บทที่ 1082 หมู่ขุนเขาตอบขานกึกก้อง มิเคยลืมเลือน
………………..
นางเดิมเป็นคนธรรมดา ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะฝึกบำเพ็ญเลย
แต่กลับใช้สติปัญญาพรสวรรค์ของตนเอง เติมเต็มห่วงสุดท้ายดวงตะวันแห่งแสงอรุณให้สมบูรณ์เพื่อเผ่ามนุษย์ ทำให้นับจากนั้นเผ่ามนุษย์จึงมีสมบัติล้ำค่าประจำเผ่าของตนเองอย่างแท้จริง
นี่คือผู้ทรงปัญญายิ่งใหญ่
แต่กลับถูกประวัติศาสตร์เผ่ามนุษย์ปิดบังอำพราง ผู้ที่รู้มีเพียงน้อยนิด ประกายแสงรัศมีเจิดจรัสทุกอย่างล้วนไปอยู่กับผู้เป็นสามีของนาง
นางผู้ทรงศักดิ์เป็นถึงจักรพรรดินี มีโอรสถึงสองพระองค์ เดิมในใจมีเพียงพระสวามี แบ่งเบาความกังวลของพระสวามี คิดคำนึงถึงพระสวามี เพื่อโอรสและเพื่อพระสวามีนางยินยอมสละทุกสิ่ง จิตใจภักดีมั่นคงไม่เคยเป็นอื่น
แต่สุดท้ายกลับพบจุดจบที่ต้องพลัดพรากจากหน่อเนื้อเชื้อไข ตัวเองจะถูกพระสวามีสังหารอย่างโหดเหี้ยม
ทุกอย่างเพียงเพราะพระสวามีของตัวเองเพื่อที่จะสำเร็จเทพ จะละทิ้งซึ่งความรู้สึก
นางไม่รู้ว่าตัวเองผิดที่ตรงไหน และไม่เข้าใจว่าทำไมเส้นทางของตัวเองจึงเป็นเช่นนี้
ดังนั้นความโศกเศร้าหมองหม่นอยู่เคียงข้างนางในครึ่งชีวิตแรก ความหมดหวังไร้หนทางสลักไปในวิญญาณของนาง
นางเคยคุกเข่าใต้ผืนฟ้า อ้อนวอนต่อแดนศักดิ์สิทธิ์
แต่แดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ขานตอบ
นางเคยคุกเข่าคารวะต่อหน้าขุนนางชั้นสูงทั้งหลาย ขอให้ช่วยในโชคชะตาวาสนา
แต่ขุนนางชั้นสูงทั้งหลายกลับเงียบนิ่ง
นางเคยร้องไห้ เคยโกรธแค้น เคยโศกเศร้า เคยเงียบนิ่ง
จวบจนกระทั่ง ในช่วงเวลาที่นางสิ้นหวังที่สุดในชีวิต ยามพลบค่ำในวันนั้น ในวังหลวง ในยามที่นางมองรูปสลักมหาจักรพรรดิครองกระบี่อย่างอ่อนแรงก่อนตาย ก็ได้หลั่งน้ำตาหยดสุดท้ายออกมา
น้ำตาหยดนั้นไหลมาตามแก้มของนาง ในพริบตาที่หยดลงบนพื้น นางได้ยินเสียงหยดน้ำแตกกระจาย ได้ยินเสียงถอนหายใจที่สะท้อนก้องในโชคชะตา
“เผ่ามนุษย์ไม่ควรทำเช่นนี้…เด็กเอ๋ย เผ่ามนุษย์ผิดต่อเจ้าแล้ว…”
จากนั้น นางก็ได้เห็นเงาร่างแก่ชราที่ชีวิตนี้ยากที่จะลืมร่างหนึ่ง เดินผ่านร่างของนางมา
แล้วฟาดกระบี่ลงมากระบี่หนึ่งไปยังต้นกำเนิดความโศกเศร้าหมองหม่นของนางที่อยู่ข้างหลัง
กระบี่นี้ทำลายโชคชะตา เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง
“มหาจักรพรรดิดุจบิดา”
จักรพรรดินีพึมพำ
ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตนาง เป็นมหาจักรพรรดิครองกระบี่ที่ช่วยนางออกมา
ในยามที่ชีวิตของนางทุกข์ระทมที่สุด เป็นมหาจักรพรรดิครองกระบี่ที่ให้ความหวังแก่นาง
ในยามที่นางสับสนในความหมายของชีวิต ก็เป็นมหาจักรพรรดิครองกระบี่ที่มอบพลังบำเพ็ญให้กับนาง
และมอบเผ่ามนุษย์ให้กับนาง
ดังนั้น นางแปลงเป็นเสวียนจั้น นำพาเผ่ามนุษย์ให้ผงาดขึ้น ยิ่งอยู่ภายใต้การปกป้องสุดท้ายจากมหาจักรพรรดิ ถอดหน้ากาก สำเร็จเป็นเทพเจ้า เป็นจักรพรรดินีเพียงคนเดียวที่ไม่เคยมีมาก่อนของเผ่ามนุษย์
“แต่ปกป้องเผ่ามนุษย์เดิมไม่ใช่ความปรารถนาของข้า นี่เป็นความปรารถนาชั่วชีวิตของท่านมหาจักรพรรดิ ดังนั้นเรื่องนี้ ก็กลายเป็นความปรารถนาของข้า”
จักรพรรดินีมองรูปสลัก ในใจพึมพำ ความคิดถึงในดวงตายิ่งเข้มข้น ฉายความยืนหยัดแน่วแน่ออกมา
นางจะฟื้นคืนชีพมหาจักรพรรดิที่ประดุจบิดาคนนั้น!
ตอนนั้นเป็นท่านที่ช่วยข้าออกมาจากความสิ้นหวัง
วันนี้ข้าจะช่วยท่านให้กลับมาจากความตาย
ในดวงตาจักรพรรดินีฉายประกายแสงแรงกล้าออกมา ท่ามกลางการสั่นสะท้านของมหาจักรพรรดิปีกมาร ในเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นของดาวจักรพรรดิโบราณ ภายใต้สายตาที่ไม่อยากจะเชื่อของเอ้อร์หนิว ท่ามกลางความตื่นเต้นของสวี่ชิง…
นางก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ยืนอยู่กลางฟ้าดิน
“ข้าในฐานะจักรพรรดิมนุษย์!”
“ขอรวบรวมชะตาเผ่ามนุษย์แห่งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ไว้ที่ตัวข้า ในวันนี้ ณ ที่นี่…”
สายตาของจักรพรรดินีคล้ายว่าสามารถมองทะลุโลกใบนี้ จับจ้องไปทางแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ มองไปทางเผ่ามนุษย์
“ขออัญเชิญความทรงจำต่อมหาจักรพรรดิครองกระบี่ในดวงใจไพร่ฟ้าประชาชนเผ่ามนุษย์ทั้งหลายมาเป็นจิตมนุุษย์แห่งมหาจักรพรรดิ!”
คำพูดของนางเพียงดังออกมาก็ราวอัสนีสวรรค์ปะทุ ฟาดผ่ามายังแผ่นดินเผ่ามนุษย์ สะท้อนก้องไปในสมองของเผ่ามนุษย์ทุกคน
ให้ความทรงจำของชาวเผ่ามนุษย์ทุกคนในดินแดนเมืองหลวงจักรพรรดิตลอดจนในแผ่นดินใหญ่ทั่วทุกแว่นแคว้นพลุ่งพล่านขึ้นมา ท่ามกลางกระแสคลื่นอารมณ์อันรุนแรง ความทรงจำที่เกี่ยวกับมหาจักรพรรดิครองกระบี่ก็ล้วนผุดขึ้นมา
ขอเพียงมีคนจำได้ เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะกลับคืนมา
และความทรงจำเกี่ยวกับมหาจักรพรรดิครองกระบี่ ใครเล่าจะลืมได้ลง…
เป็นเขา ที่หลังจากจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวจากไปก็เลือกที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ปกป้องคุ้มครองเผ่ามนุษย์ ทำให้เผ่ามนุษย์ไม่ถูกต่างเผ่ากลืนกิน
เป็นเขา ในสงครามปกป้องเผ่ามนุษย์นับครั้งไม่ถ้วน ในสถานการณ์ที่ร่างจริงรบตาย มีเพียงร่างแยกที่ยืนตระหง่าน ก็ยังคงสังหารเทพเจ้าเพื่อเผ่ามนุษย์ รักษาซึ่งความสงบสุข
สงครามเป็นตายนับครั้งไม่ถ้วนสั่นสะท้านทั่วทั้งแปดทิศ
ต่อให้เป็นในช่วงบั้นปลายชีวิตก็ยังคงเก็บพลังกระบี่สุดท้ายไว้ ทำให้ต่างเผ่าล้วนหวาดกลัวจับจิต
พูดได้ว่า หากไม่มีเขา เผ่ามนุษย์สูญสิ้นเผ่าพันธุ์ไปนานแล้ว
ชีวิตเขาทั้งชีวิตเคียงข้างด้วยฝนเลือด และประวัติศาสตร์เผ่ามนุษย์หลังจากที่เสวียนโยวจากไป
มหาจักรพรรดิเช่นนี้ไม่มีใครลืมได้!
และตอนนี้ ความทรงจำที่เกี่ยวกับเขากลายเป็นจุดแสงประกายระยิบระยับมากมาย ลอยออกมาจากในสมองของเผ่ามนุษย์ทุกคน ลอยขึ้นฟ้า จากทั่วทุกสารทิศ พุ่งตรงไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมาร รวมไปยังผลเต๋าผลนั้น
สุดท้าย หลังจากความทรงจำของมหาจักรพรรดิครองกระบี่ในสมองสวี่ชิงกลายเป็นจุดแสงลอยออกไป จุดแสงระยิบระยับนับไม่ถ้วน กลายเป็นวิญญาณมนุษย์ของมหาจักรพรรดิกลุ่มหนึ่ง ผสานไปในรูปสลัก
“มหาจักรพรรดิชีวิตนี้ปกป้องเผ่ามนุษย์ ปกป้องดินแดน วันนี้ขออัญเชิญจิตแห่งขุนเขา สายธาร ดินแดนทั่วทุกแห่งหนของเผ่ามนุษย์มาเป็นจิตดินของมหาจักรพรรดิ!”
เสียงของจักรพรรดินีราวอาญาประกาศิต ดังเลื่อนลั่นไปในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ กึกก้องกัมปนาทไปในดินแดนเผ่ามนุษย์ทั้งหมด ดังนั้นขุนเขาล้วนสั่นสะเทือน แม่น้ำสั่นไหม ธุลีทุกเม็ด สิ่งก่อสร้างทุกอย่างล้วนส่งเสียงเลื่อนลั่น
ฟ้ามีจิต ดินย่อมมีจิตเช่นกัน
จิตนี้ตอนนี้ถูกปลุกขึ้นมา แปรเปลี่ยนเป็นจุดแสงระยิบระยับลอยขึ้นฟ้า กลายเป็นทิวทิศน์อันน่าอัศจรรย์แห่งแดนแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้บำเพ็ญนับไม่ถ้วนในแดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมาร ภายใต้ความตื่นเต้นของผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์ ก็ผสานไปในผลเต๋า ผสานไปในรูปสลักของมหาจักรพรรดิ
“จิตมีสามดวง มนุษย์ ดิน ฟ้า ขออัญเชิญพลังชะตาเผ่ามนุษย์ นับจากตงเซิ่งมา ผ่านความรุ่งโรจน์และตกต่ำมาอย่างเนิ่นนาน ตลอดจนยามที่ข้าขึ้นครองราชย์ขึ้นสู่จุดสูงสุด แปรเปลี่ยนเป็นจิตฟ้าของมหาจักรพรรดิ!”
คำพูดนี้เพียงดังออกไป ฟ้าดินเผ่ามนุษย์แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ พลังชะตาเผ่ามนุษย์พุ่งทะยานสู่ผืนเมฆ เมินซึ่งการขัดขวางจากผู้บำเพ็ญทั้งหลายของเผ่าปีกมาร เมินซึ่งการขัดขวางอุปสรรคทุกอย่าง มาพร้อมด้วยความเด็ดเดี่ยว ความทรงอำนาจ ความหนักแน่นของตัวเอง…
พุ่งไปยังผลเต๋า พุ่งไปในรูปสลักมหาจักรพรรดิครองกระบี่
รูปสลักสั่นสะเทือน
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา