ฉินเฟยตะลึงตาค้าง พักหนึ่งคิดว่าตัวเองตัวเองฟังผิดจนเกิดเป็นภาพหลอน แล้วถ้าตัวเองไม่ได้ฟังผิด? เจียงเยว่ถงปล่อยให้ตัวเองเข้าไปในห้องส่วนตัวของเธอเหรอ? ให้ตัวเองนอนกับเธออย่างนั้นเหรอ? นี่มันอะไรกัน?
เมื่อเห็นเจียงเยว่ถงกระทืบเท้าจากไปด้วยสีหน้าแดงเขินอาย สติของฉินเฟยก็กลับมา และรับพูดขึ้น “เต็มใจ เต็มใจ ผมเต็มใจแน่นอน”
เมื่อเห็นท่าทางที่ไม่สามารถปกปิดความตื่นเต้นของฉินเฟยแล้วนั้น ในใจของเจียงเยว่ถงก็เสียใจภายหลังเล็กน้อยขึ้นมาทันที แก้มยิ่งแดงจนร้อนรุ่ม และแอบด่าตัวเองว่า คืนนี้สมองมีปัญหาหรือไง? ตัวเองชิญฉินเฟยมานอนด้วยกันจริงเหรอ? เมื่อนึกถึงคำพูดของพ่ออีกครั้ง ในใจก็ยิ่งเขินอายและสับสน
แต่ว่า ที่บ้านนอกจากฉินเฟยก็ไม่มีคนอื่นแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฉินเฟยช่วยมาหลายครั้ง และเนื่องจากสามปีที่ผ่านมาฉินเฟยไม่เคยคิดผิดกับเธอเลย เธอมักจะรู้สึกว่ามีฉินเฟยอยู่ข้าง เธอก็สบายใจ
“ฉันแค่กลัวนิดหน่อยเท่านั้น นายก็อย่าคิดมากนัก” เสียงเยว่ถงหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้ตัวเองสงบลง ใบหน้าสวยงาเปลี่ยนมาเป็นเคร่งขรึมขึ้นทันที “และอีกอย่างหนึ่ง ฉันขอเตือนนายก่อนว่า นายจะมาถูกเนื้อต้องตัวฉันไม่ได้เด็ดขาด!”
ถึงแม้ว่าสีหน้าจะจริงจัง แต่ท่าทางบุ้ยปากนั้น ก็มีความนีรักอีกแบบหนึ่ง
“ไม่หรอก ที่รักกลัวนี่ ผมก็ต้องอยู่ข้างกายที่รักแน่นอนอยู่แล้ว” ฉินเฟยพยักหน้าอย่างจริงจัง แต่ในใจกลับแอบสุขสม เดิมคิดว่าภรรยาของตัวเองเป็นแบบพิษร้ายไม่อาจกล้ำกลายได้ แต่ถึงไม่ถึว่ายังคงเป้นผู้หญิงบอบบาง! ซึ่งท่าทางของผู้บอบบางนี้ ทำให้ฉินเฟยยิ่งชอบเข้าไปใหญ่
เรียก ‘ภรรยา’ เพียงประโยคเดียว ก็ทำให้เจียงเยว่ถงยากที่จะทำให้หน้เย็นลงได้ เมื่อก่อนเธอเกลียดคำเรียกที่ฉินเฟยใช้เรียกตนเองนี้มาก แต่เวลานี้เธอก็ขึ้นเกียจที่จะไปคิดเล็กคิดน้อยแล้ว และพรุ่งนี้ตัวเองยังต้องไปทำงานอีก คืนนี้เธอจะไม่นอนก็ไม่ได้ โดยลังเลสักพักและพูดขึ้น “นายไปอาบน้ำก่อน ฉันรอนายอยู่ที่ห้อง”
เจียงเยว่ถงรักความสะอาดมาตลอด และคืนนี้ฉินเฟยก็ยังไม่ได้อาบน้ำ เมื่อเสียงพูดจบลง แก้มของเจียงเยว่ถงแดงก่ำขึ้นอีกครั้ง เมื่อครู่ตัวเองพึ่งพูอะไรไปเนี่ย พูดเหมือนกับว่า...... “โอเค โอเค”
ไม่รู้ว่าฉินเฟยไม่ยินชัดหรือไม่ เขาเพียงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว และมุดหายวับไปกับตาในห้องน้ำ โดยไม่ได้ล้อเลียนเธอ แต่ก็ทำให้เจียงเยว่ถงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ตระกูลเจียง!
ในคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลเจยีง เจียงเฟิ่งหยุนและเจียงเฟิ่งหยู่ได้กลับไปแล้ว ส่วนอาหญิง้ล็กเจียงเฟิ่งซวงก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวพักผ่อน มีแต่เจียงเย่เฉิงที่ยังไม่ได้กลับไป
ในขณะนี้ในห้องน้ำชาเล็กบนชั้นสอง เจียงเฉิงเย่มองคุณย่าเจียงที่ขมวดคิ้วจนแน่น ในใจร้อนร้นเป็นอย่างมาก การล่วงเกินฮั่วจงเหยียน ต้องไม่เป็นผลดีต่อตระกูลเจียงแน่ และผลจากการปรึกษาหารือของคุณพ่อพวกเขาทั้งสามคนคือ เรื่องนี้ตระกูลเจียงต้องร่วมแรงร่วมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และรับผิดชอบด้วยกัน! ซึ่งยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ สิ่งสำคัญคือ ต้องหาวิธีร่วมกับว่านเซียง มูวี!
“คุณย่าครับ ผมเห็นว่าแบบนี้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังพอมีอสังหาริมทรัพย์อยู่บ้าง แต่มีหลายบริษัทก็ไม่ทำเงินเลย จนกระทั่งยังขาดทุนอยู่ด้วยซ้ำ” เจียงเฉิงเยว่กลอกลูกตาเล็กน้อยและพูดเสนอความคิด
“อืม เธอพูดต่อสิ” คุณย่าเจียงพยักหน้า เธอรู้ว่าหลานชายคนนี้เป็นคนมีความคิดมาโดยตลอด
“คุณย่าเองก็น่าจะคิดได้เช่นกัน ในเมื่อความร่วมมือกับว่านเซียง มูวี จะทำเงินได้แน่นอน และต้องทำเงินได้มหาศาลแน่ เช่นนั้นทำไมเราไม่เอาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลจียงมาขายสมบัติพัสถานออกไปบางส่วน เพื่อแลกเป็นเงินมาลงทุนกัลโครงการนี้เหล่ะครับ?” เจียงเฉิงเยว่พูดอย่างลำพองใจ เมื่อเห็นคุณย่าเจียงพยักหน้าหน่อย ก็รีบพูดต่อว่า “อย่างเช่นบริษัทฉีแยของเจียงเยว่ถง และเรื่องนี้คุณย่าต้องรู้แล้วแน่นอนว่า ก่อนน้านั้นเธอขาดทุน แต่ว่าไม่รู้ว่าไปยืมเงินสามล้านมาจากใครเพื่อนำมาหมุนเวียน อย่างเช่นบริษัทแบบนี้ เก็บไว้ไม่เพียงไม่ทำกำไร กลับมาขาดทุนอีก สู้ขายทิ้งเลยดีกว่า!”
“ฮึ ทำให้ฮั่วจงเหยียนขุ่นเคือง เรื่องความหายนะนี้ล้วนเป็นเจียงเยว่ถงและของไร้ค่าอย่างฉินเฟยเป็รคนก่อขึ้น มิหนำซ้ำบริษัทเธอก็ได้กำไรอีก!”
“อืม......” คุณย่าเจียงพยักหน้าเล็กน้อย ครุ่นคิดครู่หนึ่งและกล่าว “ถ้าอย่างนั้นเธอกลับไปสรุปว่า มีบริษัทไหนบ้างที่ไม่ได้ทำไร หรือว่าไม่มีศักยภาพใดๆ ในอนาคต สิ่งเหล่านี้ควรขายให้หมด หากไม่ขายมีแต่จะลากตระกูลเจียงให้ตกต่ำ นอกจากนี้ เขาหลีเสวี่ยที่เรารับเหมาก่อนหน้านี้ ก็ขึ้นราคาไม่น้อยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างงั้นก็ไม่ต้องซื้อแล้วเหมือนกัน เธอช่วยหาผู้ซื้ออีกเจ้าให้ด้วย”
“เขาหลีเสวี่ย? ที่นั่น......คุณย่าไม่เสียดายหรือครับ?” เจียงเฉิงเย่ลังเลอยู่พักหนึ่ง
“เสียดายแล้วจะทำอะไรได้? อย่างไรเสียตระกูลเจียงของเราก็ไม่เงินมีมากขนาดนั้นที่จะพัฒนาที่นั่น สู้ขายเพื่อเอาเงินมาใช้ในการลงทุนจะดีกว่า” คุณย่าเจียงกล่าว
“ได้ครับ อย่างงั้นผมจะกลับไปหาผู้ซื้อ หลังจากนั้นสรุปทรัพย์สินสังหาริมศัพย์ของตระกูลเจียงเราที่จะนำมาขาย สรุปก็คือจะเก็บบริษัทฉีแยของเจียงเยว่ถงไว้ไม่ได้!” เจียงเฉิงเย่พูดพึมพำขึ้น
“ได้ อย่างนั้นเธอไปทำธุระก่อนเถอะ” คุณย่าเจียงโบกมือด้วยความอ่อนล้าเล็กน้อย
……
ซิงล้างมือ ณ หมู่บ้านเทียนหลัน!
หลังจากที่ฉินเฟยอาบน้ำเสร็จ ก็เปลี่ยนเป็นชุดนอนที่ปิดมิดชิดมากกว่าของเจียงเยว่ถง! ซึ่งนี่เป็นความเคยชินที่ปลูกฝังมาในช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมา โดยเขาไม่สามารถใส่กางเกงบ็อกเซอร์อยู่ในบ้านได้ ยิ่งคืนนี้ที่ต้องนอนกับเจียงเยว่ถง จะให้มาโดนภรรยาตำหนิตัวเองว่าแอบคิดไม่ซื่อจนถูกไล่ออกมา เพียงเพราะพวกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี้ไม่ได้! นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว เขายังแปรงฟันแล้วด้วย ถึงแม้จะรู้ดีว่าตัวเองกับเจียงเยว่ถงไม่ทางเกิดเรื่องอย่างว่าขึ้นแน่นอน แต่ในปากก็ต้องมีลมหายใจที่สะอาดสดชื่น จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อการนอนหลับของภรรยา!
“ผมเข้าไปแล้วนะ......” จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฉินเฟยกลั้นความตื่นเต้นในใจไว้ พยายามให้น้ำเสียงของตัวเองเป็นธรรมชาติขึ้น และยืนทักทายอยู่หน้าประตู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา)