บทที่ 1028 อำนาจเทพแห่งโชค
ยุคจักรพรรดิโบราณเสวียนโยว แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์แม้จะแบ่งเป็นโลกแดนเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตกเช่นกัน แต่เขตชายแดนไม่ชัดเจน และเสวียนโยวก็จงใจที่จะให้ให้มันพร่าเลือน
จวบจนเสวียนโยวไปจากแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ เสี้ยวหน้าลงมาเยือน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง
เคราะห์ปกคลุมแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ เผ่าพันธ์ุทั้งหลายเผชิญหน้ากับความตายและสงครามไม่หยุดหย่อน บางเผ่าหายไปชั่วนิรันดร์ บางเผ่าพลิกย้อนสถานการณ์ สุดท้ายพัฒนากลายเป็นเผ่าแข็งแกร่งทั้งห้า
ในนั้น แดนตะวันออกมีเผ่านภาคิมหันต์ปรากฏขึ้น แดนเหนือมีเผ่าราชันประกาศิตอุดร แดนตะวันออกมีเผ่าเอกภพแดนสีชาด แดนใต้มีเผ่ากระดูกต้นกำเนิดแห่งยมโลก และเผ่าแข็งแกร่งอันดับหนึ่งที่ครอบครองพื้นที่ใจกลางแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์
เผ่าทั้งห้าผงาดยืนตระหง่านในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ เป็นจุดสูงสุดของโลกในปัจจุบัน
และเพราะจักรพรรดิมนุษย์หลีเซี่ยสำเร็จเทพ หนึ่งก้าวสู่แท่นเทวะ นำพาเผ่ามนุษย์ผงาดขึ้น จับมือเป็นพันธมิตรกับเผ่านภาคิมหันต์ กลายเป็นหนึ่งในหกเผ่าแข็งแกร่งแห่งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ในวันนี้ ทำให้พลังโลกแดนตะวันออกเหนือกว่าแดนตะวันตก ใต้และเหนือ เพียงพริบตาก็ไล่ขึ้นมาเป็นเผ่าแข็งแกร่งอันดับหนึ่ง
ความแข็งแกร่งของพวกเขา ผ่านจากสงครามแดนศักดิ์สิทธิ์ในวันนี้ก็พอจะมองออก
พื้นที่ใจกลางไม่มีแดนศักดิ์สิทธิ์ใดลงมาเยือน
แดนตะวันออก สงครามถูกควบคุมไว้นอกค่ายกล
ส่วนแดนตะวันตก ใต้และเหนือไปสงครามกลับแผ่ปกคลุมไปทั่ว ทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน…
โดยเฉพาะทางเหนือ ในเวลาครึ่งปีนี้ ก็ได้ทำศึกใหญ่ครั้งใหญ่ไม่ขาดกับสี่แดนศักดิ์สิทธิ์ระดับดำที่ได้ลงมาเยือน ณ ดินแดนแห่งนี้
ต่อให้เผ่าราชันประกาศิตอุดรจะแข็งแกร่งเพียงใดก็เริ่มจะรับมือได้อย่างยากลำบากเข้าไปทุกที
ดังนั้นเมื่อกวาดตามองไป ทั้งที่ราบน้ำแข็งแดนเหนือไม่เป็นสีขาวอย่างในอดีตอีกต่อไป พื้นที่หลายแห่งในนั้น…ถูกเลือดอาบย้อม
สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ เดินเข้าสู่โลกแดนเหนือ
สัมผัสถึงลมเย็นเยือกของแดนเหนือ ทอดสายตามองธารน้ำแข็งไร้ขอบเขตสุดลูกหูลูกตาของโลกแดนเหนือ ได้กลิ่นคาวเลือดที่หลอมรวมจากความตายมาจากในฟ้าดิน ต่อให้เป็นเอ้อร์หนิวคำพูดคำจาก็น้อยลงไปเล็กน้อยเหมือนกัน
ที่ราบน้ำแข็งที่ผสมปนเปไปด้วยเลือดสดๆ ใต้เท้า ขณะที่ดูน่าสยดสยองขนลุกขนพองก็จะเห็นซากร่างที่โดนแช่แข็งกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งจำนวนไม่น้อย
คงท่าทางก่อนตายเอาไว้
“เทียบกับโลกแดนตะวันออกแล้ว ที่นี่…โหดร้ายรุนแรงยิ่งกว่านัก”
สวี่ชิงทอดสายตามองไปที่ไกล เอ่ยพึมพำเสียงต่ำ
“ดังนั้นอย่าเข้าไปลึกเกินไปจะเป็นการดี”
“ไม่อย่างนั้นก็ที่นี่ก็แล้วกัน อย่างไรที่ที่พวกเราต้องไปก็คือใต้ธารน้ำแข็ง”
สายตาของเอ้อร์หนิวจับจ้องไปที่ซากร่างซากหนึ่งที่ห่างไปไม่ไกล ถอนหายใจเอ่ย
สวี่ชิงพยักหน้า สายตาเก็บมาจากม่านฟ้าที่ไกล มองไปทางธารน้ำแข็งใต้เท้า เท้าขวายกขึ้นกำลังจะก้าวลงไป คิดจะเหยียบธารน้ำแข็งให้พังถล่ม
แต่ในตอนนี้เองสีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไป
เสียงหวีดหวิวของลมส่งเสียงที่ไม่ใช่ของลมมา ในอำนาจเทพเจ้าของสวี่ชิงประกอบเป็นภาพขึ้น
มีคน อยู่ที่ไกลๆ…กำลังถูกไล่สังหาร
คนที่ถูกไล่สังหารเป็นผู้บำเพ็ญกลางคน ผิวของเขาออกไปทางสีฟ้า เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เผ่ามนุษย์ พลังบำเพ็ญระดับหวนสู่อนัตตาขั้นหนึ่ง
เสื้อผ้าอาภรณ์หรูหรา ศีรษะสวมกวานสีม่วงทอง แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นผู้ที่มีฐานะไม่ธรรมดา
บนเสื้อคลุมปักลายเหลือบหิมะ จากการเคลื่อนไหว หิมะเหล่านี้จะก่อเป็นภาพมายาวนล้อมอยู่รอบกายเขา เหนี่ยวนำไอเย็นทั่วทุกสารทิศก่อเป็นลมพายุ เร่งความเร็วให้กับเขา
และผู้ที่ไล่สังหารมีสองคน พลังบำเพ็ญเท่ากับเขา ต่างเป็นระดับหวนสู่อนัตตาขั้นหนึ่ง สวมชุดคลุมยาวสีเงิน ที่หว่างคิ้วมีเกล็ด ข้างหลังมีหาง ที่ศีรษะมีเขา
ในร่างแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของห้วงดารากลุ่มหนึ่ง
กลิ่นอายนี้บ่งบอกฐานะของต่างเผ่าสองคนนี้เช่นกัน พวกเขาไม่ใช่ผู้บำเพ็ญท้องถิ่นแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ แต่มาจากนอกพิภพ มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์
ตอนนี้ในดวงตาแฝงด้วยจิตสังหาร ไล่โจมตีเร็วจี๋ ยิ่งในขณะที่พุ่งทะยานไปก็ประสานปางมือ วิชาเวทเป็นทางๆ กะพริบแสงวูบวาบ พุ่งตรงโจมตีสังหารผู้บำเพ็ญกลางคนที่อยู่ข้างหน้าคนนั้น
แม้จะถูกไล่ล่าสังหาร แม้จะถูกโจมตี มีเลือดสดๆ ไหลจากมุมปาก แต่สีหน้าของผู้บำเพ็ญกลางคนเป็นปกติ ไม่มีความลนลานแม้แต่น้อย สุขุมยิ่งนัก
อาศัยความเร็วที่ชำนาญ ลองทิ้งระยะอยู่ตลอด
ต่อให้ผลลัพธ์น้อยนิด ทั้งสองฝ่ายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ วิชาเวทก็มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาทางนี้โดนโจมตีหลายครั้ง ยิ่งมีเลือดสดๆ คำโตกระอักออกมา แต่สีหน้าของเขาก็ไม่แตกตื่นตกใจแม้แต่น้อย
เหมือนว่าเขาไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเองเลยแม้แต่น้อย สำหรับเรื่องที่ถูกไล่ตามทันความตายใกล้จะบังเกิดขึ้นอยู่รอมร่อก็ไม่เอามาใส่ใจเลย
ภาพแปลกประหลาดภาพนี้สวี่ชิงสัมผัสรับรู้ไว้ได้ ไม่นานหลังจากนั้น เอ้อร์หนิวก็เห็นเช่นกัน
“เสื้อผ้าของคนคนนี้เป็นเผ่าราชาแก่นวิญญาณ น่าสนใจแฮะ หรือจะรู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่ หรือจะบอกว่าคนคนนี้ซ่อนวิธีอื่นเอาไว้ ไม่อย่างนั้นจะสุขุมขนาดนี้ได้อย่างไร”
