“เสี่ยวเยว่!” ใบหน้าเซียวอี้แดงซ่าน เขารีบดึงผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 300 ปีที่เขาต้องเผชิญกับเหตุการณ์น่าอับอายเช่นนี้
ณ เวลานั้นเองเสี่ยวเยว่เพิ่งมีปฏิกริยา เธอกรี๊ดดังลั่น และยกมือปิดตาแน่น แต่การกระทำนี้ดูย้อนแย้งอย่างเห็นได้ชัด ถึงเธอจะหลับตา แต่ในใจยังมีภาพร่างเปลือยเปล่าของเซียวอี้วนเวียนไม่จางหาย
"ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ได้?" เซียวอี้ถามอย่างประหม่า
“ฉัน ฉันกำลังนอนหลับอยู่ แต่พอได้ยินพี่ตะโกนเมื่อกี้ ก็เลยเดินมาหาพี่ไม่รู้ตัว...” เสี่ยวเยว่เล่าตะกุกตะกัก
เซียวอี้แกะมือเธอออกจากดวงตา แล้วผลักเสี่ยวเยว่เข้าไปในห้องนอนเธอ เขาเอ่ยอย่างหัวเสียว่า "เอาล่ะ ไปนอนได้แล้ว พี่จะไปอาบน้ำ"
"เอ่อ พี่เซียว ฉันไม่ได้ตั้งใจจะ..." เสี่ยวเยว่พูดไม่ออกว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ เธอทั้งเขินอายและเงอะงะ
"เข้าใจแล้วน่า พี่จัดการได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก เพื่อเป็นการชดเชย ครั้งหน้าเธอต้องให้พี่ดูบ้าง!" เซียวอี้พูด และปิดประตูใส่หน้าเธอทันที!
"อะไรนะ ฉัน..." เสี่ยวเยว่ขยี้เท้าอย่างโมโห เธอพยายามเถียงกลับ
เซียวอี้วิ่งเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำ เขานึกถึงเหตุการณ์แสนคลุมเครือเมื่อครู่ ใบหน้าจิ้มลิ้มของเสี่ยวเยว่ทำให้โลหิตในกายเซียวอี้เดือดพล่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้อิทธิพลของโอสถชำระไขกระดูก ร่างกายเขาเต็มไปด้วยพลังอัดแน่นมากมาย ความรู้สึกกระสับกระส่ายรุ่มร้อนเอ่อล้นจนแทบควบคุมไม่ไหว
"ตัณหากามารมณ์คือสิ่งที่เอาชนะได้ยากที่สุดในโลก ปล่อยวางย่อมดีกว่าหลีกเร้น เมื่อเลื่อนถึงขั้นหลอมวิญญาณเมื่อไร ทุกอย่างคงดีขึ้นเอง" เซียวอี้นั่งขัดสมาธิ เขาเริ่มต้นฝึกฝนคัมภีร์ต้นตำรับยามหาเวทย์ลึกลับไล่ตั้งแต่ดวงตา จมูก ปาก และจิต ผ่านไปสิบลมหายใจ เขาจึงกลับมาสงบนิ่ง
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเสี่ยวเยว่เห็นเซียวอี้ ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอก็ขึ้นสีแดงระเรื่อแล้ว
เซียวอี้หัวเราะเบา ๆ เขาหยิบขวดแก้วขนาดเล็กส่งให้เสี่ยวเยว่ และกล่าวว่า "เสี่ยวเยว่ รับไปสิ"
"นี่คืออะไรเหรอ?" เสี่ยวเยว่รับมันมา ดึงจุกออกและยกขึ้นดมกลิ่น เธอร้องอุทานว่า "ว้าว กลิ่นหอมจัง"
“นี่คือยาที่พี่ทำขึ้นเอง มันจะช่วยให้ผิวเธอดีขึ้น พี่อยากให้เธอลองใช้ดู” เซียวอี้กล่าว
"จริงเหรอ เยี่ยมไปเลย ขอบคุณนะพี่เซียว" เสี่ยวเยว่ยังเด็กนัก ของขวัญนี้ขับไล่ความลำบากใจของเธอหลังเรื่องเมื่อคืนได้อย่างง่ายดาย เวลานี้เธอไม่รู้เลยว่าเซียวอี้ได้มอบของขวัญล้ำค่าให้แก่เธอ
เซียวอี้ไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย หลังไปส่งเสี่ยวเยว่ที่มหาวิทยาลัยแล้ว เขาก็กลับมาหอจี้ซื่อ
ทันทีที่เดินก้าวผ่านประตู เขาพบว่ามีคนผู้หนึ่งกำลังรอเขาอยู่ เธอเป็นหญิงสาวรูปลักษณ์สะดุดตา สวมแจ็คเก็ตหนังสีดำ ผมสั้นยุ่งเหยิง ปอยผมบางส่วนย้อมสีแดง บนใบหน้าขาวเนียนมีรอยสักนกฟีนิกซ์สีดำที่ดูเหมือนจริงอยู่บริเวณใต้ตาซ้าย ดวงตาของเธอเรียวยาว แพขนตายาวงอน ดูเหมือนเธอจะคุ้นชินกับการหรี่ตาเป็นประจำ ทำให้ดวงตาของเธอดูมีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์
เมื่อเห็นเซียวอี้เดินผ่านประตูเข้ามา หญิงสาวผู้นั้นพลันหันหน้ามองเซียวอี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาขมุกมัว ใบหน้าปราศจากร่องรอยอารมณ์ใด
“คุณผู้หญิง มีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ?” เซียวอี้เดินไปที่โต๊ะแล้วทิ้งตัวนั่งลง เขาถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“ฉันมาหาหมอ” ผู้หญิงคนนั้นค่อย ๆ นั่งเก้าอี้ตรงข้ามเซียวอี้ เธอเหยียดข้อมือออกมา น้ำเสียงของเธอเย้ายวนแหบเสน่ห์
เซียวอี้ยิ้มเล็กน้อย ทว่าเขาไม่มีเจตนาจะตรวจชีพจรแต่อย่างใด เขาเพียงจิบน้ำแล้วเอ่ยว่า "แต่คุณไม่ได้ป่วย"
“คุณยังไม่ได้ตรวจชีพจรด้วยซ้ำ แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันไม่ได้ป่วย?” หญิงสาวผู้นั้นเอียงศีรษะมองเซียวอี้ด้วยแววตาพร่าเลือน ริมฝีปากคลี่ยิ้มเลือนราง
“คุณตัวสูงและร่างเหยียดตรง ใบหน้ามีเลือดฝาด ดวงตาของคุณสงบนิ่งมีชีวิตชีวา และน้ำเสียงของคุณก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ ถ้าผมไม่สามารถรับรู้ได้จากลักษณะทางกายภาพเหล่านี้ ผมจะยังมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นหมออยู่อีกรึ?” เซียวอี้กอดอกเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาไม่ได้พูดออกไปว่าผู้หญิงตรงหน้าคือคนที่เคยมีประสบการณ์เฉียดตายมาก่อน ลักษณะทางกายภาพของเธอมาถึงจุดสูงสุดของระดับมนุษย์แล้ว และดูเหมือนเธอกำลังใกล้ทะลวงสู่ระดับถัดไปคือโลก
ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะออกมา ทันทีที่เธอหัวเราะ ดวงตาของเธอมีรูปร่างเหมือนจันทร์เสี้ยวสองดวง ทำให้รังสีดุดันทั่วร่างเจือจางทันที "ฮ่า ๆ ดูเหมือนว่าทักษะการแพทย์ของคุณจะสูงมากทีเดียว"
จากนั้นหญิงสาวผู้นั้นจึงยืนขึ้น เธอดึงธนบัตร 100 หยวนออกมาจากกระเป๋ากางเกง และวางไว้ข้างหน้าเซียวอี้ เธอกล่าวว่า "ฉันชื่อเฮยเฟิง หมอหลี่ฉิงซานแนะนำฉันมา เชิญคุณไปด้วยกันหน่อย นี่คือค่ารักษา ไม่สำคัญว่าคุณจะรักษาได้หรือไม่"
เซียวอี้มองธนบัตรแล้วหัวเราะเบา ๆ เขาไม่เอ่ยปฏิเสธแต่อย่างใด และเก็บเงินในกล่องด้วยท่าทีสบาย ๆ เขาไม่ถามถึงโรคเลย และเดินตามเฮยเฟิงออกไปนอกประตู
มอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์จอดอยู่ที่หน้าประตู เฮยเฟิงหยิบหมวกกันน็อคโยนให้เซียวอี้
เซียวอี้หยิบหมวกกันน๊อคขึ้นสวม จากนั้นจึงพาดขานั่งบนเบาะมอเตอร์ไซค์ เขาวาดแขนโอบรอบเอวเรียวของเฮยเฟิง สัมผัสนั้นไม่นุ่มนิ่มอ้อนแอ้นเหมือนเสี่ยวเยว่ หรือรู้สึกสบายเท่าชูว่าน แต่กลับมีความยืดหยุ่นซึ่งทำให้เขารู้สึกดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเกิดใหม่ เป็นหมอเทวดามือวิเศษ
รออยู่ครับ...