บทที่ 1046 คนชั่วช้าชื่อเสียงเลื่องลือ
สวี่ชิงก็จนปัญญาเช่นกัน
ตามใจจริงของเขา เขาไม่มีทางลงมือและพูดจาแบบนี้เด็ดขาด
แต่ว่า…จะอย่างไรนี่ก็เป็นคำสั่งของจักรพรรดินี
คำพูดของจักรพรรดินีบอกเป็นนัยให้เขาโอ้อวด สวี่ชิงภายใต้สถานการณ์ที่ตัวเองได้รับบุญคุณของนาง ไม่อาจไม่ปฏิบัติตาม
ดังนั้นเขาทำได้เพียงนึกย้อนถึงวิธีการลงมือและน้ำเสียงเวลาพูดจาของศิษย์พี่ใหญ่ ดังนั้นถึงได้มีคำพูดอย่างเมื่อครู่ และท่าทีหยิ่งยโสอย่างในตอนนี้
ส่วนเงาร่างของเขาในสายตาของคนทั้งหลาย ใช่แค่หยิ่งยโสที่ไหน
นี่มันกำเริบเสิบสานอวดดี!
เสี้ยวขณะนี้ ยืนอยู่ที่เชิงเขาเจ้าเหนือหัว สวี่ชิงที่มือทั้งสองไพล่ไปข้างหลัง ทำให้คนที่อยู่ที่ภูเขาลูกนี้ทุกคนรู้สึกว่ากำแหงอวดดีเป็นที่สุด
เผชิญหน้ากับผู้ยิ่งใหญ่ระดับสูงอย่างผู้บำเพ็ญเตรียมสู่เทวะเก้าโลกเช่นนี้ เขากลับพูดแบบนี้
ดังนั้นเสี้ยวขณะต่อมา ความโกรธจากผู้บำเพ็ญทั้งหลายในภูเขาลูกนี้ต่างผุดพลุ่งพล่านขึ้นมา เงาร่างแต่ละทางๆ ลอยขึ้นฟ้า สายตายิ่งหลอมรวมจ้องมา จับเป้าหมายมาที่สวี่ชิงทั้งหมด
เผชิญหน้ากับความกดดันเช่นนี้ สวี่ชิงในใจระแวดระวังจนถึงขีดสุด แต่ภายนอกกลับไม่แสดงออกมาแม้แต่น้อย กระทั่งว่าหลับตาลง
ทุกอย่างนี้ทำให้ชายชราระดับเตรียมสู่เทวะเก้าโลกที่เดินออกมาคนนั้น โมโหจนหัวเราะออกมา
“ดี ดี ดี!”
คำพูดและท่าทางกำแหงอวดดีของสวี่ชิงทำให้ในดวงตาชายชราประกายแสงแวววาวฉาบวูบ เขาต่อสู้มาตลอดทั้งชีวิต คนที่กำเริบเสิบสานอย่างข้างหน้านี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นมาก่อน
เพียงแต่แทบจะทุกคนล้วนกลายเป็นศพหมดแล้ว
ตอนนี้เห็นสวี่ชิงกระทั่งว่าหลับตาทั้งสองข้างลง ชายชราระดับเตรียมสู่เทวะเก้าโลกที่อยู่กลางอากาศคนนี้ มือขวาของเขาพลันยกขึ้น เสี้ยวขณะต่อมา ท้องฟ้าเปลี่ยนสี แผ่นดินคำรามเลื่อนลั่น มีลมพายุพัดไปมารอบๆ
ยิ่งกว่านั้นในเสี้ยวขณะที่มือขวาของชายชราซัดลงมา ตราประทับฝ่ามือขนาดมหึมาตราหนึ่งก็ปรากฏขึ้นข้างหลังเขา เหมือนว่าจะเข้าแทนที่ม่านฟ้าที่นี่ ทะลุร่างของของเขา พร้อมกับฝ่ามือของเขา…ซัดไปหาสวี่ชิง
ฝ่ามือนี้สำแดงพลังเตรียมสู่เทวะโลกเก้าใบออกมาทั้งหมด ก่อเป็นพลังทำลายฟ้าบดขยี้ผืนดิน กระทั่งว่ากฎเกณฑ์และกฎระเบียบอยู่ใต้ฝ่ามือนี้ต่างถูกฉีกกระชากทำลาย
มิติยิ่งเกิดรอยแยกขึ้นมา
พุ่งตรงมาหาสวี่ชิง
ประดุจพายุคลั่งพัดกวาด พัดผมยาวและเสื้อผ้าอาภรณ์ของสวี่ชิง แต่สวี่ชิงก็ยังคงหลับตา นิ่งไม่ขยับ
จวบจนตราประทับบฝ่ามือมหึมานั่นมาพร้อมด้วยพลังทำลายล้าง ระเบิดซัดลงมา ฟ้าดินสั่นสะเทือน
ในสายตาของทุกคน ร่างของสวี่ชิงในเสี้ยวขณะนี้กลับเกิดเปลวเพลิงสีดำขึ้นมา เปลวเพลิงพวกนี้แผ่ามออกมาจากใต้เท้าของเขา ก่อเป็นดอกบัวสีดำที่พร่างพรายเจิดจรัสดอกหนึ่ง!
ดอกบัวนี้แย้มบาน กลีบดอกไม้เปลวเพลิงนับไม่ถ้วนวนล้อม และตำแหน่งที่สวี่ชิงอยู่ก็คือใจกลางของดอกบัว
ดอกบัวเปลวเพลิงดำที่พวยพุ่งอยู่รอบๆ เขาคล้ายว่าจะสร้างเป็นการป้องกันที่สมบูรณ์แบบให้เขา
ปะทะเข้ากับตราประทับฝ่ามือที่ซัดลงมาจากท้องฟ้า
เสียงระเบิดตูมๆ ดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหว ดังไปทั่วผืนฟ้า
ดอกบัวดำยังเป็นปกติ ยังคงแผดเผาต่อไป กลีบดอกไม้วนล้อม คล้ายเริงระบำ
สวี่ชิงที่อยู่ในนั้นไม่ได้รับผลกระทบแม้เพียงปลายเส้นผม กระทั่งว่าดวงตาทั้งสองก็ยังคงไม่ลืมขึ้นมา เพียงแค่ส่งเสียงราบเรียบออกมา
“ยังเหลืออีกสองกระบวนท่า”
เสียงดังก้อง ดวงตาทั้งสองของชายชราที่อยู่บนท้องฟ้าจับจ้อง ผู้บำเพ็ญทั้งหลายที่อยู่บนภูเขาเจ้าเหนือหัวที่สิบเจ็ดก็ต่างสีหน้าเปลี่ยนไป
ไม่ใช่ใครก็จะต่อต้านการโจมตีอย่างสุดกำลังของผู้บำเพ็ญระดับเตรียมสู่เทวะเก้าโลกได้ทั้งนั้น
ทำได้ถึงจุดนี้เดิมก็แสดงถึงความแข็งแกร่งแล้ว
โดยเฉพาะ…ในบรรดาพวกเขามีผู้ที่มีความรู้กว้างขวางจ้องดอกบัวเพลิงสีดำที่อยู่รอบๆ สวี่ชิงตาไม่กะพริบ รู้สึกคุ้นอยู่เลาๆ คล้ายว่าเคยเห็นในบันทึกอะไรบางอย่างมาก่อน
ไม่นานนักก็มีคนจำได้ ร้องตกใจเสียงหลงออกมา
“นี่มันปทุมมานรกานต์!”
“ในเผ่าปีกมารฝั่งบูรพาเป็นเคล็ดวิชาลับป้องกันตัวของมหาจักรพรรดิหมิงเหยียน!!”
จากเสียงสะท้อนของคำพูด คนจำนวนมากยิ่งขึ้นก็นึกขึ้นได้ว่าในตำราได้บันทึกถึงเรื่องเล่าและบันทึกต่างๆ ที่เกี่ยวกับมหาจักรพรรดิหมิงเหยียนคนนั้น
“เสี่ยเฉินจื่อคนนี้ถือครองวิชาลับนี้อย่างนั้นหรือ!”
“มิน่าเล่าเจ้าเหนือหัวหลี่ว์หลิงจื่อมาเผ่าปีกมารฝั่งประจิมเราครั้งนี้ถึงได้พาคนคนนี้มาด้วย!”
“นี่ก็เป็นเหตุผลที่เสี่ยเฉินจื่อกำเริบอวดดี!”
เสียงฮือฮาดังก้องไปทั่วทุกสารทิศ สวี่ชิงยังคงเหมือนเดิม หลับตายืนอยู่ตรงนั้น ส่วนชายชราพลังบำเพ็ญระดับเตรียมสู่เทวะเก้าโลกคนนั้นตอนนี้คิ้วขมวดแน่น
เขาเคยได้ยินปทุมมานรกานต์มาก่อน ว่ากันว่าวิชานี้ในด้านการป้องกันน่าตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นเขา เขาหรี่ตาทั้งสองลง มือทั้งสองข้างพลันยกขึ้น ประสานปางมืออย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น โลกใบใหญ่เก้าใบข้างหลังเขาต่างกะพริบวูบวาบ แต่ละโลกต่างมีภูเขาที่สูงสุดภายในนั้นพุ่งทะยานขึ้นมา
ภูเขาทั้งเก้านี้ จากภาพมายาแปรเปลี่ยนเป็นวัตถุจริง จากในโลกของตัวเองมาปรากฏขึ้นที่ท้องฟ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ต่างเชื่อมต่อกันเป็นสาย ทันทีที่ปรากฏขึ้นก็เหนี่ยวนำกฎเกณฑ์ฟ้าดินรอบๆ ทำให้สายฟ้าแลบแปลบปลาบฟาดผ่าไม่หยุด
จากนั้น ภายใต้การชี้จากมือทั้งสองของชายชรา ภูเขาทั้งเก้าก็พุ่งไปหาสวี่ชิงทางนั้นอย่างรวดเร็ว
ยังไม่จบแค่นั้น หลังจากที่สำแดงวิชาที่สอง ชายชราคนนี้ก็ยกมือขวาขึ้นกดไปที่หว่างคิ้ว ทันใดนั้น โลกใบใหญ่ทั้งเก้าใบข้างหลังเขาก็ส่งเสียงระเบิดเลื่อนลั่นอีกครั้ง
กฎเกณฑ์และกฎระเบียบนับไม่ถ้วนที่แผ่ออกมาจากในนั้นล้วนแต่เป็นวิถีการสัมผัสรับรู้ของชายชราตลอดทั้งชีวิตมานี้
เมื่อปรากฏขึ้น
“ใช้วิถีแปรเปลี่ยนเป็นปลายแหลมคม!”
วิถีของเขารวมอยู่ข้างหน้าก่อเป็นปลายทวนขนาดมหึมาอันหนึ่ง!
จากนั้น เสียงต่ำทุ้มของชายชราก็ดังก้องขึ้นอีกครั้ง
“ใช้โลกเป็นกายา!”
โลกใบใหญ่ทั้งเก้าต่างเรียงตัว ต่างเชื่อมต่อกัน มองไปไกลๆ เหมือนเป็นทวนจริงๆ !
“ใช้การเผาไหม้ของวิชาเป็นพู่ทวน!”
ชายชราคำรามเสียงต่ำ วิชานับไม่ถ้วนปะทุจากร่างของเขา แสงสีพร่างพรายวนล้อมอยู่รอบทวนอย่างสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน
สุดท้าย ในดวงตาชายชราจิตสังหารฉายวาบขึ้น ผลักออกไปอย่างเต็มกำลัง
ทวนยาวมหึมาสะท้านสะเทือนจิตใจเล่มนี้ พุ่งตรงจากท้องฟ้าไปหาสวี่ชิง
แผนของชายชราคือจะใช้วิชาเวทที่สองและพลังวิเศษที่สามสำแดงออกมาพร้อมกัน
ใช้วิชาเช่นนี้ลองไปทำลายปทุมมานรกานต์ในตำนาน
ตอนนี้ฟ้าดินเปลี่ยนสี สายตานับไม่ถ้วนจับจ้อง จะเห็นว่าสิ่งที่โจมตีไปหาสวี่ชิงก่อนเป็นอันดับแรกคือภูเขาทั้งเก้านั่น
และภูเขาทั้งเก้าดูเหมือนยิ่งใหญ่มหึมา แต่ขณะที่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วกลับหดเล็กลง สุดท้ายก็เหมือนกระบี่เก้าเล่ม ต่างซัดไปยังดอกบัวเพลิงนรกพวยพุ่งอยู่รอบกายสวี่ชิงที่ทุกคนจับจ้องมาอย่างสุดกำลัง
พลังดุจถล่มภูเขา พลานุภาพดุจล่มมหาสมุทร


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา