หลินเมิ่งหวันกับหลินฮูหยินใหญ่แปลกใจ โดยเฉพาะหลินเมิ่งหวัน หัวใจของนางสั่นไหวยกขึ้นทันที
นางจำได้ว่าชาติปางก่อนไม่ได้มีพระราชโองการมาจวนหลิน ตอนนี้จู่ๆฮ่องเต้ก็มีพระราชโองการมา ความเป็นจริงแล้วคือความโชคดีหรือว่าหายนะกันนะ?
ทุกคนไม่กล้าล่าช้า เฝ่ยชุ่ยกับเจินจูช่วยหลินเมิ่งหวันแต่งตัว ราวๆสิบห้านาทีหลังจากนั้นหลินเมิ่งหวันเลยตามหลินฮูหยินใหญ่มาที่ห้องโถง ทุกคนของจวนหลินล้วนรออยู่ที่นั่นแล้ว
แม้แต่หลินเป้ยเหยาที่ป่วยมาหลายวัน ก็มาปรากฏตัว
หลินเป้ยเหยาผอมซูบลงมาก สีหน้าราศียังนับว่าไม่เลว ตอนนี้นางแต่งตัวสวยสง่างดงาม บนใบหน้าทาแป้ง ดูไม่ออกถึงสีหน้าที่แสดงออกว่าป่วย
เมื่อเปรียบเทียบกัน วันนี้หลินเมิ่งหวันสวมใส่ชุดกระโปรงรัดอกสีเหลืองรูปห่าน ผมสีดำขลับใช้โบว์ผ้าไหมสีเดียวกันม้วนขึ้น แม้ว่าบนใบหน้าจะแต่งแบบบางเบา ทว่าปกปิดความอิดโรยไม่ได้
โชคดี การแต่งตัวแบบนี้ไม่ได้เสียมารยาท
ขันทีที่เอาพระราชโองการมามอบให้อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองหลินเมิ่งหวัน นัยน์ตาฉายแววอึ้งทึ่งออกมา
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมารู้ว่าลูกสาวภรรยาเอกของหลินซ่างซูสวยดึงดูดสายตา ทว่านิสัยไม่ดี คนจำนวนไม่น้อยพูดอยู่ลับหลังว่าหลินเมิ่งหวันไม่คู่ควรจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย
แต่คิดไม่ถึงวันนี้ที่ได้เจอ หลินเมิ่งหวันที่ป่วยอยู่จะมีท่าทางอิดโรยและเคลื่อนไหวนุ่มนวล
ขันทีตั้งสติเมื่อเห็นทุกคนมากันแล้ว จึงได้กล่าวขึ้นว่า “หลินเมิ่งหวันรับพระราชโองการ”
หลินเมิ่งหวันใจสั่นสะท้าน คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพ หลุบสายตาลงกล่าวว่า“เมิ่งหวันรับพระราชโองการ”
“หลินซื่อเมิ่งหวัน เป็นหมอที่มีจิตใจเมตตา ไม่หวั่นเกรงภัยอันตราย ฝีมือยอดเยี่ยมช่วยเหลือเซียงอ๋องซื่อจื่อจากภัยอันตราย……มอบหรูยี่หยกหนึ่งคู่ ไข่มุกเซาท์ซียี่สิบเม็ด ผ้าซาตินห้าพับ…..”
เมื่อได้ฟังเรื่องของรางวัลที่ได้รับ หลินเมิ่งหวันแปลกใจ แต่ทว่าสุดท้ายก็เบาใจลงได้
พระราชโองการนี้เป็นการชื่นชมที่นางได้ช่วยเหลือฉีเยี่ยน เลยส่งมอบรางวัลมาให้
เมื่อชาติปางก่อนนางไม่เคยเข้าร่วมงานแข่งขันโปโลของแม่นางอู๋ แน่นอนก็ไม่มีทางมีพระราชโองการนี้
เมื่อขันทีอ่านจบ สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มกล่าวว่า“คุณหนูหลิน รับพระราชโองการเถิด”
“เมิ่งหวันรับพระราชโองการ ขอบพระทัยฮ่องเต้ที่โปรดเมตตา ฮ่องเต้อายุยืนหมื่นปี หมื่นหมื่นปีเพคะ”
หลินเมิ่งหวันโขกศีรษะลงด้วยความเคารพ จากนั้นจึงได้ใช้ทั้งสองมือรับพระราชโองการมา
ขันทีที่นำพระราชโองการมารีบประคองหลินเมิ่งหวันลุกขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มกล่าวว่า“คุณหนูหลินรีบลุกขึ้นเถิด ฮ่องเต้มีพระประสงค์จะพระราชทานรางวัลแก่คุณหนูหลินนานแล้ว เพียงแต่ฮ่องเต้รู้ว่าคุณหนูหลินป่วย เลยไม่อยากจะรบกวนการพักฟื้นของคุณหนูหลิน ถึงได้ล่าช้าไปช่วงหนึ่ง คุณหนูหลิน ฮ่องเต้เป็นห่วงเกี่ยวกับการป่วยของท่านมาก สั่งกำชับมาว่า หลังจากที่ท่านรับพระราชโองการแล้วให้รีบกลับไปพักผ่อน”
หลินเมิ่งหวันรีบกล่าวคำขอบคุณ จากนั้นกล่าวคำเกี่ยวกับการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ขันทีผู้ที่เอาพระราชโองการมาแจ้งเห็นหลินเมิ่งหวันตอบรับได้อย่างเหมาะสม รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
คนจำนวนมากพูดว่าบุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอกของหลินเมิ่งหวันกำเริบเสิบสานใช้อำนาจบาตรใหญ่ ไม่มีมารยาท ตอนนี้ดูเหมือนว่า คำเล่านี้นั้นไม่เป็นความจริงเลย
ขันทีที่นำพระราชโองการมาส่งมอบกล่าวกับหลินเมิ่งหวันด้วยความเกรงใจไม่กี่ประโยค จากนั้นได้เร่งให้หลินเมิ่งหวันรีบกลับไปพักผ่อนเสีย
หลินเมิ่งหวันไม่ได้อยู่นาน หลังจากขอบคุณเสร็จก็กลับไปที่สวนแสงอรุณ
หลินฮูหยินใหญ่เชิญขันทีที่มาส่งพระราชโองการดื่มน้ำชาอยู่บนจวน อีกทั้งกินพวกของว่าง เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วถึงได้ปล่อยให้กลับไป
แน่นอนว่า ก่อนที่ขันทีที่มาส่งมอบพระราชโองการจะกลับไป แม่นมหลี่คนข้างกายของหลินฮูหยินใหญ่ได้ยัดกระเป๋าสตางค์พกติดตัวใหญ่ๆให้เขาอันหนึ่ง เพื่อให้ขันทีคนนั้นเบิกบาน
หลินเมิ่งหวันได้รับคำชื่นชมของฮ่องเต้ และได้รับพระราชทานของรางวัลมากมาย หลายคนของจวนหลินล้วนมีความคิดที่ต่างกันออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก