ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 35

ฉู่โม่หยวนมองหลินเมิ่งหวันที่อยู่ตรงหน้า

นางยิ้มให้เขาอย่างเอาใจ แต่รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความกังวล

ท่าทางตอนนี้ ต่างจากท่าทางที่มีเสน่ห์ในหอจุ้ยหงคืนนั้นอย่างสิ้นเชิง

แต่ก็ มีเสน่ห์เช่นกัน

ฉู่โม่หยวนกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว น้ำเสียงแหบพร่าพูดขึ้นว่า:“ให้ข้ารับผิดแทนเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ยังไม่ยอมบอกข้ออีก เป้าหมายที่เจ้าไปหอจุ้ยหงคืออะไรกันแน่?”

หลินเมิ่งหวันตกใจ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วมองไปที่ฉู่โม่หยวน

หลังจากตรึกตรองดูดีแล้ว หลินเมิ่งหวันยอมพูดความจริงออกมาว่า:“ที่หม่อมฉันไปหอจุ้ยหง ก็เพื่อจะคุยการค้าขายกับโสเภณีอันดับหนึ่งของหอจุ้ยหง”

ในเมื่อร่องรอยของหม่อมฉันถูกเปิดเผยแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรน่าปิดปังอีก

ตัวเองยอมรับก่อน ดีกว่าให้ฉู่โม่หยวนไปตรวจเจอ

ดวงตาของฉู่โม่หยวนมีความสงสัยเล็กน้อย “การค้าขายอะไร?”

เขาถอยหลังเล็กน้อย เพื่อให้หลินเมิ่งหวันมีช่องว่างบ้าง

หลินเมิ่งหวันรู้สึกโล่งอกออกมาทันที มือดันไปที่เบาะนั่งเล็กน้อยเพื่อดันตัวเองให้นั่งตรง

หลินเมิ่งหวันมองไปที่ฉู่โม่หยวนแล้วพูดขึ้นว่า:“หม่อมฉันอยากให้ชูยียีช่วยหม่อมฉันจับตาดูข่าวสารจากทุกสารทิศ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน หม่อมฉันจะหาวิธีช่วยนางไถ่ตัว เพื่อให้นางหลุดพ้นจากการเป็นไพร่เสียที”

ฉู่โม่หยวนยิ่งรู้สึกแปลกใจ หลินเมิ่งหวันจะจับตาดูข่าวสารจากทุกสารทิศทำไม?

หลินเมิ่งหวันยิ้มให้กับฉู่โม่หยวน “หอนางโลมมีผู้คนมาจากทุกสารทิศชูยียีเป็นโสเภณีอันดับหนึ่งที่นั่น ผู้คนที่นางเจอล้วนไม่ธรรมดา และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าอย่างไรอย่างน้อยนางก็สามารถช่วยสอดแนมอะไรได้บ้าง”

“จับตาดูข่าวสารจากทุกสารทิศ บางทีอาจช่วยหม่อมฉันได้ในอนาคต”

ชาติที่แล้วตอนที่หลินเมิ่งหวันได้เจอกับชูยียีนั้น นางไม่ได้เป็นโสเภณีอันดับหนึ่งที่ผู้คนต้องการแล้ว แต่นางคือหญิงสาวผู้น่าสงสารที่เสียโฉมแล้ว

และสาเหตุที่ชูยียีเสียโฉม ก็เพราชูยียีอยากหลุดพ้นจากหอจุ้ยหงนั่นเอง

ดังนั้นคืนนั้นหลินเมิ่งหวันจึงพูดกับชูยียีว่า นางมีวิธีที่จะช่วยให้ชูยียีมีชีวิตอย่างเปิดเผย และยังสามารถช่วยนางเรียกร้องตำแหน่ง ให้นางมีต้นทุนสามารถแต่งงานกับคนที่ตัวเองชอบได้

หลินเมิ่งหวันคิดว่า ชูยียีต้องสนใจแน่

แต่ว่า จนถึงตอนนี้ นางก็ยังไม่ได้คำตอบรับจากชูยียีเลย

หลินเมิ่งหวันคิดแผนการในใจ มองฉู่โม่หยวนที่อยู่ตรงหน้า ในใจกำลังวางแผนถ้านางบอกว่าให้ฉู่โม่หยวนพานางไปหาชูยียี ชูยียีจะตอบตกลงไหม ?

แต่ว่า ฉู่โม่หยวนขมวดคิ้วเข้าหากัน “แค่เรื่องหอเมี่ยวอิงยังไม่พอเหรอ?ทำไมต้องมีเรื่องเพิ่มขึ้นอีก?”

หลินเมิ่งหวันตกตะลึงเล็กน้อย มองฉู่โม่หยวนอย่างแปลกใจ “ท่านอ๋องรู้เรื่องของหอเมี่ยวอิงด้วยเหรอ?”

หอเมี่ยวอิงเป็นสถานที่ให้คนมาฟังเสียงเพลง แต่ความจริงแล้ว เป็นสถานที่ที่จวนฉินใช้จับตาดูข่าวสารจากทุกสารทิศต่างหาก

แต่ว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นความลับมากถึงจะถูก……

หลินเมิ่งหวันเม้มปากเล็กน้อย เมื่อนึกถึงอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของฉู่โม่หยวนแล้ว การที่เขาจะรู้เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร

นางตั้งสติแล้ว พูดออกมาอย่างเปิดเผยว่า:“ครูสอนดนตรีที่หอเมี่ยวอิงจะคอยจับตาข่าวสารต่างๆ แต่เมื่อเทียบกับหอนางโลมแล้ว แขกของหอเมี่ยวอิงมีข้อจำกัดมากเกินไป”

“ก็เช่นจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย” หลินเมิ่งหวันยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยก็เลือกที่จะคุยธุระสำคัญกับคนอื่นที่หอจุ้ยหง ไม่ใช่ไปคุยที่หอเมี่ยวอิง?”

ฉู่โม่หยวนมองท่าทางตำหนิของหลินเมิ่งหวันแล้ว รู้สึกอยากหัวเราะออกมาอย่างบอกไม่ถูก

สาวน้อยคนนี้ เช่นจะคิดบัญชีกับตัวเขา

แต่ว่า เมื่อคิดถึงคืนนั้นที่หลินเมิ่งหวันจงใจมา “จับชู้” แล้ว ฉู่โม่หยวนรู้สึกแอบดีใจอยู่เล็กน้อย

หลินเมิ่งหวันมา “จับชู้” แสดงว่าหลินเมิ่งหวันมีเขาอยู่ในใจ?

“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย ท่านจะพาหม่อมฉันไปไหน?” หลินเมิ่งหวันจับแขนของฉู่โม่หยวนอย่างกล้าหาญ แล้วพูดเสียงอ่อนโยนออกมา:“ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะพาหม่อมฉันไปที่ไหน หม่อมฉันขอเสนอสถานที่ได้ไหม?”

“ข้าไม่พาเจ้าไปหอจุ้ยหงเด็ดขาด”

ฉู่โม่หยวนเหลือบไปมองหลิงเมิ่งหวัน พูดปฏิเสธออกมา

หลินเมิ่งหวันตกตะลึง รอยยิ้มบนใบหน้าหายไปทันที

ฉู่โม่หยวนเป็นหนอนที่อยู่ในท้องของนางเหรอ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก