ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 81

หลินเมิ่งหวันมองเฉินเซียงและกล่าวว่า “เฉินเซียง รีบไปทูลจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย ทูลพระองค์ว่าหลี่จิ่นซูให้การว่าหลี่อี๋เหนียงซ่อนหลักฐานการใช้ยาพิษของนางกับท่านยาที่เรือนในจวนเฉิงเซี่ยง ขอให้จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยทรงหาทางสืบค้นโดยเร็ว”

ได้ยินดังนั้นเฉินเซียงจึงมองหลินเมิ่งหวันด้วยความประหลาดใจ ส่วนหลี่จิ่นซูก็ใจหาย ใบหน้ากลายเป็นสีดำเหมือนก้นหม้อในทันที

เขาก้าวยาวๆ ออกจากศาลาและมองหลินเมิ่งหวันอย่างไม่เชื่อสายตา มีคำถามเพียงอย่างเดียวผุดขึ้นมาในใจ นั่นคือความสัมพันธ์ระหว่างหลินเมิ่งหวันกับฉู่โม่หยวนกลับกลายเป็นดีตั้งแต่เมื่อไรกัน

ในชาติก่อนหลังจากฉู่โม่หยวนจับหลินเมิ่งหวันไป เขาบังคับขังหลินเมิ่งหวันไว้ในจวนจิ่งอ๋อง จนหลินเมิ่งหวันเกลียดเขาสุดขีด

แต่ว่า... ในชาตินี้ฉู่โม่หยวนกลับส่งหลินเมิ่งหวันกลับมาที่จวนหลิน...

เป็นไปได้หรือไม่ว่าหลินเมิ่งหวันมองฉู่โม่หยวนเปลี่ยนไปจากเดิมเพราะเรื่องนั้น?

ไม่น่าใช่ ฉู่โม่หยวนจะต้องทำอะไรแน่ๆ

หลี่จิ่นซูกัดฟันกรอด ในขณะที่เฉินเซียงตอบรับทันที

เพียงแต่เมื่อเห็นหลี่จิ่นซูที่ยืนอยู่ข้างหลังหลินเมิ่งหวัน เฉินเซียงก็ลังเลไปนิดหนึ่ง

ถ้านางไป หลินเมิ่งหวันก็จะต้องอยู่ตามลำพังกับหลี่จิ่นซูมิใช่หรือ

แม้ว่านางจะไม่ได้รับคำสั่งจากฉู่โม่หยวนให้เฝ้าติดตามหลินเมิ่งหวันอย่างใกล้ชิด แต่ก็จะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะทำนองคลองธรรม ถ้าปล่อยให้หลินเมิ่งหวันอยู่ตามลำพังกับหลี่จิ่นซู

ดูเหมือนหลินเมิ่งหวันจะเดาความคิดของเฉินเซียงได้ นางจึงหันไปเอ่ยกับหลี่จิ่นซูว่า “คุณชายหลี่ ขอบคุณเจ้ามากสำหรับข่าวคราว ข้าขอเชิญเจ้าไปดื่มชาที่โถงด้านหน้าสักถ้วย รอจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยทรงทราบผลการตรวจสอบแล้วค่อยกลับไป ถ้าจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยทรงหาหลักฐานจากสิ่งที่เจ้าบอกได้จริงๆ พระองค์คงจะเชิญเจ้ามาเป็นพยาน”

หลี่จิ่นซูชะงัก นี่มันต่างจากที่เขาวางแผนไว้อย่างสิ้นเชิง

เขาขมวดคิ้วมองหลินเมิ่งหวัน อยากจะเอ่ยปากอธิบาย แต่กลับได้ยินหลินเมิ่งหวันเอ่ยว่า “หวังหวู่ เชิญคุณชายหลี่ไปที่โถงด้านหน้าด้วย”

หลินเมิ่งหวันไม่เคยเชื่อหลี่จิ่นซู แต่หลักฐานที่หลี่จิ่นซูกล่าวมา นางขอเชื่อไว้ก่อนดีกว่าจะไม่เชื่อ

หลินเมิ่งหวันไม่แน่ใจนักว่าหลี่จิ่นซูมีเหตุผลอะไรจึงนำเรื่องนี้มาบอกนาง แต่นางเดาว่าหลี่จิ่นซูคงพยายามจะสร้างความเชื่อใจกับนางอีกครั้ง และก็เพราะอยากแก้แค้น!

จากครั้งก่อนตอนที่หลี่จิ่นซู หลี่อี๋เหนียง รวมถึงหลินเป้ยเหยา ‘กัดกันเอง’ หลินเมิ่งหวันก็รู้ว่าพวกเขาทั้งสามคบกันเพียงเพื่อใช้ประโยชน์จากอีกฝ่าย

ระหว่างทั้งสามคนไม่ได้มีความจริงใจต่อกันมากนัก โดยเฉพาะหลี่จิ่นซู ครั้งล่าสุดเขาต้องประสบความสูญเสียครั้งใหญ่หลังจากถูกหลินเป้ยเหยาเรียกไป แบบนี้หลี่จิ่นซูจะยอมง่ายๆ ได้อย่างไร

ดังนั้นเวลานี้หลี่จิ่นซูจึงหักหลังหลี่อี๋เหนียง บางทีคงกำลังแก้แค้นจากเรื่องคราวก่อน ซึ่งนั่นทำให้คำพูดนี้น่าเชื่อถือมาก

ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่มีทางปลอยเบาะแสนี้ไปเด็ดขาด

หลินเมิ่งหวันเดินตรงไปยังสวนสนโดยไม่ได้สนใจหลี่จิ่นซูเลยแม้แต่น้อย

หลี่จิ่นซูกระวนกระวายใจอยากจะตามไป แต่กลับถูกหวังหวู่กับคนอื่นๆ ขวางไว้ และ ‘บังคับ’ ให้ไปที่โถงด้านหน้า

เฉินเซียงรู้สึกวางใจเมื่อเห็นการจัดการของหลินเมิ่งหวัน จากนั้นจึงออกไปหาฉู่โม่หยวนตามคำสั่งของหลินเมิ่งหวันทันที

ภายในสวนสน ทั้งเจินจูและเฟ่ยซุ่ยต่างคอยปรนนิบัติอยู่ข้างเตียงของหลินฮูหยินใหญ่ เพียงแต่ทั้งสองไม่สบายใจเลย จนกระทั่งเห็นหลินเมิ่งหวันมาถึงสวนสนอย่างปลอดภัยพวกนางจึงค่อยคลายความกังวล

ร่างกายของหลินฮูหยินใหญ่อ่อนแอ นางยังคงหลับอยู่ตอนที่หลินเมิ่งหวันมาถึง

แต่ด้วยการรักษาของกู่เยว่หาน ผิวพรรณของหลินฮูหยินใหญ่จึงดีขึ้นกว่าเมื่อคืนมาก

นอกจากนี้เฟ่ยซุ่ยยังบอกว่าหลินฮูหยินใหญ่ตื่นขึ้นมาพักหนึ่งและกินโจ๊กไปครึ่งชาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก