“ข้าน้อยคำนับคุณชายทั้งสอง”
น้ำเสียงอ่อนหวานเข้าหู หลินเมิ่งหวันเห็นหญิงสาวสวยงามโค้งคำนับอยู่ตรงหน้า รู้สึกเพียงว่าใจตัวเองก็ละลายแล้ว
หญิงสาวตรงหน้าสวมชุดกระโปรงผ้าบาง ปกคอชุดกระโปรงค่อนข้างต่ำ เผยผิวขาวออกมาทั้งแผ่น ผมดำม้วนขึ้นสูง เผยคอยาวสวยงามและขาวนวลของนางออกมา งดงามดั่งหงส์
การแต่งหน้าของนางละเอียดงดงาม ปากแดงจมูกสวยงาม ระหว่างคิ้วติดเครื่องประดับดอกสีแดงหนึ่งดอก ยังมีขอบทองคำบางๆ มีเครื่องประดับปักผมชิ้นหนึ่ง สวยงามดึงดูดคน ดึงดูดสายตาทุกอิริยาบถ
แสงไฟระยิบระยับสาดส่องร่างอรชรของหญิงสาว ชุดกระโปรงบางนั้นเหมือนกลายเป็นโปร่งมองทะลุได้ ปรากฏวับวาบ ไม่สามารถบรรยายได้
ไม่เสียชื่อที่เป็นโออิรันของหอจุ้ยหง ช่างเป็นสิ่งงดงามในโลกมนุษย์เสียจริง
หลินเมิ่งหวันมองดูชูยียี พูดจากใจกับตัวเอง ในสมองกลับมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลลอยขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
นางเก็บความคิดในใจ เผยริมฝีปากพูด “แม่นางยียี เชิญนั่ง”
ชูยียีแววตาประกาย มองสองคนตรงหน้าด้วยความสงสัย จากนั้นก็ยิ้มแย้ม พูดขอบคุณ จากนั้นก็เคลื่อนตัวไปนั่งข้างโต๊ะ
เพียงแค่ ในดวงตาอันสวยงามของนางกลับมีแววแห่งการเหยียดหยาม
ผู้ชายที่เข้ามาก็เจ้าล้งทำเป็นคุณชายที่สุภาพแบบนี้ นางเจอมาเยอะแล้ว
น้ำเมาสามแก้วลงท้อง ก็ต้องเป็นสภาพปีศาจร้ายแน่นอน
“คุณชายทั้งสองมาครั้งแรกหรือ?”
ชูยียียกเหยือกเหล้าบนโต๊ะขึ้นมาอย่างยิ้มแย้ม เทเหล้าให้หลินเมิ่งหวันและฉินจิ้งเจา
มือขาวนวลข้างหนึ่ง จับที่ข้อมือของนางกะทันหัน
ชูยียีแขนสั่น ในตาอันสวยงามนั้นมีแววแห่งการคาดไม่ถึง
ไม่ใช่เพราะมีคนลงไม้ลงมือกับนาง แต่เป็นเพราะว่ามีข้างนี้ขาวและเรียวผอม ดูแลได้ดีกว่านางเสียอีก
คนนี้ คือหญิงสาว?
ชูยียีเงยหน้าอย่างตะลึง เผชิญกับใบหน้าอันสดใสที่ยิ้มแย้ม
นางเคลื่อนสายตาเล็กน้อย ก็เห็นรูต่างหูที่ติ่งหูของหลินเมิ่งหวัน
เป็นหญิงสาวอย่างแน่แท้
หลินเมิ่งหวันรู้ว่าชูยียีดูออกแล้วว่าตัวเองเป็นหญิงสาว ยิ้มแล้วพูดว่า “แม่นางยียี ข้ามีเรื่องอยากคุยเป็นการส่วนตัวกับเจ้า หรือไม่พวกเราเข้าไปคุยกันในห้องนอนหน่อย?”
ฉินจิ้งเจาจ้องหลินเมิ่งหวันอย่างตะลึง
นางจะไปในห้องนอนกับชูยียีทำอะไร?
ชูยียีกลับพยักหน้าพูดอย่างยิ้มแย้ม “ก็ได้”
ทั้งสองคนลุกขึ้น เข้าไปในห้องนอนท่ามกลางสายตาอันร้อนรนและตะลึงของฉินจิ้งเจา
ห้องนอนกว้างขวางหรูหรา เตียงไม้ผ้าไหมทองคำเตียงใหญ่ก็ใช้พื้นที่ไปกว่าครึ่ง ข้างกำแพงวางโต๊ะเรื่องแป้งตัวหนึ่ง เครื่องแป้งทุกอย่างเพียบพร้อม
หลินเมิ่งหวันยิ้มอย่างพอใจ ได้ยินชูยียีถาม “แม่นางแต่งกายเป็นผู้ชาย เพื่อมาพบข้าโดยเฉพาะหรือ?”
หลินเมิ่งหวันหันหน้ามาพยักหน้า “ถูกต้อง ข้าอยากคุยเรื่องค้าขายกับแม่นางยียี”
นอกห้องนอน ฉินจิ้งเจาเงยหน้าหมุนคอมองมาที่ห้องนอนอย่างร้อนรน
หลายครั้งที่เขาอยากบุกเข้าไป แต่ก็กลัวเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น จึงจำเป็นต้องอดทนไว้
ในที่สุด ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม หลินเมิ่งหวันกับชูยียีก็ออกมาจากห้องนอน
เพียงแต่เห็นสภาพของหลินเมิ่งหวันแล้ว สีหน้าของฉินจิ้งเจาเปลี่ยนทันที
ฉินจิ้งเจาพูดแทบร้องไห้ออกมา “ทำไมเจ้าถึงแต่งกายสภาพเช่นนี้? รีบเปลี่ยนเดี๋ยวนี้!”
ฉินจิ้งเจาคิดไม่ถึงเลย ชุดกระโปรงบางของชูยียีชุดนั้น ขณะนี้กลับใส่อยู่บนตัวของหลินเมิ่งหวัน
มิหนำซ้ำหลินเมิ่งหวันไม่เพียงเปลี่ยนแค่เสื้อผ้าเท่านั้น แม้กระทั่งยังแต่งหน้าอย่างละเอียด
ผิวพรรณนางดุจหิมะ แต่งหน้ายั่วยวน รูปร่างสวยงามดูดี
เมื่อเทียบกับชูยียี กลับดีกว่าแต่ไม่ใช่เทียบไม่ได้
เพียงแค่ ฉินจิ้งเจากลับไม่กล้าดู
ฉินจิ้งเจาลุกขึ้นทันที แค่อยากให้หลินเมิ่งหวันรีบเปลี่ยนเสื้อ
สภาพนางเช่นนี้หากให้พวกท่านปู่ได้เห็น ชีวิตเล็กๆนี้ของตัวเองก็รักษาไว้ไม่อยู่แล้ว
แต่ว่า ฉินจิ้งเจาเพิ่งเข้าใกล้หลินเมิ่งหวัน ก็ได้กลิ่นหอมจางๆอย่างหนึ่ง
เขาชะงักเท้า ร่างกายโยกเยก ภาพตรงหน้ามืดไปทันที
ชูยียีและหลินเมิ่งหวันพยุงร่างของฉินจิ้งเจาไว้ด้วยท่าทางว่องไว ซ้ายคนขวาคนพยุงตัวฉินจิ้งเจาเข้าไปในห้องนอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก