บทที่ 1084 ไร้ความเสียใจ ไร้ความละอาย ไร้ความเสียดาย
………………..
ความยืนยาวของชีวิต สำหรับหลายคนแล้วยากที่ล่วงรู้ล่วงหน้าได้
โดยเฉพาะในโลกที่โหดร้ายเช่นนี้ บางทีเหตุการณ์ไม่คาดฝันครั้งหนึ่ง การสังหารครั้งหนึ่ง ก็จบสิ้นได้
ต่อให้แข็งแกร่งเฉกเช่นเทพเจ้าก็มีความเป็นไปได้ที่จะแตกดับ ต่อให้เป็นมหาจักรพรรดิครองกระบี่ สุดท้ายก็ต้องถึงจุดจบเช่นกัน
แต่…วิเคราะห์ว่าชีวิตเจิดจรัสพร่างพรายหรือไม่ ความยืนยาวล้วนไม่ใช่มาตรฐานที่สำคัญที่สุดเสมอมา
ดั่งเช่นฟ้าดินเป็นที่พักแรมของสรรพชีวิตทั้งหลาย เวลาเป็นผู้มาเยือนนับแต่โบราณกาลมา
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความกว้างใหญ่ของชีวิตที่ได้สัมผัสและประสบพบเจอ
เป็นเส้นทางที่เป็นของตัวเอง จะเดินไปอย่างไร
นี่สำหรับสรรพชีวิตทั้งหลายแล้ว เป็นอิสระที่กุมเอาไว้เพียงอย่างเดียว
เหมือนดั่งมหาจักรพรรดิครองกระบี่ปกป้องเผ่ามนุษย์เป็นหมื่นๆ ปี ต่อให้จุดจบในวันนี้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ความกว้างใหญ่ของชีวิตเขาได้แผ่ลามไปในความทรงจำเผ่ามนุษย์ทุกคน
นี่ถึงจะเป็นไพศาล
นี่ถึงจะเป็นความยิ่งใหญ่
และวันนี้ ท่ามกลางแสงพร่างพรายสุดท้ายของไฟชีวิต ในที่สุดเขาก็วางทุกอย่างลง เหมือนเกิดใหม่ สัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายที่ไม่ได้สัมผัสมานาน สัมผัสได้ถึงความอิสระ
ดอกไม้ไฟแห่งชีวิตกระทบในชีวิตของเขา ยิ่งเจิดจ้าระยิบระยับ
ข้างหน้าเขาเหมือนมีภาพแต่ละฉากๆ เมื่อเนิ่นนานหลายปีก่อน ที่ตัวเองกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา
“เซี่ยเอ๋อร์ สวี่ชิง ข้าตาแก่คนนี้ ไม่ขอให้ชีวิตในอนาคตของพวกเจ้าเป็นอย่างไร…”
“แต่ข้าขอใช้ประสบการณ์ของคนที่ผ่านมาก่อนแบ่งปันประสบการณ์ของข้ากับพวกเจ้าสักหน่อย”
นอกแดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมาร ในฟ้าดินแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ มหาจัรพรรดิครองกระบี่เดินอยู่ข้างหน้า พลางส่งเสียงกล่าวด้วยความรู้สึกลึกซึ้งไปยังจักรพรรดินีและสวี่ชิงที่อยู่ด้านหลัง
มหาจักรพรรดิครองกระบี่เอ่ยเสียงเบา
“ประสบการณ์ทุกอย่างที่ผ่านมา เนื่องจากทุ่มเทอย่างสุดกำลัง เช่นนั้นไม่ว่าผลสุดท้ายจะเป็นเช่นไร ตัวเองปล่อยความยึดมั่นได้ เรียกได้ว่าไร้ความเสียใจ”
“ทุกเรื่องราวที่ได้พบเจอในชีวิต เนื่องจากไม่ผิดต่อหัวใจของตน เช่นนั้นไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเดินไปอย่างไร ตัวเองมีแสง ชีวิตนี้ก็ย่อมอยู่ท่ามกลางแสงสว่าง สามารถกล่าวได้ว่าไร้ละอาย”
“หากสามารถทำได้ทั้งสองสิ่งนี้ เช่นนั้น คนที่ได้พบเจอ การตัดสินใจที่ทำลงไป ก็สามารถกล่าวได้ว่าไร้ความเสียดาย”
“ทำได้ถึงหกคำนี้ ชีวิตนี้แจ่มกระจ่าง ไม่เสียทีที่เกิดมาชาตินี้”
เสียงของมหาจักรพรรดิครองกระบี่ดังสะท้อนก้องในฟ้าดิน
ดังในใจของจักรพรรดินีและสวี่ชิง แปรเปลี่ยนเป็นระลอกคลื่นอยู่นานไม่สลายไป
มหาจักรพรรดิ เขาทำได้ถึงหกคำที่เขาพูดได้จริงๆ
ปกป้องคุ้มครองเผ่ามนุษย์มาเป็นหมื่นๆ ปี เขาทุ่มเทสุดกำลัง ดังนั้นอนาคตจะเป็นอย่างไร เขาไร้ความเสียใจ
เรื่องที่ผ่านพบไม่ว่าเรื่องใดในชีวิตนี้ เขาไม่ผิดต่อใจตน และแสงในใจก็ไม่เคยแปดเปื้อน สาดทอบนถนเส้นทางข้างหน้าก็เป็นประกาย เขาไร้ความละอายไม่ว่ากับผู้ใดก็ตาม
ส่วนการตัดสินใจเลือกของชีวิตนี้ เขาก็ผ่านจากการกระทำของตัวบอกจักรพรรดินีและสวี่ชิง
เขาไร้ความเสียใจในภายหลัง
เสียงหัวเราะดังสะท้อนก้องไปในฟ้าดิน
และดังไปยังเหนือเผ่านภาคิมหันต์ ในแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามที่กำลังต่อสู้กับผู้บำเพ็ญทั้งหลายและเทพทั้งสามของเผ่านี้
แดนศักดิ์สิทธิ์ระดับดำที่ลงมาเยือนแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์มีทั้งหมดสิบหกแดน ทางเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตกของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ต่างมีทิศละสี่แดน
ในนั้นทางทิศตะวันออกของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ แดนศักดิ์สิทธิ์ระดับดำทั้งสี่แดนที่ลงมาเยือนยังเผ่ามนุษย์ สามแดนในนั้น…ล้วนอยู่ที่เผ่านภาคิมหันต์
ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามต่างสั่นสะเทือนขึ้นมาพร้อมกัน
เทพทั้งสามแห่งนภาคิมหันต์ต่างหวั่นไหว นำเผ่าพันธุ์ถอยหลังไปอย่างไม่ลังเล หลีกเส้นทางที่ทอดไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม
ส่วนในแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามต่างมีมหาจักรพรรดิ ตอนนี้ในใจราวมีสายฟ้าฟาดดังกัมปนาท สีหน้าเคร่งเครียดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สายตามองไปตามสัญชาตญาณ
เห็นจักรพรรดินี เห็นสวี่ชิง ยิ่งเห็นข้างหน้าพวกเขา มีเงาร่างที่มือถือกระบี่ยาว สวมชุดคลุมยาวตัวใหญ่ ก้าวเท้ามา แม้จะแก่ชราแต่กลับแข็งแกร่งทรงพลัง
ในสายตาของพวกเขา กลิ่นอายความตายบนร่างของชายชราเข้มข้นสุดขีด แต่ประกายแสงที่ส่องมาจากในวิญญาณเขา ไอความตายกลับไม่อาจท่วมจมได้ กะพริบวูบวาบบนร่างเขา ลอยขึ้นจากแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ทั้งดินแดน สาดส่องสว่างผืนฟ้า
“เซียนคิมหันต์!!”
มหาจักรพรรดิแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม ในใจต่างมีสายฟ้าฟาดผ่ากึกก้องในใจ สีหน้าเปลี่ยนมาขาวซีดสุดขีดในทันที
ไม่ใช่แค่พวกเขาที่หวาดกลัว แม้แต่แดนศักดิ์สิทธิ์ที่เขาอยู่ก็ยังต้องสั่นสะเทือน ผู้บำเพ็ญแดนศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วน แต่ละคนในสมองมีสายฟ้าฟาดเลื่อนลั่น กระบี่ที่อยู่ในมือของมหาจัรพรรดิครองกระบี่ตวัดไปข้างหน้าอย่างสบายๆ
ในยามเยาว์วัยเมื่อในอดีต ความฝันของมหาจักรพรรดิครองกระบี่คือท่องไปในโลกอย่างอิสระ ขจัดความชั่วร้าย ทำลายคนชั่ว
หลังจากเป็นมหาจักรพรรดิ เขาที่ยังหนุ่ม ถือกระบี่ท่องไปในโลกหล้า สังหารเทพเจ้า ขจัดภัยพาล หนึ่งคนหนึ่งกระบี่ ประทับฟ้าดิน
วัยชรา ทุกครั้งที่เขานึกย้อนชั่วชีวิตนี้ สิ่งที่คิดถึงมากที่สุดก็ยังเป็นเวลาในช่วงนั้น
จวบจนกระทั่งตอนนี้ เขาตวัดไปอย่างสบายๆ เหมือว่าทับซ้อนกับตัวเองเมื่อในอดีต เหมือนภาพในความจำผสานไปกับปัจจุบัน
ดังนั้นกระบี่นี้ เขาฟาดฟันอย่างอิสระ ฟาดฟันได้อย่างสะใจ ฟาดฟันอย่างไร้พันธนาการ
และกระบี่นี้ แสงกระบี่เข้าแทนที่แสงนภาในผืนฟ้าแห่งนี้ ปราณกระบี่กลายเป็นมิติของโลกใบนี้ จิตกระบี่แปรเปลี่ยนเป็นจิตนภา
ใช้รัศมีอำนาจอันทรงพลังไร้เทียมทาน สามารถขยี้ผืนฟ้า ถล่มผืนดิน ทำลายซึ่งทุกสิ่ง!
ซัดมายังแดนศักดิ์สิทธิ์แดนหนึ่งที่อยู่ใกล้เขามากที่สุด
หน้าตาของแดนศักดิ์สิทธิ์แดนนนี้เหมือนดวงดาวดวงหนึ่ง
ตอนนี้ส่งเสียงกึกก้องท่วมฟ้า คล้ายว่าถูกลมพายุที่ไม่อาจต้านทานกวาดโหม ภายในสายตาของเทพทั้งสาม ท่ามกลางการสั่นสะท้านของเผ่านภาคิมหันต์ ท่ามกลางการจับจ้องของสวี่ชิงและจักรพรรดินี…
แดนศักดิ์สิทธิ์ที่หน้าตาเหมือนดวงดาวข้างหน้าดวงนั้นเสียงดังกึกก้องสะท้อนสนั่นหวั่นไหว พื้นผิวเกิดร่องลึกขนาดมหึมาร่องหนึ่ง จากนั้นร่องลึกนี้ก็จมลงไปไม่หยุด ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ แดนศักดิ์สิทธิ์ดวงดาวทั้งแดนนี้ก็ถูกร่องลึกตัดผ่านไป
แล้วพังถล่ม กลายเป็นสองส่วนแบ่งไปจากตรงกลาง!
ชีวิตในนั้นถูกแสงกระบี่ขยี้ดับ สรรพสิ่งในนั้นถูกกระบี่ทำลายล้าง!
แดนศักดิ์สิทธิ์แดนหนึ่งดับสลายเสียงดังสนั่นหวั่นไหว!
พลังชีวิตมหาศาลถูกปราณกระบี่หอบม้วนจากในแดนศักดิ์สิทธิ์ที่แตกดับแดนนี้ พุ่งตรงมายังมหาจักรพรรดิครองกระบี่ ทะลักไปในร่างของเขา…ไม่ได้ไปสะกดไอความตาย แต่เป็นสารอาหารที่ผลักดันกำลังรบของเขา


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา