เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว
ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ
ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก
เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม
“เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า”
เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง
ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น"
เจสันโค้งคำนับ
ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ในห้องบนชั้นสอง
เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง
เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด
แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…”
“เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ
เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธีเข้าสังคม เธอไม่สามารถปกปิดอารมณ์ของเธอได้อย่างสมบูรณ์เมื่อต้องพูดถึงบางเรื่อง
แวนด้าสังเกตเห็นความละเอียดอ่อนในท่าทีของหลานสาว สำหรับเธอแล้ว เบียงก้ายังคงไร้เดียงสา อย่างน้อย หลานสาวของเธอก็ไม่มีทักษะการแสดงใด ๆ เลย
เธอยังมองสถานการณ์ออกไปอีกมุมหนึ่ง บางที หลานสาวของเธออาจยังไม่สนิทกับเธอมากนัก และนั่นคือเหตุผลที่เบียงก้าจงใจเลือกใช้คำโกหก
แวนด้าตระหนักว่าเธอค่อนข้างชอบหลานสาวของเธอ
แวนด้านั่งลงและชวนให้เบียงก้านั่งลงข้าง ๆ เธอ
ขณะที่เบียงก้านั่งลงอย่างนอบน้อม เธอใช้นิ้วลูบบนผ้าปูที่นอนโดยไม่รู้ตัวเพราะกลัวว่าน้าสาวจะสังเกตเห็นรอยย่นและคราบ...
เธอรู้สึกผิดจนจำได้ว่าก่อนหน้านี้ผ้าปูที่นอนถูกเปลี่ยนไปแล้ว
ผ้าปูที่นอนที่พวกเธอนั่งอยู่นั่นสะอาดหมดจด
ลมเย็นของฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่ทำให้อากาศที่อับชื้นภายในห้องแคบสดชื่นขึ้น
“ตอนนี้คุณปู่และพ่ออาศัยอยู่กับหลานรึเปล่า?” แวนด้าถามคำถามที่เธอกังวล
เบียงก้าพยักหน้า
เธอค่อนข้างเคืองน้าสาวอยู่เหมือนกัน
“พ่ออาศัยอยู่ในเมืองเอค่ะ แต่หนูพาคุณปู่ไปที่นั่นทีหลังเพราะทนเห็นคุณปู่อยู่คนเดียวในบ้านหลังเก่าไม่ได้ และหนูก็ไม่คิดว่าโลกนี้จะมีหลานสาวที่ไหนต้องทนเห็นปู่ต้องกิน นอน และทำงานบ้านโดยไม่มีใครดูแล"
“น้าขอโทษนะ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของน้าเอง” แวนด้ายอมรับข้อบกพร่องของเธอ เธอมองเข้าไปในดวงตาของเบียงก้า และพูดต่อว่า “ตอนนั้น น้าเพิ่งหย่ากับสามี น้าเป็นโรคซึมเศร้าและพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว น้าก็เลยส่งคุณปู่ของหลานกลับมาที่นี่โดยไม่ได้ไยดีเขาเลย น้าขอโทษนะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก