เจียงอวี่โหรวก้มศีรษะลงอย่างเขินอาย ในใจก็เหมือนมีลูกกวางมาพุ่งชน
และในเวลานี้เอง เข่อเข่อกลับปิดปากอยู่ด้านข้าง หรี่ดวงตา หัวเราะเอิ๊กอ๊าก “โอ๊ะๆๆ คุณแม่เขินแล้ว คุณแม่เขินแล้ว......”
พอเจียงอวี่โหรวได้ยิน รีบตามเข้าไป แกล้งทำเป็นโมโหแล้วพูดว่า “เข่อเข่อ หนูพูดเหลวไหลอะไรกัน! เดี๋ยวแม่จะตีก้นเลย......”
“อ่า! คุณพ่อ คุณแม่จะตีหนู” เข่อเข่อวิ่งเข้าไปโดยตรง กระโจนเข้าในอ้อมอกของเซียวจ้าน
เจียงอวี่โหรวถลึงตาใส่เขาทีหนึ่ง บอกว่า “นายก็ให้ท้ายลูกไปเถอะ”
เซียวจ้านยักไหล่ ทำหน้าทะเล้นใส่เจียงอวี่โหรวด้วยกันกับเข่อเข่อ บอกว่า “ลูกสาวฉัน ฉันให้ท้าย แล้วยังไง?”
ส่วนทางนี้ เจียงเฉินกับสวีเฟินหลังออกมาจากบ้านน้อย โกรธจนทิ้งกล่องของขวัญในมือลงบนพื้น พูดโวยวาย “แม่ครับ! แม่ดูเซียวจ้านคนนั้น ช่างโอหังจริงๆ เลย! เขาเป็นใครกัน คาดไม่ถึงกล้าพูดจากับพวกเราแบบนั้น! น่าโมโหมาก!”
สวีเฟินหน้าดูหนาวเหน็บ บอกว่า “เอาล่ะๆ พูดให้น้อยหน่อย ถ้าไม่ใช่เพราะการร่วมงานกับลี่หมิน กรุ๊ป แม่ก็ขี้เกียจมาสถานที่โกโรโกโสแบบนี้เหมือนกัน! หลายวันนี้ ลูกก็เข้ามาดูทุกวัน จนกระทั่งแผนการของหล่อนทำเสร็จค่อยเลิก!”
เจียงเฉินก็พยักหน้า สูดหายใจทีหนึ่งแล้วพูดว่า “คงได้เพียงปล่อยตามยถากรรมแล้ว”
ไม่นาน ผ่านไปสี่วันแล้ว
เจียงซื่อ กรุ๊ป ห้องประชุม กำลังดำเนินการประชุมตัดสินแผนการสองฉบับ
แผนการสองฉบับไม่ได้ระบุชื่อ ดังนั้นผู้จัดการ ผู้จัดการใหญ่ สมาชิกของคณะกรรมการสามสิบกว่าคนของบริษัทที่เข้าร่วมลงคะแนนในห้องประชุม ล้วนไม่รู้แผนการสองฉบับนี้มาจากฝีมือของใคร
เพราะเซียวจ้านไม่ใช่คนตระกูลเจียง ย่อมไม่อาจเข้าร่วมในห้องประชุมได้ ดังนั้นจึงได้เพียงนั่งรออยู่ด้านนอกอย่างสงบ
เจียงเหม่ยเหยียนและเจียงอวี่โหรวย่อมนั่งอยู่ด้านข้างอย่างเรียบร้อย รอคอยการลงคะแนนเลือกของพวกเขา
เพียงแต่ว่า เจียงเหม่ยเหยียนกอดหน้าอก นั่งไขว่ห้าง เห็นชัดว่าหยิ่งยโสและมั่นใจมาก ส่วนเจียงอวี่โหรวก็หวาดกลัวและวิตก ดวงตาเต็มไปด้วยแววความประหม่า
“เชอะ! เจียงอวี่โหรว อย่าฝันไปเลย! แผนการของฉันต้องชนะอยู่แล้ว สี่วัน เธอจะวางแผนการดีๆ อะไรออกมาได้! ฉันแนะนำเธอนะ ยังรีบกลับไปให้ไวเสียดีกว่า เดี๋ยวอีกสักพักจะได้ไม่ขายขี้หน้าต่อหน้าคนมากขนาดนั้น!” เจียงเหม่ยเหยียนชายตามองเจียงอวี่โหรวอย่างเหยียดหยาม
“จริงด้วยๆ! ไสหัวออกไปเร็วหน่อย! คนไม่ได้เรื่อง จะเขียนแผนดีๆ อะไรออกมาได้!”
เวลานี้เซียเหมยยืนอยู่ด้านข้างลูกสาวตนเอง ท่าทางนั้น ดูกระหยิ่มยิ้มย่องจนแทบไม่ไหว คิ้วและสายตาล้วนมีความหมายถากถาง
คนตระกูลเจียงคนอื่นในที่นั้น ต่างมีสีหน้ามั่นใจเต็มที่
เพราะว่า พวกเขามีเป้าหมายลงคะแนนของตนเองกันแล้ว
ด้านในแผนการสองฉบับ มีฉบับหนึ่งที่ดีจริง และอีกฉบับหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าอ่อนหัด ชัดเจนว่าคือหลอกลวงโอ้อวดและว่างเปล่า โดยเฉพาะเป็นแผนที่รีบทำออกมาแบบสะเพร่า
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า แผนที่จอมปลอมโอ้อวดและว่างเปล่าฉบับนั้น ต้องเป็นเจียงอวี่โหรวนังตัวดีคนนี้รีบเขียนออกมาแน่
“หึๆ ความจริงผลคะแนนออกมาแล้ว แผนการสองฉบับนี้วางอยู่ด้วยกัน ก็คืออันหนึ่งอยู่บนฟ้าอันหนึ่งอยู่ใต้ดินเลยทีเดียว!”
“ใช่! ไม่รู้ว่าพวกไร้ฝีมือบางคนยังนั่งอยู่ที่นี่ยืนหยัดเอาอะไรกัน?”
เผชิญหน้าคำเย้ยหยันและเสียงหัวเราะเยาะแบบเป็นนัยๆ ของผู้บริหารบริษัท เจียงอวี่โหรวก็ไม่กล้าตอบกลับ เงียบเสียงไม่พูดไม่จา เพราะเธอกับเจียงเหม่ยเหยียนไม่สามารถดูคะแนนของแผนการได้โดยตรง ดังนั้น ในใจเธอคิดว่าแผนการที่ตนเองเขียนไม่ได้เรื่องมากมาตลอด
โดยเฉพาะ วันนี้เธอยังตั้งใจแต่งหน้างดงามมาเป็นพิเศษ ปากรูปเชอร์รี่ คิ้วโค้งดุจใบหลิว ใส่กระโปรงยาวสีขาวและรองเท้าส้นสูงสีดำ สง่างามมาก นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ เหมือนเป็นเทพธิดา
แต่ว่า เธอกลับประหม่ามาก หวาดกลัวมาก
เจียงเสวโป๋สามคนพ่อแม่ลูก นั่งอยู่ด้านข้าง การแสดงออกบนหน้าก็อึมครึมอย่างยิ่ง
เมื่อสักครู่พวกเขาเห็นแผนการแล้ว แตกต่างกันมากจริง
ดังนั้น พวกเขาจึงไม่คาดหวังแล้ว
ในใจสวีเฟินกับเจียงเฉินยิ่งเกลียดเจียงอวี่โหรวแทบแย่
ตามคาด พวกไร้ฝีมือก็คือพวกไร้ฝีมือ
“เอาล่ะ! แผนการสองฉบับนั้นพวกคุณก็ดูกันหมดแล้ว อืม......ก็ไม่เลว ตอนนี้เริ่มลงคะแนนเถอะ”
เจียงไท่ชางนั่งอยู่บนเก้าอี้ของประธาน พูดจาแบบเรียบนิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลมังกรเวทย์ประการ