ภรรยาร้อนรัก นิยาย บท 10

ตอนที่ 10 เที่ยวน้ำตก

รถม้าคันใหญ่เคลื่อนตัวออกจากจวนตระกูลถง ร่างบางทั้งสองนั่งภายในรถม้าที่กว้างพอสมควร เบารองนั่งทำจากนุ่นอัดแน่นและขนสัตว์ที่ทำให้นุ่มสบายยามเมื่อนั่งในรถม้า ไม่ให้รู้สึกปวดเมื่อย โต๊ะตัวเล็กขั้นกลางร่างทั้งสองไว้ มีน้ำชาและขนมวางบนโต๊ะสามจาน ด้านสามีนั้นควบอาชาอยู่ข้างรถม้าปล่อยให้ ภรรยาทั้งสองชื่นชมบรรยากาศข้างทางที่เขาไม่เข้าไปขัดขวาง

ซ่านซีสาวใช้นั่งอยู่ด้านนอกพร้อมสารถีหนุ่มหล่อเหลา คมคายรูปร่างกำยำยิ่งนัก ดวงตาของเขาดูดุดัน สารถีผู้นี้คือหนึ่งในเงาที่เขานั้นรับไว้เลี้ยงดู เงาของเขามีไม่มากเพียงแค่สามสิบคนที่ถือว่าเป็นยอดฝีมือ วรยุทธนั้นล้ำลึกเลิศล้ำกว่าใครยิ่งนัก ใครจะคิดเล่าว่าพ่อค้าธรรมดากลับมีเหล่าเงามากความสามารถไว้ในครอบครอง

ถงหยางจงนั้นเดินทางทำการค้ามากมายและเดินทางต่างเมืองเป็นประจำจะว่าจ้างผู้คุมกันก็เกรงว่าจะไม่คุ้มเงินที่จ้าง เช่นนั้นแล้วเขาจึงได้รับพระราชทานเหล่าเงามากความสามารถเช่นนี้เพราะว่า พี่สาวของเขานั้นมีฐานะเป็นถึงพระชายาขององค์ชายเชื้อพระวงศ์คนสำคัญและนั่นทำให้พี่สาวนั้นเป็นทุกข์ยิ่งนัก พี่เขยจึงได้พระราชทานเงาให้มาดูแลและเป็นคนของเขา เบี้ยอัฐนั้นเขาก็เป็นคนจ่าย

อีกทั้งเหล่าเงานั้นชมชอบยิ่งนักเพราะว่างานสบายไม่ต้องเหนื่อยมากมายยามที่ดูแลองค์ชาย ผู้ที่มีแต่คนต่างหมายปองชีวิตของเขา องค์ชายพระราชทานมาให้สามสิบชีวิตแต่องค์ชายยังเหลือเงาในสังกัดอีกสามร้อยกว่าคน ยังไม่รวมถึงกองกำลังลับที่ซ่องสุมเอาไว้เผื่อยามฉุกเฉินขึ้นมา

“พี่สาวอีกไกลหรือไม่เจ้าคะ” เสียงหวานทำลายความเงียบงันในรถม้าเอ่ยกับมี่หลินภรรยาเอกที่ตอนนี้นางนั่งเกยคางที่ขอบหน้าต่างรับลมเย็นๆ ที่ผัดผ่าน บวกกับมองทิวทัศน์ข้างทางที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ให้ร่มเงาบดบังแสงแดดที่ลงมาแผดเผาเบื้องล่าง

“ไม่ไกลหรอก ตื่นเต้นหรือไรเด็กน้อย” เสียงหวานเอ่ยอย่างเอ็นดู เสี่ยวชิงภรรยารองของสามี มีหรือนางจะดูไม่ออกว่าเด็กน้อยผู้นั้นช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน งดงาม และสง่างามในคราวเดียวกัน อีกทั้งยังอ่อนหวานเรียบร้อย สมแล้วที่เป็นสตรีงามอันดับหนึ่งของหอคณิกาบุหลัน มิน่าสามีของนางนั้นถึงได้หลงใหลเด็กน้อยผู้นี้ยิ่งนัก

มี่หลินนั้นแต่งงานมาห้าปีตอนนี้นางก็อายุยี่สิบปีแล้วนางมิเคยอิจฉาริษยาเด็กน้อยผู้นี้สักครั้ง นางทั้งร่าเริงสดใส ทำให้จวนนั้นน่าอยู่ยิ่งขึ้น ช่างเจรจายิ่งนัก นางแย้มยิ้มส่งกลับอย่างปิดไม่มิด ดวงตานั้นหลี่ลงเล็กน้อยนั่นแสดงถึงว่านางยิ้มกับกิริยาที่น่าเอ็นดูจนเรียกได้ว่ายิ้มจนตาหยีเหมือนดวงจันทร์เสี้ยว

“เจ้าคะ น้องมิเคยมาเล่นน้ำตกสักครั้ง” เสี่ยวชิงตอบรับใบหน้าหวานอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ดวงตานั้นสดใสร่าเริงเป็นประกายวาววับ มือเรียวนั้นก็ยกถ้วยชาขึ้นพลางจิบเล็กน้อยเพื่อดับกระหาย อีกมือก็ถือขนมนุ่มนิ่มไว้เหมือนว่ากลัวใครจะแย่งจากมือไปกินเสียอย่างนั้น

“ท่านแม่เจ้าดีกับเจ้าไหม ที่พี่ถาม มิได้มีเจตนาร้ายอันใด” มี่หลินก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ ว่าแม่เล้าผู้นี้นั้นทำไมถึงได้ให้หวงแหนพวกนางยิ่งนัก น้ำตกเด็กๆ ทุกคนก็ล้วนแล้วแต่เคยเล่นกันมาทั้งนั้น

“ท่านแม่นั้นเป็นแม่บุญธรรมก็จริงแต่ว่ารักน้องเหมือนลูกในไส้เจ้าคะ อีกทั้งยังหวงมาก มีครั้งหนึ่งน้องพาเสี่ยวชุนน้องสาวฝาแฝดแอบหนีไปเที่ยวที่ตลาด ท่านแม่จับได้กร่นด่าไปสามวัน หูชาทีเดียวท่านแม่บอกว่าที่ดุด่านั้นเป็นห่วง เมื่อเห็นท่านแม่เป็นทุกข์น้องเลยมิกล้าขัดคำสั่งเจ้าค่ะ” เสี่ยวชิงเอ่ยนั้นใบหน้าแย้มยิ้มยังนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ดีทีเดียว

“ภรรยารักถึงแล้ว” ผู้เป็นสามีเอ่ยขัดจังหวะการสนทนาของภรรยารักทั้งคู่ ดวงตากลมโตของภรรยารองดูสดใสกว่ามากเมื่อผู้เป็นสามีนั้นกล่าวว่า เดินทางมาถึงน้ำตกแล้ว ใช้เวลาเพียงสองก้านธูปเท่านั้น (ครึ่งชั่วโมง) มือหนายื่นรอรับมือเรียวของภรรยาทั้งสองก้าวลงที่บันไดเทียบม้าเมื่อสารถีหนุ่มใบหน้าคมคายผิวคล้ำแดดออกสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีน้ำหมึกเหมือนดั่งเส้นผมที่รวบสูงสวมกว้าน ปักปิ่นด้วยไม้ธรรมดา ดูแล้วมีเสน่ห์ยั่วยวนยิ่งนัก

ซ่านซีถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เกิดมานางมิเคยเห็นใครร่างกายกำยำแข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน นางนั้นมีใจเพียงมี่หลินเท่านั้นแต่เมื่อเห็นบุรุษผู้นี้ถึงกลับเปรี้ยวปากทันที ดูท่าว่าเขาผู้นี้คงจะเด็ดดวงเป็นแน่ จะดีไม่น้อยหากนางได้ลองลิ้มรับรสอะไรแปลกใหม่บ้าง เพียงได้แค่คิดเท่านั้นกระมัง ความคิดสัปดนเช่นนี้บังเกิดขึ้น ซ่านซีจึงส่ายศีรษะน้อยๆ ไล่ความคิดอันไม่งามออกไปให้ไกลตัว

ทั้งห้าคนก้าวย่างเข้ามาภายในพื้นที่ใกล้ๆ กับน้ำตกที่เสียงดัง ซู่ ซ่า พร้อมละอองน้ำเล็กๆ สร้างความสดชื่น อีกทั้งมีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ร่มเงาบดบังแสงแดดที่สาดส่องลงมาได้อย่างดี แปลงดอกไม้เล็กๆ หลากหลายสีสันส่งกลิ่นหอมยั่วยวนเหล่าภมรทั้งหลายที่ต่างดอมดมชิมน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ อีกทั้งเหล่าผีเสื้อน้อยใหญ่ที่ปีกของพวกมันนั้นสวยงามยิ่งนักสายลมเย็นสบายพัดผ่านบางเบา ดอกไม้และต้นไม้นั้นเอนไหวตามแรงลมที่พัดมา

กระโจมสามหลังถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนเพราะสามีที่รักภรรยายิ่งให้เหล่าเงาทั้งหลายมาตั้งกระโจมรอและยังมีเหล่าเงาที่แฝงกายอยู่ดูแลความปลอดภัยให้เขาและภรรยาเช่นกัน รวมถึงสารถีหล่อเหลาผู้นี้ด้วย ทั้งห้าคนนั้นจะพักค้างคืน ที่นี่หนึ่งคืนและวันพรุ่งนี้ถึงกลับจวนยาม จี๋ (ซื่อ 09.00 - 10.59 น.)

“ท่านพี่หิวหรือไม่เจ้าคะ” ผู้เป็นภรรยาเอกเอ่ยถามสามีอย่างห่วงใยกลัวว่าเขาจะหิวขึ้นมาแต่เปล่าสักนิดเขามิได้หิวข้าวแต่หิวภรรยาทั้งสองมากกว่าเพราะเมื่อคืนเขามิได้ปลดปล่อยนอนอัดอั้นอึดอัดทั้งคืน และวันนี้เขาจะพาพวงนางทั้งสองขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าให้ได้

“ไม่หิวสักนิด หิวพวกเจ้านี้ไงเล่า” เขากระซิบข้างหูภรรยาเอกอย่างแผ่วเบา สร้างความเสียวซ่านเล็กๆ น้อยๆ พร้อมกับลมหายใจเป่ารดต้นคอระหงส์ของนาง มือหนาโอบกอดเอวบางของภรรยาทั้งสองคนละข้าง สร้างความอิจฉาริษยาให้ซ่านซียิ่งนัก นัยน์ตาของซ่านซีนั้นมองเห็นเพียงใบหน้ายิ้มแย้มเอียงอายของมี่หลินกับสามี ทำให้นางนั้นรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินของนาง จึงตัดสินใจเดินหนีภาพบาดตาบาดใจเสียดื้อๆ สร้างความงุนงงระคนสงสัยให้กับมี่หลินมากทีเดียว

รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏบนใบหน้าของคุณชายถงหรือสามีของภรรยาทั้งสอง เขาจงใจยั่วยุ ซ่านซีเล็กน้อยเพื่อเป็นการลงโทษ หากว่านางยังหึงหวงภรรยาของเขาอย่างออกหน้าออกตาแล้วละก็คงได้มอบสามีให้นางสักคนและน่าจะเลือกเงาที่แฝงยัดเยียดความเป็นสามีให้สาวใช้ผู้นี้ หรือจะเป็นสารถีผู้นี้ก็ดีงามมากมายทีเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาร้อนรัก