสนมคนใดคนหนึ่งที่คิดให้ร้าย นางมักคิดเสมอว่าต้องเป็นลี่เฟยกับองค์ชายสาม เพราะนอกจากพวกเขาแล้ว ใครที่ไหนจะมีจิตใจอำมหิตแบบนี้ได้

แต่นางก็อดยอมรับไม่ได้ว่า แผนครั้งนั้นช่างเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยม นอกจากสังหารไท่จื่อได้แล้ว ยังกำจัดเสียนเฟยได้อีกด้วย เป็นแผนที่ยิงนัดเดียวได้นกสองตัว

ดังนั้นงานเลี้ยงในวังครั้งนี้ นอกจากต้องช่วยหลินจือแล้ว เรื่องสำคัญที่สุดที่จางยวี่โหร่วต้องทำ คือการช่วยเหลือเสียนเฟยให้รอดพ้นจากภัยครั้งนี้ โดยต้องหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังลอบวางยาพิษตัวจริงออกมาให้ได้

เวลาผ่านไปรวดเร็ว ก็มาถึงช่วงพลบค่ำของวันถัดไป

จ้าวซินซินได้มาถึงตำหนักไท่ซือก่อนเป็นเวลานาน จึงรอที่จะเข้าไปในตำหนัก ผ่านไปสักพัก หลินจือก็มาถึง

จางยวี่โหร่วเป็นคุณหนูที่มีชาติตระกูลอย่างไม่ต้องสงสัย บิดาของหลินจือแม้มีตำแหน่งไม่นับว่าสูงมาก แต่นางก็เป็นธิดาของภรรยาเอก และมีความเป็นผู้ดีอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นลักษณะท่าทางหรือนิสัยใจคอล้วนเปิดเผยตรงไปตรงมา มีแต่จ้าวซินซิน ที่เมื่อยืนอยู่ข้างๆพวกนางแล้วดูแปลกแยกไม่เข้าพวก

ใบหน้าของนางใช่ว่าจะงามที่สุด ถ้าไม่ได้เสื้อผ้าที่จางยวี่โหร่วส่งมาให้นางเมื่อก่อนนี้แล้ว นางก็ดูเหมือนแค่เด็กในบ้านคนหนึ่งเท่านั้น

แล้วทำไมจางยวี่โหร่วถึงยังยอมพานางเข้าวังไปด้วย หรือเพราะอยากเห็นนางหาเรื่องให้ตัวเองต้องเสียหน้า

จ้าวซินซินเองก็รับรู้สถานการณ์ตอนนี้ดี ในใจจึงมีความรู้สึกอิจฉาริษยาอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้

ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่ต้องรอให้นางเอ่ยปาก จางยวี่โหร่วก็จะเอาข้าวของเครื่องใช้ของตัวเองส่งมาให้นาง เมื่อวานนางได้ส่งชิ้วฮัวหยกลู่ที่มีค่ามากมาให้นางหนึ่งกล่อง จ้าวซินซินจะทำหน้าหนาเอ่ยปากขอเสื้อผ้าเครื่องประดับจากนางอีกได้ยังไงล่ะ?

หลังจากถึงวังแล้ว เกี้ยวเพิ่งจะวางลง พวกของจางยวี่โหร่วก็ได้เจอกับเป่ยจื่อห้าว

วันนี้เขาได้มาเห็นจางยวี่โหร่วที่แต่งหน้าทาปากอย่างสวยงาม สายตาจึงจับจ้องแต่นางเพียงผู้เดียว มองนางที่กำลังเดินตรงมาทางนี้

“ถวายบังคมเพคะองค์ชาย” จางยวี่โหร่วกับหลินจือรวมถึงจ้าวซินซินรีบถวายบังคม

“โหร่วเอ๋อ ข้ามีเรื่องต้องไปจัดการก่อน อีกเดี๋ยวเราค่อยเจอกันนะ”

พอพูดจบแล้ว เขาก็รีบเดินจากไปทันที

หันยี่ฉีเห็นเป่ยจื่อห้าวจากไปแล้ว ก็ไม่ได้เดินเข้ามาพูดคุยให้ต้องรู้สึกลำบากใจ รีบจากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

จางยวี่โหร่วจึงรู้สึกโล่งใจ รู้สึกเหมือนรอดพ้นจากโลกาวินาศ

แต่ในไม่ช้านางก็รู้ว่า ตัวเองมองโลกแง่ดีไปหน่อย

ปีศาจสองตัวนั่นเดินไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เจอมารตัวใหม่เข้ามา

ขณะที่พวกนางกำลังเดินไปที่ชุนจิ่งไถซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง ในตอนนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงซุบซิบดังขึ้นที่ข้างหลังพวกนาง

“ว้าว นี่ใครกันล่ะเนี่ย ทำไมรู้สึกคุ้นหน้าจังเลย ที่แท้ก็เป็นนางเอกสองท่านที่สลับตัวกันที่เกี้ยวเจ้าสาวตามที่ร่ำลือกันนี่เอง ได้เห็นสองท่านนี้มาปรากฏตัวพร้อมกัน นับว่าเปิดหูเปิดตาพวกเราโดยแท้”

จางยวี่โหร่วมองไป ที่แท้ก็เป็นคุณหนูแห่งตำหนักเฉินกั๋วกงเฉินซู่เสียน ด้านหลังของนาง ยังมีบรรดาคุณหนูลูกของขุนนางคนอื่นๆเดินติดสอยห้อยตามหลัง ใบหน้าของพวกนางแต่ละคนบ่งบอกว่าไม่ประสงค์ดี เดินตรงมาทางพวกนาง

จ้าวซินซินย่อมเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุก จึงไม่พูดอะไรออกมา ผิดกับหลินจือ ที่กำผ้าเช็ดมือที่อยู่ในมือไว้แน่น ทุกครั้งที่เฉินซู่เสียนลบหลู่ดูหมิ่นนาง นางจะรู้สึกโกรธอย่างยิ่ง

จางยวี่โหร่วส่งสายตาห้ามนางไว้ไม่ให้ด่วนใจร้อน อย่างรวดเร็ว นางได้ตอกกลับพวกนางแต่ละคนแทนหลินจือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