ตอนที่69 ออกตัวเข้าสู่อ้อมอก
จางอวี่โหร่วค่อยๆ นิ่งไป สีหน้าที่มองไปยังตัวเขาซับซ้อนขึ้นมาอีกระดับ
“ท่านอ๋อง อย่างไรตอนนี้ท่านก็เป็นสามีของขาแล้ว ดังนั้นเรื่องบางเรื่อง ไม่ช้าก็เร็วอย่างไรท่านก็จะได้รู้”
ตอนนี้แม้แต่เธออยากจะปกปิดเขา ก็คงไม่อาจจะปกปิดได้อีกต่อไป
เมื่อคิดดูอย่างละเอียดแล้ว เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลังจากที่ย้อนเวลากลับมามีชีวิตอีกครั้ง มีเรื่องไหนบ้างที่เขาไม่ได้ร่วมอยู่ภายในด้วย? เธอรู้เรื่องนี้ชัดมาตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นตลอดที่ผ่านมา แม้จะไม่ได้บอกเขาอย่างละเอียด แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะปิดบังเขามาก่อน
“อย่างไรรู้ช้ารู้เร็วต่างก็เหมือนกัน เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงไม่บอกความลับของเจ้าออกมาให้ข้ารู้ตั้งแต่ตอนนี้ ว่ามาสิ เป้าหมายของเจ้าคืออะไรกันแน่?”
ตั้งแต่ที่ได้พบเจอเธอในวันวิวาห์ เขาก็รู้แล้วว่าเธอมีความลับมากมายเก็บซ่อนเอาไว้
เขาเคยทำการตรวจสอบเธอไปแล้ว ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าเธอคาบช้อนทองมาตั้งแต่เกิด เดิมทีก็เป็นคุณหนูร่ำรวยที่เกิดมาพร้อมความรักความเอ็นดูมากมาย ตั้งแต่เล็กจนโตไม่ได้มีอะไรจำเป็นต้องคิดมากเช่นนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าจางอวี่โหร่วในตอนนี้กลับแตกต่างไปจากผลสรุปจากการตรวจสอบของเขาไปโดยสิ้นเชิง อะไรกันแน่ที่ทำให้เธอเปลี่ยนไป
“มีบางเรื่องที่ไม่อาจจะใช้คำพูดอธิบายออกมาได้อย่างชัดเจน แต่จำเป็นที่จะต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจไป ข้าตกลงไปแล้วว่าจะเป็นผู้หญิงของท่าน หลังจากนี้พวกเรายังมีเวลาอีกทั้งชีวิตในการทำความเข้าใจรู้จักกันและกัน เหตุใดท่านจึงจำเป็นต้องรีบร้อนในเวลานี้?”
ความขมขื่นอันมากมายภายในใจของเธอคงไม่อาจจะพูดออกมาให้รู้ชัดได้ในคำพูดเพียงไม่กี่ประโยค หรือแม้เธอจะเล่าเรื่องในชาติก่อนออกมา เขาก็จะต้องไม่เชื่อ หรืออาจจะคิดว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นเรื่องน่าขัน และมองว่าเธอเป็นคนบ้าคนหนึ่ง
ว่าไปแล้วก็ใช่ ต่อให้เธอจะพูดออกไปแล้ว เขาก็จะต้องสงสัย สู้ค่อยๆ คอยเฝ้าดูไปก่อนแล้วค่อยพูดจะดีกว่า จะอย่างไรไม่ว่าตอนนี้เธอจะทำอะไรต่างก็ไม่อาจจะหลุดพ้นจากเงื้อมือเขาไปได้
เมื่อเห็นว่าภายในแววตาของเขาไม่ได้กดดันคนมากเท่าตอนแรกแล้ว ในที่สุดจางอวี่โหร่วก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจออกมา
“ตอนนี้ท่านก็สามารถบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่ข้าสลบไปได้แล้วใช่หรือไม่? หลังจากที่ท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านแม่รู้เรื่องแล้วจัดการอย่างไร? คนของตำหนักเฉินกั๋วกงได้มาเยี่ยมเยียนขอโทษหรือไม่? ท่านได้บอกท่านปู่หรือไม่ว่าไม่ควรให้อภัยพวกเขา เรื่องนี้ยิ่งวุ่นวายใหญ่โตได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี?
หันยี่ฉีมองไปที่เธอด้วยความเหนื่อยหน่ายเล็กน้อย : “เจ้าถามคำถามออกมามากมายขนาดนี้ อยากจะให้ข้าตอบข้อไหนกัน?”
“ท่านก็ค่อยๆ ตอบมาทีละคำถามสิ!” จางอวี่โหร่วเริ่มจะร้อนรนขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว จากนั้นเธอก็รีบจับมือของเขาสั่นไปมาอย่างรีบร้อน
แต่ว่าเห็นได้อย่างชัดเจนตอนนี้ตัวเธอกำลังแช่น้ำอยู่ที่บ่อน้ำร้อน เมื่อเท้าของเธอลื่นไปเพียงเล็กน้อยก็ถลาเข้าไป โชคดีที่มือใหญ่อันอบอุ่นข้างหนึ่งโอบอ้อมเอวของเธอเอาไว้ จากนั้นก็กอดเธอจมลงไปในอ้อมอกอย่างแนบแน่น
เมื่อผิวพรรณของทั้งสองแนบสนิทต่อกัน ใบหน้าของจางอวี่โหร่วแดงก่ำขึ้นมา
แต่ว่าในครั้งนี้เธอกลับไม่มีเรี่ยวแรงผลักเขาออกอย่างก่อนหน้าแล้ว เธอรู้สึกอึดอัดจนไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป
“ชายาเป็นฝ่ายออกตัวเข้าสู่อ้อมอกเช่นนี้ ข้าไม่ควรจะพลาดไปใช่หรือไม่?” เขาก้มหน้าลงมา ไอลมร้อนเป่าพัดผ่านใบหูของเธอ ในตอนนั้นใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมาราวกับกุ้งต้มในทันที และเธอก็ไม่อาจจะเงยหน้าขึ้นมาได้อีกแล้ว
ถ้าหากว่าวันนี้เขาทำอะไรสักหน่อยกับเธอ มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะว่าเดิมทีเธอก็ไม่อาจจะสามารถผลักเขาออกได้ รวมทั้งไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเขาด้วย
เขาเกลี่ยพวงแก้มของเธอ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ก้มหน้าลงมา
จางอวี่โหร่วหลับตาลงตาม เธอคิดขึ้นมาว่าอย่างไรวันหนึ่งก็ต้องมาถึง อดทนเสียหน่อยเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวในจินตนาการของเธอจะไม่ได้เกิดขึ้น ละอองน้ำกระจายผ่านข้างหูของเธอไป เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าเขาไปถึงขอบสระแล้ว จากนั้นก็นำชุดกันลมออกมาสวมใส่ จากนั้นก็ยังไม่ลืมหันกลับมายกรอยยิ้มหยอกล้อให้แก่เธอ
“วันนี้ข้าพอใจในท่าทีของชายามาก ดูเหมือนว่าวันของการร่วมหอของเราน่าจะไม่อีกไกลแล้วล่ะ”
หลังจากที่พูดจบ เรือนร่างที่สูงโปร่งก็จากออกไป และทิ้งให้จางอวี่โหร่วยืนกัดริมฝีปากอย่างขัดเขินเพียงคนเดียว
เขาเพิ่งจะ......เดิมทีเขาก็แค่แกล้งหยอกล้อเธอ และไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว
ในตอนนั้นเธอยังดิ้นรนและเครียดกังวล หลังจากนั้นก็พยายามมองข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ เพื่อยอมรับมันอย่างยากลำบาก แต่ผลปรากฏว่าสุดท้ายเธอก็ต้องขายหน้าแทบตาย
การกระทำเมื่อสักครู่ของตัวเอง สำรวจผู้ชายแล้ว มันก็ไม่ใช่การเป็นฝ่ายมอบตัวเองเข้าสู่อ้อมอก หรือเป็นฝ่ายออกตัวเชิญชวนเองหรือ? สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ทำขั้นตอนต่อไป ไม่ได้ทำอะไรเธอเลยแม้แต่น้อย และไม่ใช่เพราะผลที่เกิดขึ้นจากการที่เธอพยายามตอบโต้ถึงหลุดพ้นมาได้ด้วย สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ภายในใจของจางอวี่โหร่วไม่อาจจะทนยอมรับได้
“คุณหนู!” อยู่ๆ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาหยุดความคิดของจางอวี่โหร่ว และในเวลาเดียวกันก็ขจัดความอึดอัดของเธอไปด้วยเช่นกัน
หันยี่ฉีออกไปแล้ว และเรียกเสี่ยวเฟิงเข้ามาเพื่อรับใช้ดูแลอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ
“คุณหนู ทำไมใบหน้าท่านแดงก่ำเช่นนั้นเล่า” เมื่อเสี่ยวเฟิงเข้ามาก็เอ่ยถามออกมาตรงๆ โดยไม่ไว้หน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...