ป้ายวิญญาณสีดำ ตัวหนังสือสีทองอร่าม ทำตกตะลึงไปทั่วงาน!!!
ตระกูลเซียวแห่งซูหาง แผ่นป้ายวิญญาณของพ่อผู้ล่วงลับเซียวอานอู่ และแม่ผู้ล่วงลับซูเหวินเซี่ย!
สายตาของทุกคนมองไปยังแผ่นป้ายวิญญาณ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง!
นี่มันจะเหิมเกริมมากเกินไปแล้ว!
เซียวจ้านคิดจะสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งกับตระกูลหนิงสินะ!
ในงานพิธีหมั้นหมายของหนิงเอ๋อร์ ที่มีผู้คนชื่อเสียงโด่งดังของซูหางมากมาย และอยู่ต่อหน้าคุณชายใหญ่ตระกูลฉินเช่นนี้ แต่เซียวจ้านกลับนำเอาแผ่นป้ายวิญญาณของพ่อแม่ตัวเองออกมา!
นี่เป็นการหักหน้าตระกูลหนิงอย่างชัดเจน!
“นี่มัน….งานพิธีหมั้นหมายของหนิงเอ๋อร์ในวันนี้คงจะจบไม่ดีแน่เลย”
“เซียวจ้านคนนี้มันหมายความว่ายังไง? เหิมเกริมมากจริงๆ! ตระกูลเซียวสูญสิ้นไปตั้งนานแล้ว ตระกูลหนิงในตอนนี้ เป็นตระกูลอันดับต้นแห่งซูหรง!เขาทำแบบนี้ เป็นการหาเรื่องตายไม่ใช่หรือไง!”
“สุนัขไร้ครอบครัวคนนี้ คิดอยากจะก่อเหตุวิบัติในซูหางหรือยังไง?”
ทุกคนต่างซุบซิบนินทา ส่วนมากล้วนเป็นการดูถูกเหยียดหยามเซียวจ้าน รวมทั้งมีความเกลียดแค้นด้วย!
ซูฉีหมิงที่นั่งอยู่โต๊ะหลักตอนนี้ก็ทำเพียงแค่นั่งมองดูด้วยสีหน้านิ่งเฉยและจิบชาอย่างเฉยเมย
เขารู้ตัวตนที่แท้จริงของเซียวจ้านตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว!
ไม่คิดเลยว่า ราชาเป่ยเหลียงที่ปกครองทหารเป่ยเหลียงสามแสนนาย จะเป็นคุณชายของตระกูลเซียว!
วันนั้นที่ซูฉีหมิงได้รับรู้ตัวตนที่แท้จริงของเซียวจ้านมาจากหัวหน้าเก่า เขาเองก็ตกตะลึงอย่างมากอยู่นานเช่นกัน!
โศกนาฏกรรมของตระกูลเซียวในตอนนั้น เขาเองก็รับรู้ แต่นั่นเป็นปัญหาของตระกูลในซูหาง ซูฉีหมิงไม่มีอำนาจที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว
แต่ในตอนนี้ เซียวจ้านที่หลบหนีออกจากซูหางเหมือนดั่งหมาไร้บ้าน ได้ประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงแล้ว ยืนหยัดอยู่บนตำแหน่งสูงสุดที่ทุกคนไม่สามารถเอื้อมถึง! คนเช่นนี้ นำเอาความเคียดแค้นที่มากมายกลับมาสู่ซูหาง มายังงานพิธีหมั้นหมายของหนิงเอ๋อร์ จะต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน!
หลี่ฉางเซิ่งที่อยู่ด้านข้างเองก็มองเซียวจ้านด้วยแววตาประกาย จากนั้นก็หันไปมองซูฉีหมิง พบว่านายกฯซูท่านนี้มีสีหน้าเรียบเฉย เหมือนดั่งว่าไม่สนใจเรื่องตรงหน้านี้
จึงทำให้หลี่ฉางเซิ่งเกิดความสงสัย แล้วถามเสียงเบาว่า “น้องซู ทำไมนายดูไม่สนใจเลยสักนิดละ? หรือว่า น้องซูรู้จักเซียวจ้านคนนี้?”
ซูฉีหมิงยิ้ม พูดว่า “เรื่องของตระกูลเซียวมีใครไม่รู้บ้าง? เพียงแต่ เซียวจ้านคนนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว คาดว่าคราวนี้ตระกูลหนิง คงจะจบสิ้นแล้วละ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่ฉางเซิ่งสีหน้านิ่งอึ้ง ถามว่า “คำพูดนี้ของน้องซูหมายความว่ายังไงกัน?”
ซูฉีหมิงยิ้มอย่างลึกซึ้งคาดเดาไม่ได้ แล้วพูดว่า “ยังจำเรื่องที่หมอเทวดาทั้งสามมาปรากฏตัวในสนามบินซูหางพร้อมกันเมื่อวันก่อนได้มั้ย?”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซูฉีหมิงก็ไม่พูดอะไรต่ออีก หยุดไว้เพียงเท่านี้!
แต่หลี่ฉางเซิ่งไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป นึกคิดอะไรออกได้ในทันที แล้วสีหน้าก็อึ้งตะลึง ดวงตาเบิกกว้าง มองดูเซียวจ้านอย่างไม่กล้าเชื่อ แล้วพูดเสียงเบาว่า “น้องซู นายหมายความว่า หมอเทวดาทั้งสามมาเพราะเขาอย่างนั้นหรอ?!”
ซูฉีหมิงส่ายหัว เป็นสัญญาณบอกให้หลี่ฉางเซิ่งกลืนสิ่งที่คาดเดาออกมากลับเข้าไป และขณะเดียวกันก็พูดเตือนว่า “พี่หลี่ พี่เป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของซูหาง ได้พบปะผู้คนมากมาย บางเรื่องบางอย่าง ตัวเองรู้ก็พอแล้ว อย่าได้ให้คนอื่นรู้เด็ดขาด!ไม่อย่างนั้น เรื่องที่เกิดกับตระกูลจิน คงจะได้ซ้ำรอยอีกครั้งนะครับ….”
เดิมทีหลี่ฉางเซิ่งก็ตกตะลึงอย่างมากแล้ว แต่เมื่อได้ยินซูฉีหมิงพูดถึงตระกูลจิน ก็นึกถึงเรื่องที่ตระกูลจินถูกทำลายเมื่อคืนนี้!
ชั่วขณะนั้น ภายในใจของหลี่ฉางเซิ่งตกตะลึงจนถึงขีดสุด และขณะเดียวกันความคาดเดาต่อตัวตนของเซียวจ้านก็สูงมากยิ่งขึ้น!
ตระกูลจินถูกทำลาย ที่แท้ก็เป็นเพราะเขา!
น่ากลัว!น่ากลัวมาก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลมังกรเวทย์ประการ