ที่โถงด้านหน้า หลินซ่างซูกำลังนั่งอยู่กับชายผมสีดอกเลาท่าทางสง่าน่าเกรงขามคนหนึ่ง
หลินเมิ่งหวันจำได้ว่าชายวัยกลางคนผู้น่าเกรงขามผู้นั้นคือบิดาของหลี่อี๋เหนียง หลี่เฉิงเซี่ยง
ทว่าสิ่งที่ทำให้หลินเมิ่งหวันตกใจไม่ใช่เพราะหลินซ่างซูมาที่นี่ด้วยตัวเอง แต่ตกใจเพราะชายหนุ่มที่นั่งอยู่ถัดจากหลี่เฉิงเซี่ยงคือหลี่จิ่นซู!
คราวก่อนหลี่จิ่นซูถูกนางวางยาและทุบตีออกไป ตอนนี้ยังจะกล้ามาอีกรึ!
ความเกลียดชังปรากฏขึ้นมาในแววตาของหลินเมิ่งหวันทันที นางเม้มปากและเดินเข้าไปข้างใน
“คารวะหลี่เฉิงเซี่ยง”
หลินเมิ่งหวันหันไปทำความเคารพหลี่เฉิงเซี่ยง ไม่คิดจะใส่ใจหลินซ่างซูเลยแม้แต่น้อย
หลินซ่างซูชักสีหน้าเล็กน้อย แต่หลี่จิ่นซูกลับลุกขึ้นอย่างตื่นเต้นและมองหลินเมิ่งหวันไม่วางตา
เนื่องจากหลินเมิ่งหวันคอยดูแลหลินฮูหยินใหญ่มาทั้งคืน ตอนนี้สีหน้าของนางจึงค่อนข้างซีดเซียว นอกจากนั้นวันนี้นางยังไม่ได้ใส่ใจเรื่องการแต่งกายและสวมเพียงชุดกระโปรงเรียบๆ เส้นผมสีนิลถูกรวบไว้อย่างง่ายๆ โดยไม่มีปิ่นใดๆ ประดับเอาไว้
แต่ถึงกระนั้นสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำลายความงามของหลินเมิ่งหวัน ในทางกลับกัน หลี่จิ่นซูกลับรู้สึกว่าหลินเมิ่งหวันดูเหมือนกับดอกบัวที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาและสวยงามตามธรรมชาติ ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตก่อนหรือชีวิตนี้ หลินเมิ่งหวันก็งดงามเป็นอย่างยิ่ง
ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นของเขา!
หลี่จิ่นซูใจเต้นแรง เขาเอ่ยอย่างเสน่หาว่า “เมิ่งหวัน เจ้าสบายดีหรือไม่ ข้า...”
“คุณชายหลี่โปรดระวังคำพูด” หลินเมิ่งหวันขัดจังหวะหลี่จิ่นซูอย่างเย็นชาและมองเขาอย่างรังเกียจ
หลี่จิ่นซูชะงัก ประเดี๋ยวเดียวก็ระงับอารมณ์ที่ปั่นป่วนภายในใจ จากนั้นจึงยิ้มให้หลินเมิ่งหวันอย่างสงบราวกับสายลมต้องจันทร์กระจ่าง
เขาเอ่ยอย่างนุ่มนวลว่า “คุณหนูหลิน ข้าได้ยินเรื่องของหลินฮูหยินใหญ่และเป็นกังวลมาก ได้ยินว่าคุณหนูหลินคอยดูแลหลินฮูหยินใหญ่ทั้งคืน นับเป็นความกตัญญูโดยแท้ แต่คุณหนูหลินได้โปรดดูแลตัวเองด้วย หากคุณหนูหลินล้มป่วยขึ้นมา พวกเราคงเป็นห่วงมาก”
เขามองหลินเมิ่งหวันอย่างเอาใจใส่ ในดวงตาที่สุดใสดูเหมือนจะกักเก็บคำพูดไว้นับร้อยนับพัน
ถ้าเป็นในชาติก่อนตอนที่หลินเมิ่งหวันชอบเขามาก ต่อให้หลินเมิ่งหวันจะโกรธเพราะเขาไม่ปรากฏตัวในวันที่จะหลบหนี แต่เมื่อเขามาพูดดีๆ เพื่อเกลี้ยกล่อม หลินเมิ่งหวันก็คงยอมให้อภัยเขา
หลี่จิ่นซูจำได้ หลินเมิ่งหวันเคยบอกว่านางชอบที่สุดตอนที่เขามองนางอย่างเสน่หา และชอบยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเขาอ่อนโยน
ตอนนี้ที่หลินเมิ่งหวันพูดกับเขาอย่างเย็นชาคงเป็นเพราะนางโกรธเรื่องเมื่อคราวก่อน ดังนั้นขอแค่เขาขอโทษดีๆ และใส่ใจนาง หลินเมิ่งหวันจะต้องยอมให้อภัยแน่นอน
หลี่จิ่นซูหมายมั่นอยู่ในใจ ว่าไม่ว่าฉู่โม่หยวนจะทำอะไร เขาก็จะแย่งชิงหลินเมิ่งหวันกลับมาให้ได้!
ทว่าหลินเมิ่งหวันเพียงแค่ชายตามองหลี่จิ่นซูอย่างเย้ยหยัน จากนั้นจึงหันกลับไปมองหลี่เฉิงเซี่ยงอีกครั้ง
“วันนี้หลี่เฉิงเซี่ยงมาเยี่ยมถึงที่ มาเพราะเรื่องของหลี่อี๋เหนียงหรือเจ้าคะ”
หลี่เฉิงเซี่ยงมีสีหน้านิ่งสงบจนเดาอารมณ์ไม่ออก เขามองหลินเมิ่งหวันอย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนจะเอ่ยว่า “ข้ามาเยี่ยมหลินฮูหยินใหญ่”
“เป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่ง” หลินเมิ่งหวันเยาะเย้ย
หลินซ่างซูขมวดคิ้วและตำหนิว่า “เมิ่งหวัน อย่าหยาบคาย”
“นี่เรียกว่าหยาบคายหรือเจ้าคะ” หลินเมิ่งหวันถามอย่างเย้ยหยัน จากนั้นจึงเอ่ยอีกว่า “เช่นนั้นข้าก็ยังมีเรื่องที่หยาบคายกว่าที่ยังไม่ได้ทำอีก!”
“หลี่เฉิงเซี่ยง ท่านย่าของข้าป่วยหนักเพราะคนของท่านวางยาพิษ จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยทรงตรวจสอบพบว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับหลี่อี๋เหนียง ตอนนี้จึงพานางไปไต่สวนที่สำนักตรวจการแล้ว หากจำเป็นก็อาจจะต้องไปตรวจสอบที่จวนเฉิงเซี่ยง ถึงตอนนั้นขอให้หลี่เฉิงเซี่ยงโปรดให้ความร่วมมือด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก