หลังจากนั้นเซียวอี้จึงเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามอง
ชูว่านตื่นตะลึง เรือนกายของเธอยังรู้สึกถึงความร้อนระอุ ในเวลาเดียวกันหัวใจก็เต้นกระหน่ำ เธออดรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยไม่ได้ “ผู้ชายคนนี้กล้าดีอย่างไร?”
เมื่อเซียวอี้ออกมาจากคฤหาสน์ไคซวนแล้ว เขาแวะไปที่ตลาดขายของเก่า
เขาพบหม้อสำริดสามขาที่นั่น ขนาดของขาตั้งทั้งสามไม่ใหญ่เท่าไรนัก มีเส้นผ่านศูนย์กลางราวสองฟุตเท่านั้น แม้จะถูกสร้างด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ แต่เป็นหม้อที่ประณีตมาก มีการติดตั้งระบบระบายความร้อนอย่างดี ถึงจะไม่ใช่หม้อเก่าแก่โบราณ แต่ก็เพียงพอแล้วที่เซียวอี้จะใช้หลอมกลั่นโอสถอายุวัฒนะ
นอกจากนี้เซียวอี้ยังซื้อหยกเหอเถียนเป็นจำนวนกว่า 20 ชิ้นอีกด้วย รวมมูลค่ารวมทั้งสิ้น 268,000 หยวน เขาจ่ายเงินด้วยบัตรของชูว่าน เซียวอี้ไม่รู้สึกว่าตนทำเรื่องผิดแผกแต่อย่างใด เขามีแผนการเป็นของตัวเอง
เมื่อกลับมาถึงหอจี้ซื่อแล้ว ยามที่ไม่มีคนไข้ เซียวอี้ก็คว้าถุงสมุนไพรจีนเดินกลับไปยังห้องของตน
เซียวอี้เริ่มจากการหยิบผงชาด และพู่กันขนหมาป่าออกมา จากนั้นเขาได้เลือกเฟ้นหยกมา 8 ชิ้น และเริ่มต้นขีดเขียนบางอย่างลงบนหยก ไม่นานนักลวดลายยันต์วิญญาณเทพอัคคีทั้งแปดก็ปรากฏ
นี่คือความลับสุดยอดของลัทธิแพทย์ศาสตร์มืด ยันต์นี้มีไว้เพื่อบรรจุพลังเทพอัคคีระหว่างระดับสวรรค์และโลกลงในเม็ดโอสถ ทั้งคุณภาพและขนาดของหยกล้วนเป็นตัวกำหนดคุณภาพของการกลั่นโอสถ
สำหรับหยกชนิดนี้ เซียวอี้ประเมินว่ามันสามารถใช้งานได้นานที่สุดแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่เลวเลย แต่ขณะนี้เซียวอี้ไม่มีฟืน เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น
หลังจัดเรียงหยกลงยันต์ด้วยรูปแบบเฉพาะลงบนพื้นแล้ว เซียวอี้จึงตวัดนิ้วอัญเชิญญาณหยั่งรู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดของเขาลงในหยกยันต์ทีละก้อน ยามที่ญาณหยั่งรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาถูกดึงออกมา ยันต์วิญญาณเทพอัคคีแปดทิศขนาดเล็กก็ถูกสร้างจนเสร็จสมบูรณ์
เซียวอี้ยกเตาแก๊สขนาดเล็กวางไว้ ณ ใจกลางของอักขระแปดเหลี่ยม
เขาค่อย ๆ อุ่นหม้อสำริดขนาดเล็กให้ร้อนด้วยเตาแก๊ส จากนั้นเซียวอี้จึงใส่ตังกุย ชวงเกียง ไป๋จื่อ และไป๋ฟู่จื่อลงในหม้อตามลำดับ และปิดฝาหม้อ
หลังเกิดใหม่อีกครั้ง เซียวอี้ได้เริ่มต้นฝึกฝนวิชาเล่นแร่แปรธาตุด้วยความช่วยเหลือจากการหยั่งรู้ศักดิ์สิทธิ์
เนื่องจากสมุนไพรมีจำนวนจำกัด เซียวอี้จึงวางแผนที่จะกวนครีมผิวหยกในครั้งนี้
จริง ๆ แล้วโอสถชนิดนี้ไม่นับเป็นโอสถอายุวัฒนะด้วยซ้ำ แต่ในโลกแห่งผู้บำเพ็ญเพียร โอสถนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในยุคนั้น เนื่องจากมันมีสรรพคุณในการกำจัดรอยด่างดำ และทำให้ผู้คนแลดูอ่อนวัยมีชีวิตชีวา ขับให้ใบหน้าสวยงามผุดผ่อง สตรีในใต้หล้าล้วนเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นปุถุชนหรือผู้ฝึกตนก็ตาม พวกหล่อนต่างดิ้นรนเสาะแสวงหาวิธีเพื่อจะมีใบหน้าอันสวยสดงดงาม
ในอดีตเซียวอี้ผู้เคยค้นพบวิถีแห่งสวรรค์เคยนึกดูแคลนโอสถบำรุงประเภทนี้มาก่อน แต่ในปัจจุบันดูเหมือนเขาจะทำเงินจากสิ่งนี้ได้ สำหรับเซียวอี้ผู้ตอนนี้ไม่มีสตางค์ในกระเป๋าแม้แต่แดงเดียว เขาจำต้องมีลู่ทางหาเงิน เงินคือปัจจัยสำคัญในการฝึกบำเพ็ญตน
ขณะที่เขารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในหม้อ เซียวอี้จึงเติมสมุนไพรปิงเพี่ยน ไป๋เจียงซ่าน ไป๋เหลียน ไป๋ฝูหลิง ไป๋จี๋ ไป๋ซู่ และสพุนไพรตัวอื่นลงไปในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ
ผ่านไปครู่หนึ่ง มีเสียงเดือดปุด ๆ ดังจากในหม้อสามขา และเริ่มมีกลิ่นโอสถจาง ๆ โชยออกมา
เซียวอี้ยังมีท่าทีนิ่งสงบ และต้มโอสถให้เดือดต่อ ยามที่หม้อส่งเสียงเดือดปุด ๆ รุนแรงถึงขีดสุด เซียวอี้จึงเขย่าหม้อเพื่อให้ของเหลวด้านในเย็นตัวลง เมื่อหม้อคลายความร้อน ฤทธิ์ของโอสถในหม้อจะเข้มข้นขึ้น กลิ่นยาหอมละมุนโชยออกมาจากหม้อหลอมโอสถ
เซียวอี้ยังคงเคี่ยวโอสถต่อ เมื่อเกิดเสียงเดือดขึ้นอีก เขาก็เขย่าหม้อให้เย็นลงอีกครั้ง หลังทำเช่นนี้อยู่ 7 ครั้ง เซียวอี้จึงค่อย ๆ ลดความร้อนของไฟลงช้า ๆ และปิดเตาแก๊ส
เวลาในการเคี่ยวยาให้เดือดคือกุญแจแห่งความสำเร็จในการกลั่นโอสถ หากเวลาในการเคี่ยวสั้นจนเกินไป โอสถที่ได้ก็จะยังดิบ และประสิทธิภาพจะลดลงอย่างมาก ในทางกลับกันหากใช้เวลานานจนเกินไป โอสถอายุวัฒนะก็จะไหม้และอาจระเบิดได้
ในชาติที่แล้วของเซียวอี้ เขาคือปรมาจารย์กลั่นเม็ดโอสถผู้ยิ่งใหญ่ ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ เขาตระหนักดีว่าตนเองห้ามประมาทเลินเล่อเด็ดขาด เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้เชี่ยวชาญการกลั่นโอสถที่จะต้องรับรู้ความเป็นไปในหม้อโอสถในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ด้วยความช่วยเหลือจากการหยั่งรู้ศักดิ์สิทธิ์ เรื่องนี้จึงสามารถกำกับดูแลได้อย่างง่ายดาย นี่เป็นเหตุผลที่เซียวอี้ให้ความสำคัญกับการสั่งสมพลังบุญบารมีเป็นอย่างมาก
กระบวนการกลั่นโอสถอายุวัฒนะกินเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว และยังต้องใช้เวลาเคี่ยวต่ออีกหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดหยกลงยันต์ทั้งแปดก็ปริแตก กลายเป็นกองขี้เถ้า เซียวอี้เปิดฝาหม้อโอสถอายุวัฒนะอย่างระมัดระวัง
เมื่อเปิดฝาออก พลันได้กลิ่นโอสถเข้มข้นลอยแตะจมูก กลิ่นนั้นทั้งอบอุ่นนุ่มนวล เข้มข้นแต่ไม่เย็นบาดจมูก ทำให้ผู้คนที่ได้กลิ่นรู้สึกผ่อนคลายและรื่นรมย์
เซียวอี้ทราบว่าโอสถกลั่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขากวาดสายตามองรอบ ๆ หม้อ และเห็นเนื้อครีมสีขาวกองเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วก้นหม้อ โอสถส่องแสงขาวระยิบระยับดุจไข่มุกคุณภาพล้ำเลิศที่สุด
เซียวอี้หยักหน้าอย่างพึงใจ นี่คือครั้งแรกที่เขากลั่นโอสถอันยอดเยี่ยมเช่นนี้สำเร็จหลังจากเกิดใหม่ เขามีความสุขมากเหลือเกิน
เซียวอี้หยิบขวดแก้วหลายขวดที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้มา เขาบรรจุครีมผิวหยกใส่ขวด และปิดฝาขวดอย่างระมัดระวัง ขวดแก้วขนาดเล็กที่บรรจุครีมจนเต็มช่างดูดีน่ามองเป็นอย่างยิ่ง
เซียวอี้เดินออกมาจากห้อง
บุรุษร่างกำยำในชุดดำ 8 คนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู พวกเขาหยุดชูว่านและเซียวอี้ไว้
ชูว่านหยิบการ์ดสีดำออกมามอบให้พวกเขา
การ์ดสีดำใบนั้นดูเหมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจเกียรติยศบางอย่าง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนโค้งให้ชูวานทันทีที่เห็นการ์ด เจ้าหน้าที่คนหนึ่งหยิบการ์ดอย่างบรรจงด้วยมือทั้งสองข้าง และรูดมันลงบนเครื่องดิจิทัลของพวกเขา จากนั้นเขาจึงรีบส่งการ์ดคืนชูว่านด้วยความนบนอบ พลางเอ่ยว่า "คุณชู เชิญด้านในเลยครับ!"
“นี่เพื่อนของฉัน เขาเข้าไปด้วยกันได้ใช่มั้ย?” ชูว่านเอ่ย ขณะที่เธอยกมือคล้องแขนเซียวอี้
"แน่นอนครับ เขาคือเพื่อนของคุณชู" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าวอย่างยำเกรง
ชูว่านคลี่ยิ้มบาง และกระชับแขนของเซียวอี้แน่น ขณะที่เธอกำลังจะเดินเข้าไปข้างใน หญิงสาวกลับได้ยินเสียงอุทานอย่างประหลาดใจดังขึ้นจากด้านหลัง "ชูว่าน นั่นคุณใช่รึเปล่า? คุณก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอครับ?"
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ชูว่านพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เธอยังคงหันกลับไปโดยควงแขนเซียวอี้ไว้
เซียวอี้พบชายร่างผอมบางผู้หนึ่งกำลังวิ่งกระหืดกระหอบมาทางนี้ด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ ชุดสูทของเขาดูมีมูลค่าสูงลิบลิ่ว สีหน้าเขาแสดงความทะเล้นขี้เล่นแบบเด็ก ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเซียวอี้ยังแปลกใจมาก เมื่อพบว่าชายดังกล่าวมีดวงตาดอกท้อคู่หนึ่ง
ดวงตาของเขามีสีน้ำตาลแกมเหลือง ชวนให้นึกถึงกลิ่นอายมารอันน่าพรั่นพรึง
ในโลกแห่งผู้บำเพ็ญเพียร มีเพียงคนที่ฝึกฝนวิชามารเท่านั้นที่จะมีนัยน์ตาเช่นนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าฝีเท้าของชายตรงหน้าดูสั่นคลอน และลมหายใจของเขาก็ยุ่งเหยิง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีกำลังภายใน ชายผู้นี้ไม่ใช่ผู้ฝึกตน ทว่าเขากลับมีดวงตาเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนดีอะไร
"ชูว่าน ไม่เจอคุณนานเลย" ชายผู้นั้นรีบเดินมายืนข้างชูว่าน สายตาปราดมองจุดสำคัญบนเรือนร่างของชูว่านอยู่หลายครั้ง ราวกับเขาสามารถมองทะลุเรือนร่างของเธอได้ แววตาเต็มไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้ายโดยไม่ปิดบังซ่อนเร้น
“ค่ะ คุณเจี๋ย คุณสบายดีมั้ยคะ?” ชูว่านทักทายอย่างสงบ
"ฮ่า ๆ ก็เหมือนเดิมครับ ถ้าไม่มีคุณ ชูว่าน มันก็น่าเบื่อนิดหน่อย" ชายคนนั้นตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง ความเสน่หาที่เขามีต่อชูว่านนั้นชัดเจนกระจ่างแจ้ง
"ฮ่า ๆ คุณเจี๋ย คุณชมฉันเกินไปแล้วค่ะ" ชูว่านเอ่ยเสียงเรียบ พลางขยับตัวชิดเซียวอี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเกิดใหม่ เป็นหมอเทวดามือวิเศษ
รออยู่ครับ...