เอ้อร์หนิวแปลกประหลาดใจ
สวี่ชิงสีหน้าสงบนิ่ง สายตาจับไปยังร่างของคนทั้งสามที่ไล่กันบนท้องฟ้า
ทั้งสามคนนี้ไม่นานนักก็เข้ามาใกล้จากบนท้องฟ้า แต่ว่าด้วยพลังบำเพ็ญของพวกเขาย่อมไม่สามารถรับรู้ถึงสวี่ชิงและเอ้อร์หนิวที่อยู่ในสภาวะซ่อนอำพรางได้
แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ ในเสี้ยวพริบตาที่เข้าใกล้พวกสวี่ชิงทั้งสองคน ผู้ไล่สังหารที่มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองคนสำแดงไพ่ตาย ท่ามกลางเสียงระเบิดวิชาเวท ผู้บำเพ็ญเผ่าราชาแก่นวิญญาณที่ถูกไล่สังหารหลบหลีกไม่ทัน ร่างสะท้านเฮือก เลือดสดๆ กระอักออกมา
ขณะที่ร่างโซซัดโซเซก็ถูกขวางทางข้างหน้าเอาไว้ จำต้องพุ่งตรงไปยังพื้นที่ราบน้ำแข็ง
จากการเข้ามาใกล้ของผู้บำเพ็ญแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองที่มาพร้อมด้วยจิตสังหาร ทั้งสามคนนี้ก็ต่อสู้กันขึ้นมาทันทีในบริเวณที่ห่างจากข้างหน้าสวี่ชิงและเอ้อร์หนิวสองร้อยจั้ง
เสียงระเบิดดังก้อง แสงวิชาเวทปะทุขึ้น
ภาพที่แปลกประหลาดภาพนี้ทำเอาสวี่ชิงและเอ้อร์หนิวเห็นแล้วต่างขมวดคิ้ว
“นี่มันจะบังเอิญเกินไปแล้วประทัง มาต่อสู้ข้างหน้าพวกเราพอดี”
เอ้อร์หนิวหรี่ตา
เพียงแต่เห็นการลงมือของทั้งสาม ต่างมีท่าทางจะสังหารอีกฝ่ายให้ตายจริงๆ อีกทั้งดูจากสีหน้าของพวกเขา ก็เห็นได้ชัดว่าไม่รู้ตัวว่าใกล้ๆ ตัวมีคนจริงๆ
ดังนั้นเอ้อร์หนิวจึงวางแผนจะสังเกตการต่อไป ดูว่าสามคนนี้ต่อจากนี้จะมีใครตายจริงๆ หรือไม่
ในเมื่อการปรากฏตัวของทั้งสามคนนี้เต็มไปด้วยความบังเอิญ อีกทั้งเมื่อความบังเอิญถึงในระดับหนึ่งแล้ว นั่นก็คือความแปลกประหลาด
แต่ว่าสวี่ชิงหลังจากที่ประเมินอย่างละเอียดแล้ว ประกายเย็นเยือกในดวงตาฉายวาบ พลันยกมือขวาขึ้นแล้วสะบัด
จากการสะบัดนี้ ผู้บำเพ็ญทั้งสามคนนั้นที่ต่อสู้กันอยู่ เสียงที่ดังจากการลงมือของพวกเขาก็เหมือนถูกตัดขาด หายไปทันที จากนั้นก็ก่อเป็นการสังหารไร้รูปร่าง และปะทุขึ้นในพริบตา
ทุกที่ที่ผ่านกลายเป็นระเบิดเสียง ผู้บำเพ็ญที่มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์หน้าพลันเปลี่ยนสี สีหน้าหวาดกลัว คิดจะหลบหลีกแต่ก็ไม่ทันแล้ว เพียงพริบตาก็ถูกระเบิดเสียงปกคลุม
ท่ามกลางเสียงระเบิดตูมๆ ร่างทั้งสองแหลกสลายเป็นเสี่ยงๆ กายและจิตดับสูญ
มีเพียงเลือดที่หลั่งริน อาบย้อมผืนดินแดงฉาน
ส่วนผู้บำเพ็ญกลางคนเผ่าราชาแก่นวิญญาณคนนั้น ตอนนี้ก็ถูกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนี้สะเทือนจนจิตใจพุ่งพล่าน ถอยหลังไปเล็กน้อยตามสัญชาตญาณ มองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว
ไม่เจออะไรทั้งสิ้น
การซ่อนตัวของสวี่ชิงและเอ้อร์หนิวทำให้ในสายตาของผู้บำเพ็ญที่นี่มองเห็นรอบๆ เป็นพื้นที่กว้างโล่ง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา