“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกคุณนะคะ!” ญาณิศาเถียงขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ แม้ว่าแท้จริงแล้วเธอก็หลอกเขาจริงๆ
“งั้นคุณจะอธิบายเรื่องที่สามีของคุณมานอนกับตันหยงได้ยังไงหะ!”
“ฉันไม่รู้ค่ะ ฉันจำอะไรไม่ได้” ญาณิศาส่ายหัวไปมาเหมือนคนบ้า เพราะเธอไม่รู้ว่าจะต้องโกหกเขายังไงต่อ ตอนนี้ในหัวของเธอมันตื้อจนคิดอะไรไม่ออกเลย
“แสดงว่าคุณจัดฉากทั้งหมดเลยสินะ!!!” ดนัยณัฐทนไม่ไหวเข้าไปบีบคอญาณิศาจนเธอเกือบจะหายใจไม่ออก แต่ยามที่พยาบาลโทรตามก็เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน เพราะพยาบาลกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับผู้ป่วย
“แค่ก! แค่ก! คุณถึงขนาดจะฆ่าฉันเลยเหรอ!” ญาณิศาขึ้นเสียงใส่ดนัยณัฐเพราะเธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำร้ายเธอขนาดนี้
“คุณมันเลว!!! ทำให้ผมต้องเสียภรรยากับลูกไป” ดวงตาดนัยณัฐแดงก่ำเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด
“มันเป็นเพราะความโง่! แล้วก็ความกลัวของคุณต่างหาก!” ญาณิศาตะโกนด่าดนัยณัฐอย่างขาดสติ
“ผมจะหย่า!!! ถ้าคุณไม่หย่าผมก็จะฟ้องศาล แล้วก็เชิญคุณกับลูกชู้ของคุณออกไปจากบ้านของผมและอย่าหวังว่าจะได้สมบัติอะไรติดตัวไปแม้แต่ชิ้นเดียว!” ดนัยณัฐตะโกนออกมาอย่างเหลืออดสะบัดร่างกายออกจากยามก่อนจะเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ในหัวพยายามนึกถึงเรื่องในอดีตที่เขาได้ทำผิดพลาด…
ในคืนวันหนึ่งดนัยณัฐได้รับจดหมายจากผู้หญิงคนหนึ่งว่าคืนนี้ถ้าอยากรู้ความจริงทั้งหมดก็ให้ไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งพอเขาไปถึงที่นั่นก็เห็นตันหยงเดินเข้าไปในโรงแรมกับผู้ชายคนหนึ่ง…
ไม่เพียงเท่านั้นทั้งสองคนยังเข้าไปในห้องด้วยกันอีก แต่ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปก็เห็นผู้ชายคนนั้นขึ้นคร่อมเธอที่ตอนนี้ร่างกายเปลือยเปล่าอยู่ ไม่รอช้าดนัยณัฐรีบหยิบปืนที่พกมาด้วยยิงเจาะเข้าไปที่หัวของฝ่ายชายจนเสียชีวิตคาที่
พอเขาเดินออกมาจากห้องก็ชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเมาอยู่ รู้สึกตัวอีกทีในตอนเช้าก็กลายเป็นว่าเขาได้มีอะไรกับญาณิศาไปแล้ว ด้วยความที่เขาอยากจะประชดตันหยงจึงตัดสินใจให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย แถมวันหนึ่งพอเขารู้ว่าตันหยงท้องจากรักก็กลายเป็นเกลียดทันที
นับตั้งแต่วันนั้นดนัยณัฐกับญาณิศาก็ทำร้ายจิตใจตันหยงหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะเธอไม่ยอมพูดอะไรออกมาเอาแต่บอกว่าถ้าเขาตรวจดีเอ็นเอกับลูกก็จะรู้เองว่าเธอไม่ได้สำส่อนอย่างที่เขาคิด เพราะต่อให้เธออธิบายตอนนี้เขาก็ไม่ฟังอยู่ดี
และเป็นเพราะดนัยณัฐกลัวว่าเด็กที่ออกมาจะเป็นลูกของชู้จริงๆ จึงไม่เคยพาเธอไปตรวจใดๆ แต่เขาก็รู้มาว่าบางทีเธอก็แอบไปตรวจบ้าง เนื่องจากเธอเองก็คงไม่อยากให้ลูกคนที่สองต้องตายอีก
ในช่วงนั้นญาณิศาก็ตั้งครรภ์เหมือนกัน ดังนั้นความเอาใจใส่ของดนัยณัฐทั้งหมดจึงไปตกอยู่ที่ญาณิศาคนเดียว แต่ใครจะไปคาดคิดว่าพอตันหยงคลอดเสร็จเธอก็ตายทันที มันยิ่งทำให้ดนัยณัฐกลัว เพราะถ้ายี่หวาเป็นลูกชู้จริงๆ เขาอาจจะเกลียดจนอยากฆ่าเธอเลยก็ได้ แต่ถ้าเขาไม่รู้ เขาก็ยังพอที่จะคิดเข้าข้างตัวเองได้บ้างว่าเธอคือลูกของเขา มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่กล้าตรวจดีเอ็นเอกับยี่หวา
แต่วันนี้เขากลับได้รู้ความจริงว่าดาหลาไม่ใช่ลูกของเขา เรื่องในคืนนั้นมันต้องเป็นเพราะญาณิศาจัดฉากให้สามีตัวเองไปนอนกับตันหยงแน่ๆ ไม่แน่ว่าบางทีตันหยงอาจจะโดนข่มขู่ และเป็นเพราะเขาฆ่าสามีญาณิศาตาย เธอจึงหันไปหาที่พึ่งใหม่ซึ่งนั่นก็คือเขา
คิดถึงตรงนี้ดนัยณัฐก็ทรุดลงไปกับพื้น ร้องไห้ออกมาอย่างกับคนบ้า เขาโง่อย่างที่ญาณิศาบอกจริงๆ เขามันโง่ที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาทำร้ายภรรยาตัวเองจนต้องตาย แถมยังมาทำร้ายลูกเขาอีก คนอย่างเขาไม่ควรเกิดมาเป็นพ่อคนจริงๆ
ยี่หวารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์ด้วยความแปลกใจ เพราะเธอไม่คิดว่าวายุจะปล่อยให้โทรศัพท์เธอดังแบบนี้ แต่พอเห็นสิ่งมีชีวิตในห้องก็เข้าใจทันที แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้กดรับ ปลายสายก็ตัดไปแล้ว
“นายไม่คิดจะปิดเสียงโทรศัพท์ให้ฉันหน่อยเหรอ” ยี่หวาหันไปบ่นอย่างอารมณ์เสียใส่คนตรงหน้า
“ทำไมต้องปิดก็ในเมื่อฉันรอเธอตื่นอยู่” เดวิลตอบกลับมาด้วยท่าทางกวนๆ เพราะเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขารอเธอตื่นมากี่ชั่วโมงแล้ว รอจนเกือบจะหายใจไม่ออก แถมยังไม่กล้ากลับอีก “ความจำกลับมาแล้วจริงๆ ด้วยสินะ”
“คุณวายุกับเรนไปไหน?”
เดวิลถึงกับมองบน ตื่นมาก็ถามหาสามีกับลูกจนไม่สนใจเพื่อนตัวเองเลย “เย็นแล้วเขาเลยพาเรนจิไปกินข้าว”
“เย็นแล้วเหรอ!” ยี่หวาตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าเธอจะนอนนานขนาดนี้ ทั้งที่เมื่อคืนก็นอนไปแล้ว
“ไอเราก็อุตส่าห์รีบมาทันทีที่พี่พีชโทรไปบอก แต่พอมาถึงก็ต้องมานั่งรอให้เธอตื่นจนเย็น”
“แล้วนายจะรอทำไม ทำไมไม่กลับไปก่อน”
“ฉันไม่กล้าลุก…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม