ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 89

สรุปบท บทที่ 89 ให้โอกาสอันยอดเยี่ยมแก่หลินเมิ่งหวัน: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก

ตอน บทที่ 89 ให้โอกาสอันยอดเยี่ยมแก่หลินเมิ่งหวัน จาก ภพนี้ตราบภิรมย์รัก – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 89 ให้โอกาสอันยอดเยี่ยมแก่หลินเมิ่งหวัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ภพนี้ตราบภิรมย์รัก ที่เขียนโดย ท้อเยาเยา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

แม้ว่าจวนหลินจะมีเจตนาปกปิดเรื่องหลินฮูหยินใหญ่ได้รับพิษ แต่คืนวันนั้นฉู่โม่หยวนตรวจสอบอย่างเอิกเกริก จัดการลงโทษชุ่ยหงกับผู้ดูแลห้องอาหาร และยังเอาหลี่อี๋เหนียงไปด้วย เรื่องเหล่านี้คนนอกไม่รู้ แต่คนรับใช้ในจวนหลินรู้

ทุกคนล้วนกำลังคาดเดา ว่าหลินฮูหยินใหญ่ป่วยกะทันหันมีความเกี่ยวข้องกับหลี่อี๋เหนียง

อีกทั้ง เมื่อวานด้านนอกยังมีพวกข่าวลือ ล้วนบอกว่าหลี่อี๋เหนียงวางยาพิษหลินฮูหยินใหญ่

คนรับใช้จวนหลินเชื่อมั่นในข่าวลือนี้ตั้งแต่แรกแล้ว และรอจุดจบของหลี่อี๋เหนียงกับหลินเป้ยเหยากัน

แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อวานหลี่อี๋เหนียงจะถูกส่งกลับมา

ทุกคนค่อนข้างมึนงง เพราะเมียน้อยวางยาพิษทำร้ายแม่สามี เป็นโทษคอขาดบาดตายเลย เพราะเรื่องงานแต่งงานของหลิวอวิ้นอี๋จะทำให้หลี่อี๋เหนียงมีชีวิตรอดมาได้อย่างไร?

ทุกคนอดสงสัยไม่ได้ว่า ข่าวลือนั้นมีความผิดพลาด

แต่วันนี้ คิดไม่ถึงว่าหลินเป้ยเหยาจะมาคุกเข่ายอมรับผิดอยู่ด้านนอกสวนแสงอรุณ!

การกระทำเช่นนี้ทำให้คนบนจวนหลินเชื่อข่าวลือพวกนั้น อีกทั้งจากการที่หลินเป้ยเหยาคุยกับหลินเมิ่งหวัน พวกเขาก็เลยรู้ว่าข่าวลือทุกคำพูดนั้นเป็นความจริง!

ตอนนี้เหล่าคนรับใช้ไม่ได้เอ่ยพูด แต่ระหว่างนี้ไม่รู้ว่าต่างฝ่ายต่างส่งสายตาให้กันแล้วไม่รู้กี่คราแล้ว

เวลานี้ทุกคนในจวนหลินรู้สึกหดหู่ หลี่อี๋เหนียงจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตจริงๆ และเก็บซ่อนไว้ลึกซึ้ง!

หลักจากวันนี้ ทุกคนของจวนหลินล้วนปฏิบัติกับหลี่อี๋เหนียงและหลินเป้ยเหยาแบบหลบเลี่ยง แม้แต่คนรับใช้สวนดอกบัวยังไม่ยินดีต้อนรับเลย

แน่นอน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องคุยกันภายหลัง

ตอนนี้หลินเป้ยเหยาถูกสายตาทุกคนจับจ้อง จนรู้สึกว่าชาวาบ สมองเริ่มวิ้งวิงเวียนศรีษะ แทบจะเป็นลมล้มลงไปแล้ว

นางกำหมัดแน่น เล็บที่ตัดแต่งเข้ารูปราวกับจะจิกฝ่ามือนางจนยุ่ย ความเจ็บปวดของสิ่งแหลมคมได้เตือนสติให้นางใจเย็น

หลินเป้ยเหยาอดกลั้นเก็บความไม่พอใจไว้ เงยหน้ามองหลินเมิ่งหวันสะอึกสะอื้นกล่าวว่า“น้องเมิ่งหวัน ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจ แต่เรื่องเหล่านี้น่าสงสัย เหตุใดถึงได้มั่นใจว่าการที่ท่านย่าถูกวางยาพิษเกี่ยวข้องกับท่านแม่ข้าเล่า?”

“ท่านแม่ข้ามีความผิด ไม่ควรที่จะแอบไปเอาอกเอาใจท่านย่า ข้ารู้ว่าท่านย่ารักทะนุถนอมเจ้ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร เจ้าเห็นท่านแม่ของข้าจะแบ่งความรักทะนุถนอมไปจากท่านย่า แน่นอนว่าต้องไม่พอใจ แต่สิ่งที่นางทำทั้งหมด ล้วนทำเพื่อข้า หวังว่าเจ้าจะเข้าใจความรู้สึกของท่านแม่ข้า……”

หลินเป้ยเหยาร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดไม่ออก ยกมือขึ้นเช็ดซับน้ำตา ท่าทางน่าสงสาร ทำให้คนเห็นใจ

หลินเมิ่งหวันเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง มองหลินเป้ยเหยาด้วยความเย็นชา

ปากนี้หลินเป้ยเหยาพูดจาฉลาดฉะฉานดีจริงๆ มิน่าชาติปางก่อนนางถึงได้ถูกนางหลอกจนหน้ามืดตามัว

คำแก้ตัวของหลินเป้ยเหยาทำให้ปัดความรับผิดชอบเรื่องวางยาพิษของหลี่อี๋เหนียงได้เลย ทำให้คนคิดว่าเมื่อก่อนที่นางโมโหทำเพื่อแย่งชิงความโปรดปราน

“น้องเมิ่งหวัน อย่าเพียงเพราะท่านแม่ของข้าทำให้เจ้าโกรธ แล้วจึงต้องการชีวิตของนางเลย เมื่อวานเจ้าให้นาง…..”

หลินเป้ยเหยาอยากจะพูด ว่าเมื่อวานหลินเมิ่งหวันป้อนยาให้หลี่อี๋เหนียง จนตอนนี้หลี่อี๋เหนียงยังไม่ฟื้น

แต่หลินเมิ่งหวันพูดตัดบทนางอย่างเยือกเย็นว่า“ข้าจะเอาชีวิตท่านแม่ของท่านไปทำอะไร?”

“ท่านวางใจเถอะ ข้าไม่มีทางให้หลี่อี๋เหนียงตายหรอก นางทำให้ท่านย่าได้รับความทุกข์ตรมเช่นนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีชีวิตอยู่ เพื่อไถ่โทษล้างบาป!”

หลินเมิ่งหวันหลุบตาลงมองหลินเป้ยเหยา สายตาราวกับหิมะน้ำแข็งไม่ละลายมาเป็นปี ทำให้หลินเป้ยเหยาแข็งทันที

คำพูดทั้งหมดของหลินเป้ยเหยาสะอึกอยู่ตรงลำคอ สีหน้าซีดเผือด คิดไม่ถึงว่าจะหายใจไม่ออกขึ้นมาทันที

จากสายตาของหลินเมิ่งหวัน หลินเป้ยเหยาสัมผัสได้ถึงความพิฆาต จนกระทั่งทำให้นางไม่กล้าเอ่ยปากพูดอีก

คำที่หลินเป้ยเหยาจงใจพูดขึ้นเมื่อครู่นั้น มันได้ผ่านการไตร่ตรองมาแล้ว

วันนี้นางมาคุกเข่าอยู่ด้านหน้าสวนแสงอรุณ ยังยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ไม่ได้อยากจะร้องขอให้ปล่อยหลี่อี๋เหนียงเฉยๆหรอก แต่นางหวังว่าหลินเมิ่งหวันจะสามารถวิเคราะห์พูดเรื่องหลินฮูหยินใหญ่ถูกวางยาพิษกับนางสักหน่อย

เพียงแค่หลินเมิ่งหวันยอมคล้อยตามพูดเสริม หลินเป้ยเหยาก็สามารถเอาเรื่องพิษที่หลินฮูหยินใหญ่โดนนี้ไปให้กับชุ่ยหงกับผู้ดูแลห้องอาหารได้แล้ว

เมื่อคืนหลี่อี๋เหนียงฟื้นแล้ว จึงได้เล่าต้นสายปลายเหตุให้หลินเป้ยเหยาฟัง และยอมรับเรื่องที่วางยาหลินฮูหยินใหญ่ด้วย

ระหว่างที่พูด หลินเมิ่งหวันก็ได้พยายามพยุงหลินเป้ยเหยาลุกขึ้น

ด้วยความที่เสื้อนางแขนกว้าง พอยกมือขึ้น แขนเสื้อได้กางออก คล้ายกับผีเสื้อ เย็บปักด้วยด้ายสีทอง เมื่ออยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ยิ่งหลากหลายสีสัน

หลินเป้ยเหยารู้สึกเพียงว่าตาลาย ก็ถูกหลินเมิ่งหวันดึงขึ้นแล้ว

แต่หลินเป้ยเหยาคุกเข่านาน ขาทั้งสองข้างเจ็บจนชา ออกแรงไม่ได้เลย

โดยเฉพาะตอนลุกขึ้น เลือดลมปราณไหลเวียนสะดวกอย่างรวดเร็ว มันทำให้หลินเป้ยเหยารู้สึกว่าขาทั้งสองข้างมีมดจำนวนมากกัดแทะนาง ทำให้นางยืนไม่นิ่งไหวเอน

หลินเป้ยเหยาเจ็บจนอุทานออกมา แต่หลินเมิ่งหวันไม่ได้ให้โอกาสหลินเป้ยเหยาพักเลย

หลินเมิ่งหวันกอบกุมมือหลินเป้ยเหยา และฉุดกระชากพาหลินเป้ยเหยาไปทางสวนสน

ขาทั้งสองข้างของหลินเป้ยเหยาไร้ซึ่งเรี่ยวแรง อ่อนปวกเปียกจนจะล้มลง ภาพตามที่คนนอกมอง เหมือนกับว่าไม่ยอมไปด้วย

“ปล่อย…..ปล่อยข้า……”หลินเป้ยเหยาเจ็บขาทั้งสองข้างจนยากที่จะสูดลมหายใจ พูดก็ไม่ชัดเจน หน้าตาน่ารักบิดเบี้ยวเข้ากัน

หลินเมิ่งหวันเห็นเลยขมวดคิ้ว หยุดแล้วถามว่า“พี่หญิง เหตุใดท่านถึงไม่ยอมไปพบท่านย่าล่ะเจ้าคะ?”

“ตั้งแต่ท่านย่าได้รับพิษ พี่หญิงไม่ได้ไปปรนนิบัติข้างกายนางเลย หรือว่าพี่หญิงไม่สนใจความเป็นความตายภัยอันตรายของท่านย่าเลย ? ไม่อยากแสดงความกตัญญูเลยสักนิดหนึ่งหรือ?”

ภายในใจหลินเป้ยเหยารู้สึกไม่ดีทรมาน มองไปทางหลินเมิ่งหวันด้วยความไม่พอใจ

หลินเมิ่งหวันพูดจาเลอะเทอะอะไรกัน?

นางไม่อยากเจอหลินฮูหยินใหญ่หรือ? ชัดเจนว่านางคุกเข่าอยู่เป็นเวลานานจนชา เคลื่อนไหวไม่ได้ต่างหาก!

แต่ตอนนี้หลินเป้ยเหยาทรมานอย่างมาก ไม่มีเวลามาพูดคุย

ความเงียบของนาง กลับเป็นการให้โอกาสอันยอดเยี่ยมแก่หลินเมิ่งหวัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก