ตอน ตอนที่77 กระบี่ในวิญญาณ นางฟ้าในภาพวาด จาก พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่77 กระบี่ในวิญญาณ นางฟ้าในภาพวาด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ ที่เขียนโดย ฝูซูกงจื่อ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่77 กระบี่ในวิญญาณ นางฟ้าในภาพวาด
ยามสนธยาท้องฟ้าแดงทั่ว ประดุจสีเลือดปานนั้น ทำให้ผู้คนอดที่จะคิดถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างโหดเหี้ยมที่สะเทือนฟ้าดินเมื่อยี่สิบปีก่อนไม่ได้
ในตอนนั้น พื้นฟ้าแผ่นดินใหญ่ไม่มีสถานการณ์เหมือนในปัจจุบันแบ่งเป็นแคว้นเย่ แคว้นเย่น แคว้นเซียวและแคว้นเหลียง
แคว้นเย่เริ่มแรก เจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ มีเสถียรภาพ ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข
แคว้นเย่ตั้งอยู่ในดินแดนแถบทางใต้ ภูมิอากาศอบอุ่น ปีหนึ่งมีสี่ฤดูฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ธัญพืชทั้งห้าอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้เริ่มแรกจักรพรรดิได้มีการปกครองที่มีระบบระเบียบ ประชาชนที่อาศัยอยู่ ทำงานอย่างมีความสุข
นี่เป็นภาพที่สวยงามดีอะไรเช่นนี้ภาพหนึ่ง แต่กลับมีใครบางคนที่ดันรบกวนความสงบสันติของแผ่นดินนี้แล้ว
ในปีนั้น ประกายดาบและเงามีด เปลวไฟพลุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เลือดสดของผู้คนนับไม่ถ้วนได้ย้อมแผ่นดินแคว้นเย่แดงทั่วไปหมด
มองไปรอบ ๆ ซากศพซ้อนขึ้นเป็นภูเขา เสียงร่ำไห้แหบแห้งดังสนั่นไปทั่วท้องฟ้า น่าสังเวชสยดสยองรุนแรงดั่งนรกบนดินท่ามกลางมนุษย์
ตามข่าวลือ จักรพรรดิแห่งแคว้นเย่ทรงนำกองทัพด้วยพระองค์เองเข่นฆ่าศัตรู นำเหล่านักรบทั้งหมดยืนหยัดจนถึงนาทีสุดท้าย ได้ทำศึกรบจนตาย ศีรษะถูกทหารศัตรูตัดและแขวนไว้เหนือประตูเมือง
จักรพรรดินีไม่สามารถทนทรมานและเจ็บปวดได้ ได้ฆ่าตัวตายตามไปด้วย แผ่นดินแม่น้ำและภูเขาที่ดีแถบหนึ่งตกเข้าในมือของพวกโจรไปสิ้น
กองทัพศัตรูเดิมคือกองกำลังพันธมิตรของแคว้นเย่นและแคว้นเซียว เผชิญค่ายสองแคว้นไหนเลยจะเกรงกลัว แคว้นเย่ก็ปราศจากความกลัวใด ๆ ทั้งสิ้น แต่น่าเสียดายที่ป้องกันทั้งวันทั้งคืน โจรในบ้านยากที่จะป้องกัน เดิมเป็นสถานการณ์ที่ได้ชัยชนะแน่นอน แต่เพราะมีคนทรยศในแคว้นแย่ สมรู้ร่วมคิดกับแคว้นศัตรูมีการสื่อสารติดต่อลับ ๆ ประสานนอกใน
ในช่วงทำศึกสำคัญ เขากลับเปิดประตูเมืองโดยส่วนตัว นำกองทัพศัตรูเข้ามาในเมือง ในไม่ช้าจักรพรรดิสู้ศึกจนถึงแก่พิราลัย แคว้นเย่ฝูงมังกรปราศจากเศียร จึงได้ดับสูญตามไปด้วยอย่างรวดเร็ว
แวบเดียวยี่สิบปีผ่านไปแล้ว แคว้นเย่ที่ล่มสลายไปนานแล้ว แคว้นเย่นก็ได้พัฒนาจากแรกเริ่มเป็นประเทศเล็ก ๆ ประเทศหนึ่งจนกลายเป็นศูนย์กลางไปมาหาสู่ของทั้งสี่ประเทศในปัจจุบัน
ส่วนหนานหชู่ในปัจจุบัน ถูกสร้างขึ้นหลังจากการล่มสลายของแคว้นเย่ ด้วยการเหยียบย่ำบดขยี้เลือดสดของชาวแคว้นเย่นับไม่ถ้วน จักรพรรดิผู้ก่อตั้งหนานหชู่เดิมเป็นชาวแคว้นเย่ เขาก็คือคนทรยศที่แอบสื่อสารติดต่อกับประเทศศัตรูต้อนรับกองทัพของศัตรูเข้ามาในเมือง จนนำไปสู่การล่มสลายของแคว้นเย่โดยตรง
แต่เวลาก็ได้ถูกชิงไปแล้วนานขนาดนี้แล้ว ยังมีอีกกี่คนมากน้อยที่สามารถจดจำโศกนาฏกรรมในเริ่มแรกได้น่ะ?
...
ยามสนธยาสีเลือดค่อย ๆ จางหายไป ความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุดครอบคลุมทั่วพื้นดินกว้างไพศาล
ข้างหน้าเป็นป่าทึบที่มืดครึ้มแนหนึ่ง ปกคลุมด้วยหมอกหนา ไม่ว่าใครเดินเข้าไปแล้วล้วนสามารถสูญเสียหลงทิศทางได้ สุดท้ายก็ยัง ต้องติดอยู่ข้างในเป็น ๆจนตาย ถ้าบุกเข้าไปโดยไม่ระมัดระวัง ก็เทียบเท่ากับเหยียบก้าวเข้าสู่ประตูใหญ่แดนขุมนรกอเวจี
แต่กลับไม่มีใครรู้ว่า หลังป่าทึบผืนนี้ยังมีถ้ำฟ้าสวรรค์อีกแห่ง
พระราชวังสูงตระหง่านตั้งตรง ล้อมรอบด้วยภูเขาหนึ่งด้าน อีกสามด้านเป็นน้ำ สร้างขึ้นแบบอิงเขาใกล้น้ำ มองจากที่ไกล ๆ ก็รู้สึกทรงพลังมีพลานุภาพอันยิ่งใหญ่งดงาม
ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมหรือเค้าโครงฮวงจุ้ยล้วนแตกต่างกันอย่างมากกับข้างนอก ก็ดุจดั่งแดนสวรรค์ท่ามกลางมนุษย์ที่แผ่ซ่านลมหายใจอันแปลกประหลาดน่ากลัว
กลางท้องพระโรง เงาร่างสีขาวคนหนึ่งกำลังนั่งสมาธิหลับตาอยู่ที่นั่น
กวาดตาดูไปปราด ก็ทำให้ผู้คนมิอาจละสายตาไปจากร่างเขาได้เลย ถึงกับคิดว่าตนเองได้เห็นเทพไท้ในตำนานแล้ว
ถ้าเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา เหตุไฉนเขาจึงได้มีเค้าหน้าที่สะสวยที่สุดอะไรเช่นนี้!
ตาคิ้วดั่งวาดไว้ ผิวราวน้ำแข็งสลักเหลากระดูกหยก ริมฝีปากคู่บางเรียวนั้นหยักขึ้นเล็กน้อยกลับยิ่งมีเสน่ห์เย้ายวนผู้คนดูวิจิตรบรรจง เค้าโครงสัดส่วนใบหน้าปานประหนึ่งทองคำเป็นผลงานชิ้นเอกที่สมบูรณ์แบบที่สุดในแดนสวรรค์ แม้แต่ในโลกนี้สิ่งของทัศนียภาพที่ดีที่สุดที่เคยมีรวมกันขึ้นมาล้วนมิอาจเทียบเท่าเขาได้สักนิด
เพราะตอนนี้เขากำลังฝึกเกี่ยวข้องกับกำลังภายใน ดวงตาปิดสนิท ขนตายาวงอนภายใต้รัศมีของไข่มุกกลางคืนในท้องพระโรงโรยตัวเป็นแสงเงาที่ลึกลับเบาบาง ผิวพรรณนั้นยิ่งขาวใสมากขึ้น
เห็นได้ชัดว่าผู้ชายในชุดขาวไม่ได้วางแผนที่จะปล่อยให้เขาไปง่าย ๆ ถ้าสังเกตอย่างละเอียดลออ ก็จะพบว่าดวงตาของเขาไม่ได้เป็นสีดำบริสุทธิ์แต่มีประกายสีแดงโผล่ขึ้นมาจาง ๆ ภายในแฝงไว้ด้วยสีหน้าที่บ้าคลั่งกระแสหนึ่ง นั่นเป็นอาการแสดงของธาตุไฟแตกเข้าสู่ภาวะมารอย่างเห็นได้ชัด
“บอก ใครส่งเจ้ามา!” เขาซักถามอย่างเย็นชา ราวกับเป็น “เทพสังหาร”องค์หนึ่งที่ควบคุมความเป็นความตายของชีวิต
“เจ้าอย่าคิด ข้าไม่บอกเจ้าเด็ดขาด” แม้ว่าในใจเขาสยดสยองอย่างมาก แต่กลับพูดด้วยปากที่แข็งมาก
ให้ตายสิ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังนั่งสมาธิฝึกลมปราณกำลังภายในชัด ๆ มิอาจขัดจังหวะหยุดกลางคันได้อย่างสิ้นเชิง ที่แท้เขาสามารถสะท้อนกลับมาได้อย่างไร ทั้งยังระเบิดกำลังภายในที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ออกมา?
คิดว่าพลังความสามารถของตัวเองในวงการยุทธจักรก็มีไม่กี่คนที่สามารถต้านรับได้ แต่กลับถูกเขาซัดหนึ่งฝ่ามือจนได้รับบาดเจ็บสาหัส วิทยายุทธของเขาที่แท้ได้บรรลุถึงขั้นตอนที่น่ากลัวอย่างไร?
เดิมทีเขามาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม หลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่เป็นเวลานานจนในที่สุดก็รอจนถึงโอกาสเช่นนี้ครั้งหนึ่ง แต่ไม่คิดว่ายังคงล้มเหลวเนื่องจากขาดความพยายามครั้งสุดท้าย
ก้นบึ้งดวงตาคนในชุดสีดำมีแววไม่เต็มใจยินยอมอันแข็งแกร่งกระแสหนึ่งแวบผ่าน ความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ก็ระเบิดออกมาแรงมากอย่างหาที่เปรียบมิได้
เขากัดฟันพลางลุกขึ้นยืน หลังจากโจมตีหนึ่งกระบวนอย่างล่อลวงก็คิดหลบหนี แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกไปหนึ่งก้าว ก็ถูกกระบี่หนึ่งเล่มแทงทะลุใจโดยตรง
ในมือของเขาไม่มีอาวุธชัด ๆ ทำไมสามารถทำได้!
คนในชุดสีดำก้มศีรษะลงมาอย่างไม่กล้าที่จะเชื่อ จึงได้พบว่าที่ทะลุหน้าอกของเขา เป็นกระบี่พลังลมปราณเล่มหนึ่ง!
อาณาจักรที่สูงสุดของการฝึกฝนวิทยายุทธ ก็คือสามารถใช้กำลังภายในหลอมรวมผนึกลมปราณจริงเป็นอาวุธเล่มหนึ่ง ซึ่งมีพลังอำนาจประสิทธิภาพร้ายแรงมากกว่าอาวุธที่แท้จริง
เมื่อชายในชุดสีดำล้มลง ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีด นี่เขาจึงได้รู้ว่าช่องว่างระหว่างตนเองและเขาไหนเลยจะเป็นเพียงความแตกต่างระหว่างเมฆและโคลนเท่านั้น เขาได้ส่งตนเองเข้าประตูมาหาความตายอย่างสิ้นเชิง
หลังจากชายในชุดสีดำได้สิ้นลมอย่างสมบูรณ์ เวลานี้ชายในชุดสีขาวก็มิอาจยืนหยัดได้อีกต่อไป คิ้วหล่อขมวดเล็กน้อย เลือดฝอยสดได้ซึมล้นออกมาจากมุมปาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...