ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน
เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว
ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป
เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ
เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก
“ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่
เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน"
ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้
ในเมืองกำลังพลุกพล่าน
เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ
"ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป็นเงิน 27 เหรียญ" เจ้าของรถขายอาหารรับเงินแล้วยื่นถุงซาลาเปาให้เจสัน
เจสันรับถุงนั้นมาและกล่าวอย่างสุภาพว่า "ขอบคุณครับ"
กลับมาที่สนามหญ้าหน้าบ้าน เขาเห็นหญิงสาวยืนอยู่หน้าโต๊ะอาหารเช้าส่วนกลางและถามอย่างนุ่มนวลว่า "ฉันขอถามได้ไหมคะว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อเบียงก้า เรย์นอยู่ที่นี่รึเปล่าคะ?"
ทุกคนที่โต๊ะหันไปมองผู้หญิงที่สง่างาม ในตอนพวกเขากำลังจะพูด พวกเขาก็หันไปมองเจสันพร้อมกัน
เจ้านายอยู่ชั้นบน ดังนั้น เจสันจึงเป็นคนต่อไปที่รับผิดชอบ
ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา พนักงานจึงต้องการคำแนะนำจากผู้บังคับบัญชาก่อน
ผู้หญิงในวัยสามสิบกำลังถือกระเป๋าเฮอร์เมสรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น ผิวของเธอนุ่มนวลและบอบบาง เธอสังเกตเห็นว่าทุกคนกำลังมองไปด้านหลัง เธอจึงหันกลับไปด้วย
เธอสังเกตเห็นเจสันยืนอยู่ข้างหลังเธอ
เจสันคือชายวัยใกล้สี่สิบที่นิ่งและสงบเสงี่ยม “ผมขอทราบได้ไหมครับว่าคุณเป็นใคร?”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันแวนด้า เรย์น น้าของเบียงก้า ฉันได้ยินจากคนในเมืองว่าพวกเขาเห็นเบียงก้าที่นี่” แวนด้าแนะนำตัวเองและอธิบายความตั้งใจของเธอ
เจสันเหลือบมองแวนด้าและยื่นถุงซาลาเปาให้โจ
“เบียงก้ายังอยู่ชั้นบน เธอยังไม่ลงมา นั่งก่อนไหมครับ?” เขาบอกแวนด้า
“ฉันขึ้นไปหาเธอข้างบนได้ไหมคะ?” แวนด้ากระตือรือร้นที่จะพบกับหลานสาวของเธอ ซึ่งไม่ได้พบมาหลายปีแล้ว
“ผมขอโทษครับ คุณเรย์น แต่เจ้านายของเราอยู่ชั้นบนด้วย เขาอาจจะกำลังคุยเรื่องสำคัญกับเบียงก้าอยู่ก็ได้”
แวนด้าพยักหน้าอย่างเข้าใจ
เจสันจัดเก้าอี้ให้แวนด้าและบอกให้เธอร่วมรับประทานอาหารเช้ากับพวกเขา
แวนด้าปฏิเสธอย่างสุภาพโดยบอกว่าเธอรับประทานมาแล้ว
ที่ชั้นบน ชายหนุ่มตรึงหญิงสาวไว้บนเตียง ความหิวกระหายของเขาที่มีต่อเธอนั้นไม่อาจถูกเติมจนอิ่มได้ อุณหภูมิในห้องคับแคบเริ่มสูงขึ้น...
เบียงก้าเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แสงแดดส่องประกายบนผิวที่เนียนนุ่มของเธอ
เบียงก้าเริ่มหายใจไม่ออกเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น
การปรากฏตัวของลุคที่สนามหญ้าหน้าบ้านในช่วงเช้าตรู่ต้องดึงดูดความสนใจของเพื่อนร่วมงานแน่ เธอสงสัยว่าจะมีใครได้ยินไหมว่าพวกเขาทำอะไรอยู่ในห้อง
เธอได้แต่อธิษฐานว่าพวกเขาจะไม่ได้ยิน
กลิ่นของฮอร์โมนและความปรารถนาแผ่ซ่านไปทั่วห้องคับแคบ
ขณะที่เบียงก้ากำลังตะเกียกตะกายลุกขึ้น ชายหนุ่มก็สวมชุดสูทธุรกิจและรองเท้าหนังอีกครั้ง เขายืนอยู่หน้าเตียง
นอกเหนือจากลักษณะใบหน้าที่ดูราวกับถูกแกะสลักของเขาซึ่งยังคงน่าหลงใหลเหมือนเมื่อก่อน ก็ยังไม่มีสัญญาณว่าเขาได้คบหากับผู้หญิงคนไหน
เบียงก้าสังเกตเห็นว่าเขากำลังถือผ้าขนหนูสีขาวที่ชุบน้ำหมาด ๆ
ชายหนุ่มแนบแก้มกับเธอ เขาเอ่ยด้วยเสียงก้องกังวานที่ดังก้องอยู่ในหูของเธอ “คุณจะอาบน้ำเองหรือจะให้ผมช่วย?”
เบียงก้าไม่อยากลุกจากเตียง มันน่าอายเกินไป
กลิ่นประเวณีลอยคุ้งอยู่ในอากาศ
เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่ตื่น ลุคก็ดึงผ้าห่มออกอย่างเงียบ ๆ แล้วเช็ดตัวเธอด้วยผ้าขนหนูอย่างอ่อนโยน ราวกับว่ากลับจะทำให้ผิวบอบบางของเธอช้ำ
"ให้ฉันทำเองดีกว่าค่ะ" เบียงก้ารู้สึกประหลาดใจ เธอพยายามดึงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง
มือแข็งกร้านของลุคถือผ้าขนหนูอุ่น ๆ ที่ฆ่าเชื้อแล้วชะงักไป เขายืนตระหง่านอยู่เหนือผู้หญิงที่สง่างามและจ้องมองเธออย่างเอาแต่ใจอยู่ที่ขอบเตียง ลุคกลืนน้ำลายแล้วอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน
“จะทำอะไรน่ะ หยุดนะ!” เบียงก้ารู้สึกได้ถึงความน่ากลัวเมื่อเธอมองดูร่างกายเทพสลักชายหนุ่ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก