“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
หลินเมิ่งหวันตอบรับออกมาอย่างดีใจ ดึงกระโปรงขึ้นมาแล้วรีบเข้าไปในห้อง
ฉินอี้เสียนชำนาญด้านทำนอง ส่วนหอเมี่ยวอิงนั้นยิ่งแล้วใหญ่มีครูดนตรีมากมาย หลินเมิ่งหวันไปเรียนที่นั่น ต้องได้วิชาเก่งเท่าตัวแน่นอน
อีกอย่าง หลินเมิ่งหวันยังมีโอกาสเจอหน้าเจียงหลีอวิ๋น เพื่อจะได้ถามเรื่องที่เขาขายยาแก้พิษทำไปถึงไหนแล้ว
แต่เมื่อหลินเมิ่งหวันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็เห็นเจินจูเดินหน้าบึ้งเข้ามา
“คุณหนูรอง จวนหลินให้คนส่งจดหมายมา บอกว่าฮูหยินใหญ่ให้เชิญคุณหนูกลับไป”
หลินเมิ่งหวันตกใจ “ที่จวนเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”
ฉินอี้เสียนเดินไปด้านหน้าเร็วๆ พูดออกมาว่า :“เรื่องที่เจ้าไปก่อไว้เจ้าลืมไปแล้วเหรอ?”
หลินเมิ่งหวันตกใจ เงยหน้าขึ้นมอง เห็นสีหน้าของฉินอี้เสียนมองมาที่นางอย่างไม่เป็นมิตร
คงจะไม่ใช่ วันมะรืนเรื่องที่นางไปหอจุ้ยหงกับฉินจิ้งเจาถูกเปิดเผยออกมาหรอกนะ?
หลินเมิ่งหวันกลืนน้ำลายลงคออย่างกังวล แล้วหันหน้าไปมองเจินจูโดยปริยาย ก็เห็นเจินจูทำหน้าขมขื่นแล้วพยักหน้า
“คุณหนูรอง เมื่อกี้คนของจวนหลินที่ส่งจดหมายมา บอกว่าตอนนี้ข้างนอกต่างลือกันว่าคุณหนูแต่งกายเป็นผู้ชายไปเที่ยวซ่อง เพื่อไปเจอคนรัก ฮูหยินใหญ่กับนายท่านโกรธมาก ให้คุณหนูรีบกลับไปอธิบายโดยด่วน”
หลินเมิ่งหวันรู้สึกแปลกประหลาดใจ “เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปได้อย่างไร?”
ฉินอี้เสียนเอาใบพัดเคาะไปที่ศีรษะของหลินเมิ่งหวัน พูดประชดออกมาว่า:“ถ้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ ก็ไม่ควรทำ ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเจ้ากับน้องห้าจะใจกล้าขนาดนี้ น้องห้าคงเบื่อชีวิตแล้ว จึงกล้าพาเจ้าไปที่หอจุ้ยหง”
“เจ้ารีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้า จะได้ไม่ต้องทำให้หลินฮูหยินใหญ่โกรธเพิ่มมากขึ้นอีก”
ฉินอี้เสียนขมวดคิ้วแล้วมองไปที่หลินเมิ่งหวัน เนื่องจากจะไปหอเมี่ยวอิง ดังนั้นตอนนี้หลินเมิ่งหวันจึงแต่งกายเป็นชาย
รูปลักษณ์ตอนนี้ เช่นตอนที่นางไปหอจุ้ยหงไม่มีผิด ถ้าจะทำให้คนโกรธก็คงเป็นเรื่องธรรมดา
หลินเมิ่งหวันรู้สึกสงสัยเล็กน้อย ขมวคิ้วเข้าหากัน
คืนนั้นฉู่โม่หยวนได้เปิดเผยตัวตนแล้ว ไม่น่ามีข่าวลือแบบนี้ออกมาถึงจะถูก
แต่หลินเมิ่งหวันก็ไม่กล้าล่าช้า รีบเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
จากนั้น รถม้าหรูหราหลายคันก็รีบออกจากจวน เพื่อเดินทางไปที่จวนหลิน
จวนหลิน ที่สวนสน
ห้องโถงด้านหน้าที่กว้างขวางนั้นเต็มไปด้วยผู้คน ทำให้รู้สึกแออัดเล็กน้อย
หลินเมิ่งหวันกับฉินจิ้งเจาคุกเข่าอยู่ตรงกลาง ก้มหัวลงทำตัวเช่นนกกระทา
หลินฮูหยินใหญ่สีหน้าเคร่งขรึมนั่งอยู่ด้านบน รู้สึกแน่นหน้าอกไปหมด
ฉินชิงรุ่ยนั่งอยู่ด้านข้างหลินฮูหยินใหญ่ ส่วนหลินซ่างซูนั่งอยู่ด้านล่างลำดับแรก
และมีผู้หญิงอีกคนสวมกระโปรงลายปักดอกไม้สีชมพูเข้มยืนอยู่ในห้องโถง ก็คือจางซื่อท่านป้าใหญ่ของหลินเมิ่งหวันนั่งเอง ซึ่งตอนนี้เป็นตัวแทนดูแลจวนหลินทั้งหมด
เวลานี้ใบหน้าของจางซื่อโกรธมาก มองไปที่หลินฮูหยินใหญ่แล้วพูดขึ้นว่า:“ท่านแม่ เมิ่งหวันเป็นคนของบ้านสาม ความจริงแล้วพวกเราไม่ควรถามถ่าย แต่ตอนนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่บานปลาย ถ้าไม่แก้ไขให้ดี อาจกระทบต่อตระกูลหลินทั้งหมดก็ได้”
“ตอนนี้อวิ้นอี๋กำลังหาคู่ ซิงโหรวกับจื่อยวนอายุก็ถึงแล้ว เมิ่งหวันก่อเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า จะให้คนนอกมองลูกสาวของจวนหลินพวกเราอย่างไร?ท่านแม่ สะใภ้วันนี้ขอก้าวล่วง ขอท่านลุงให้คำชี้แจงหน่อย”
ในระหว่างที่พูดนั้น จางซื่อได้คุกเข่าลงไปอยู่ตรวหน้าหลินฮูหยินใหญ่ ท่าทางแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าถ้าไม่ได้รับคำชี้แจงจะไม่ยอมลุกขึ้นเลยเด็ดขาด
อวิ้นอี๋ที่นางเอ่ยถึง ก็คือหลินอวิ้นอี๋ ส่วนซิงโหรวกับจื่อยวนคือลูกสาวสองคนของลุงรองของหลินเมิ่งหวันนั่นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก