เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 1029

บทที่ 1029 เจ้าออกค่าสินสอด ข้าเข้าห้องหอ

………………..

ณ เขตดินแดนเหนือติดไปทางเขตตะวันออก ใต้ธารน้ำแข็ง มืดมิดไปทั่วทั้งบริเวณ

ชั้นน้ำแข็งหนากลายเป็นผืนฟ้าของธารน้ำแข็ง ปกคลุมที่นี่เอาไว้

ความเย็นเยียบเสียดกระดูกของธารน้ำแข็งและความหนาวเหน็บที่แฝงอยู่ เดิมควรทำให้น้ำในแม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็งตามไปด้วย แต่น้ำในแม่น้ำที่นี่แปลกประหลาดนัก ทั้งมีไอพลังประหลาดที่แปลงมาจากลมหายใจเทพเจ้า ทั้งมีพลังวิญญาณ

จากกระจายตัวในระดับชั้นที่ต่างกันไป ทำให้จุดเยือกแข็งต่างออกไปเช่นกัน

ยิ่งดำดิ่งลงไปข้างล่าง จุดเยือกแข็งก็ยิ่งเหนือกว่าความรู้ความเข้าใจ

แม้ว่าในร่างของสวี่ชิงและเอ้อร์หนิวจะสัมผัสถึงพลังงานความร้อนใดๆ ไม่ได้แล้ว อาศัยพลังบำเพ็ญของตัวเองประคองพลังชีวิต แต่แม่น้ำก็ยังคงไม่เป็นน้ำแข็ง

และความเหน็บหนาว จากการดำดิ่งลงไปก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

ทำให้ในตอนที่มาถึงความลึกระดับประมาณสามหมื่นจั้ง เงาร่างของสวี่ชิงพลันหยุดชะงัก

หากดำดิ่งลงไปต่อ ด้วยกายเนื้อของเขาย่อมทนรับไหว แต่วิญญาณสัมผัสได้ถึงแรงกดดันแล้ว

แต่อย่างน้อยก็ยังดำลงไปได้อีกหนึ่งถึงสองหมื่นจั้ง

แต่เฟิงหลินเทากับเยวี่ยตงมาถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้ว

หากดำลงไปต่อ พวกเขาจะไม่มีความสามารถแสดงวิชาเซียนและมรดกได้

กลับเป็นเอ้อร์หนิว ส่วนที่แปลกประหลาดพิศดารของเขาสำแดงออกมาที่นี่อย่างเต็มที่ เขา…ไม่เป็นไรเลยแม้แต่น้อย!

กระทั่งว่าทำให้สวี่ชิงรู้สึกว่า ในแม่น้ำที่หนาวเหน็บนี้ เอ้อร์หนิวเหมือนว่าจะเป็นตัวของตัวเองมากกว่าอยู่ข้างนอกมาก

“ศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าตลอดกาล”

สังเกตเห็นสายตาของสวี่ชิง เอ้อร์หนิวสีหน้าได้ใจ

สวี่ชิงเมื่อได้ยินก็ให้ความร่วมมือด้วยการแสดงสีหน้านับถือเลื่อมใสออกออก ทำเอาเอ้อร์หนิวเห็นแล้วสบายอกสบายใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เขาก็รู้เช่นกันว่า เฟิงหลินเทาและเยวี่ยคงไม่เหมาะที่จะลงไปยังจุดที่ลึกกว่านี้

ดังนั้นเอ้อร์หนิวยกมือสะบัด ทันใดนั้นวิญญาณของเฟิงหลินเทาก็ปรากฏขึ้นในธารน้ำแข็ง ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น ร่างวิญญาณของเขาก็สั่นสะท้านทันที มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าเริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง

วิกฤตชีวิตเป็นตายอันรุนแรงทำให้จิตใจของเฟิงหลินเทาพุ่งพล่าน ปะทุพลังวิญญาณทั้งหมดอย่างไม่ลังเล พยายามต้านทานความหนาวเหน็บของที่นี่

แต่ก็ได้ผลที่เล็กน้อยมาก

ทำให้เฟิงหลินเทาจำต้องลอยขึ้นไปข้างบน จวบจนเมื่อลอยไปประมาณสามพันจั้ง เขาถึงได้พอจะรักษาสมดุลได้ ร่างวิญญาณไม่กลายเป็นรูปสลักน้ำแข็ง

“ไร้ประโยชน์ขนาดนี้เชียว!”

เอ้อร์หนิวขมวดคิ้ว ตวาดไปประโยคหนึ่ง

เฟิงหลินเทาในใจเกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจนัก เขาอยากบอกเอ้อร์หนิวว่าตัวเองเป็นร่างวิญญาณ ไม่มีกายเนื้อ ดังนั้นพลังแท้จริงที่สำแดงออกมาย่อมอ่อนแอไปมาก

อีกทั้งทุกอย่างนี้ล้วนไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนา ไม่ใช่เพราะถูกเอามาล่อเหยื่อถึงได้เป็นเช่นนี้หรอกหรือ…

นอกจากนี้ ตลอดทางพวกเจ้าสองคนยังลงพันธนาการข้า พลังแท้จริงย่อมถูกจำกัดไปมาก

แต่ว่า ความน้อยเนื้อต่ำใจไม่ได้รับความเป็นธรรมนี้ เขาไม่กล้าพูด ทำได้เพียงฝังเอาไว้ในใจ ใบหน้ายังแสดงความประจบประแจงออกมา

เขากังวลมากๆ ว่าหลังจากที่มอบมรดกออกไปแล้ว คุณค่าของตัวเองก็น้อยลงอย่างไม่ขอบเขต…หากหาเรื่องทำให้อีกฝ่ายไม่มีความสุขขึ้นมา เกรงว่าถึงตอนนั้นตัวเองคงตายไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่

แม้ตลอดทางมานี้ เขาจะขบคิดอยู่ตลอดว่าจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร แต่จนถึงตอนนี้เขายังคิดวิธีอะไรไม่ออกเลย

ตอนนี้ถูกเอ้อร์หนิวและสวี่ชิงจับจ้อง สายตาที่จับจ้องตาเป็นมันนั่น ทำเอาเฟิงหลินเทาเห็นแล้วใจสั่นไหว ทั้งไม่กล้าไม่ทำตาม ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเด็ดเดี่ยว มองไปทางสวี่ชิง

“สหายสวี่ ต่อจากนี้ข้าจะซื่อสัตย์จริงใจ ไม่ปกปิดแม้แต่น้อย และไม่ทำอะไรที่เป็นภัยกับพวกท่าน พยายามอย่างเต็มที่มอบมรดกออกไป อีกทั้งจะช่วยพวกท่านประทับตราอำนาจให้สำเร็จ”

“ข้าไม่มีคำขอร้องอื่น และไม่วาดหวังว่าพวกท่านจะคืนอิสระให้กับข้า ข้าแค่อยากมีชีวิตต่อไป ต่อให้เป็นทาสก็ไม่เป็นไร ดังนั้นสหายสวี่ชิง…”

“ข้าเชื่อใจท่าน ข้าหวังว่าท่านจะรักษาสัญญากับข้าข้อหนึ่ง!”

เฟิงหลินเทามองสวี่ชิง หลังจากพูดจบ ยังไม่ทันที่สวี่ชิงจะได้พูดอะไร เอ้อร์หนิวที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่สบอารมณ์แล้ว

“หมายความว่าอย่างไร ไม่เชื่อใจข้าอย่างนั้นหรือ”

เฟิงหลินเทาใจสั่น กำลังจะอธิบาย เสียงของสวี่ชิงก็ดังมาตัดบทเขา

“ข้าจะทุ่มเทสุดกำลังในขอบเขตของความสามารถข้า ส่งเจ้ากลับเผ่ามนุษย์ ส่วนความเป็นความตายของเจ้า ให้จักรพรรดินีเป็นผู้ตัดสินใจ”

คำพูดของสวี่ชิงดังออกมา ในใจของเฟิงหลินเทาในที่สุดก็สงบมั่นคง ถอนหายใจโล่งอกยาว

หากสวี่ชิงรับปาก เขากลับจะใจไม่สงบ แต่หากสวี่ชิงพูดเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าแสดงความจริงใจอออกมาแล้ว

ดังนั้น เฟิงหลินเทาดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยว ไม่ลังเลอีกต่อไป และไม่ขอร้องอะไรมากมายกว่านั้นอีก ตอนนี้สองมือประสานปางมือแล้วกดไปที่หว่างคิ้ว

ทันใดนั้น ร่างวิญญาณของเขาก็กะพริบแสงระยิบระยับ ในธารน้ำแข็งอันมืดมิดนี้ ประดุจดั่งดวงดาว

ยิ่งมีเส้นไหมเป็นเส้นๆ เนื่องจากความหนาวเหน็บของที่นี่ ลอยออกมาจากร่างวิญญาณเขา ถักทอสอดประสานเป็นเค้าร่าง ก่อเป็นดอกไม้บานดอกหนึ่ง

ทันทีที่ถภาพดอกไม้นี้ปรากฏขึ้น ก็มีกลิ่นหอมประหลาดลอยออกมา

จากนั้นก็พลันขยายออกไปข้างนอก…

ความเก่าแก่ดึกดำบรรพ์และทรงพลังลอยขึ้นมาจากดอกไม้ดอกนี้ นั่นเป็น…กลิ่นอายของมหาจักรพรรดิ

กลิ่นอายนี้หากปรากฏข้างนอกจะเป็นภาพมายา

แต่ปรากฏขึ้นในแม่น้ำเย็นยะเยือกแห่งนี้กลับเป็นวัตถุจริง…กลายเป็นวงแหวนที่ประกอบขึ้นจากตราประทับนับไม่ถ้วน ปรากฏรอบๆ เฟิงหลินเทา หมุนวนไม่หยุด กะพริบส่องแสงไม่หยุด

สะท้อนประกายแสงร่วมกับภาพดอกไม้นั่น

สุดท้ายวงแหวนนี้ก็เหมือนการแผ่ขยายออกมาของดอกไม้นั่น ปรากฏเป็นรูปดอกไม้ที่เด่นชัดขึ้นภายนอกร่างวิญญาณของเฟิงหลินเทา!

ตราประทับที่ประกอบขึ้นจากดอกไม้ดอกนี้ ทุกตราล้วนแแผ่ท่วงทำนองเต๋าออกมา อีกทั้งเมื่อดูให้ละเอียดแล้ว จะเห็นว่าตราประทับเหล่านี้ล้วนว่างเปล่า ไม่มีเจตจำนงใดๆ แฝงอยู่ และไม่มีวิชาเวทใดๆ เช่นกัน

บางตราก็เป็นเพียงแค่ท่วงทำนองมหาวิถีที่บริสุทธิ์ที่สุด เป็นพื้นฐานที่สุดเท่านั้น

“นี่ก็คืออำนาจที่แปรเปลี่ยนมาจากมรดกมหาจักรพรรดิแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์พิสดารบันลือ มันว่างเปล่า สามารถประทับพลังวิเศษวิชาเวทที่เหมาะสมลงไป สร้างเป็นอำนาจ!”

“แต่ไม่ใช่วิชาเวททุกวิชาจะสำเร็จไปเสียทั้งหมด อีกทั้งทุกครั้งที่ล้มเหลวล้วนทำให้ตราประทับสลายไปเล็กน้อยตลอดกาลดังนั้นเลือกให้สำเร็จในทีเดียวเป็นดีที่สุด”

เฟิงหลินเทาพูดทันที สีหน้าบิดเบี้ยว เห็นได้ชัดว่าปลดปล่อยมรดกออกมาภายนอก ต่อให้อาศัยสภาพแวดล้อมที่นี่ สำหรับเขาแล้วก็ยังคงลำบากยากเข็ญนัก

“สหายทั้งสอง เขายืนหยัดได้เพียงหนึ่งก้านธูปเท่านั้น!”

“จะประทับวิชาเวทอะไร พวกท่านจงรีบตัดสินใจ!”

สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวมองหน้ากัน

โอกาสนี้ไม่ไปเลือกวิชาเซียนของเยวี่ยตงได้…

“แต่ว่าเยวี่ยตงทางนั้นในเมื่อในเมื่อวางแผนประทับวิชาเซียนเป็นอำนาจ จะต้องมีการเตรียมการอย่างแน่นอน โอกาสที่จะสำเร็จมากที่สุด”

สวี่ชิงครุ่นคิด

เอ้อร์หนิวหรี่ตา

“อาชิงน้อย ข้ากำลังคิดถึงปัญหาหนึ่ง นั่นก็คือแผนการของเยวี่ยตงแค่ประทับวิชาเซียนเป็นอำนาจจริงหรือ…จากการประมือกับนางหลายครั้ง ข้ารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เจ้าแผนการนัก”

“ดังนั้น เป็นไปได้หรือไม่ว่านางยังมีแผนการในภายหลัง…ประทับตราเป็นอำนาจ บางทีอาจจะเป็นเพียงแค่ขั้นตอนสำคัญขั้นตอนหนึ่งในแผนการในตอนสุดท้ายก็ได้”

เอ้อร์หนิวพูดจบ สวี่ชิงคล้ายครุ่นคิด

นึกย้อนถึงการร่วมมือกันของเยวี่ยตงเมื่อก่อนหน้านี้กับหลันเหยา หากนางทำเพื่อเฟิงหลินเทาจริงๆ เช่นนั้นความจริงก็ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการแย่งยิ่งระหว่างตระกูลหลันและหลี่ว์หลิงจื่อผู้เป็นศิษย์มหาจักรพรรดิอย่างลึกซึ้งเช่นนี้

นางน่าจะมีวิธีอื่น ใช้ประโยชน์ตระกูลหลัน ช่วงชิงมรดกของเฟิงหลินเทา

แต่นางกลับเลือกเส้นทางที่สำหรับตระกูลหลันแล้ว ทันทีที่สำเร็จจะได้ผลประโยชน์มากที่สุด

“นางจะต้องมีเป้าหมายอย่างอื่นแน่นอน!”

สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวมองตากัน จากนั้นขณะยกมือ เยวี่ยตงที่เจ้าเงาเข้าควบคุมอยู่ก็ปรากฏขึ้นในแม่น้ำ

ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น ร่างของเยวี่ยตงสั่นสะท้าน ในสายตายังคงอาฆาตแค้น แต่เจ้าเงาควบคุมร่างเอาไว้ ไม่สามารถขัดขืนได้ ทำได้เพียงปล่อยให้เจ้าเงาควบบคุม พูดออกมา

“นายท่าน ผู้หญิงคนนี้ในความจำไม่มีแผนการอย่างอื่นอีก เหมือนว่าวิชาเซียนเปลี่ยนให้เป็นอำนาจ ก็คือแผนการสุดท้ายของนาง”

สวี่ชิงในดวงตาเย็นเยือก มองความอาฆาตแค้นในสายตาของเยวี่ยตง เอ่ยราบเรียบ

“ควบคุมผู้หญิงคนนี้ สำแดงวิชาเซียน อำนาจมรดกไม่ประทับวิชาอื่นแล้ว ประทับวิชาเซียนของผู้หญิงคนนี้นี่แหละ!”

เจ้าเงารับคำสั่ง

ภายใต้การควบคุมของมัน เยวี่ยตงยกมือทั้งสองขึ้น วิชาเซียนหกรากราคะตัณหา สำแดงขึ้นทันที

บทที่ 1029 เจ้าออกค่าสินสอด ข้าเข้าห้องหอ 1

บทที่ 1029 เจ้าออกค่าสินสอด ข้าเข้าห้องหอ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา