บทที่ 1085 สบตาข้ามขอบฟ้า
ในสียงถอนหายใจนี้แฝงไว้ด้วยความเสียดายเล็กๆ แฝงไว้ด้วยความสะท้อนใจนิดๆ มาพร้อมด้วยความอิจฉา
แต่ไม่นานนัก องค์ท่านก็สังเกตว่าอารมณ์ของตัวเองผิดไป จะอย่างไรเสีย…นั่นก็นับว่าเป็นศัตรูในอดีตของเขา
สำหรับศัตรู ตัวเองไม่มีทางเกิดความอิจฉาเด็ดขาด
“ตายก็ตายไป ดันดิ้นรนตายถึงสองครั้ง ก็มีแต่เจ้าเท่านั้นแล้ว”
อวี้หลิวเฉินแค่นเสียงขึ้นจมูก ดึงสายตาที่ทอดมองไปยังปลายขอบฟ้ากลับมา
“เพียงแต่ ตอนนี้เทพแท้จริงหาได้ยากยิ่ง ยุคที่นายแห่งเทพหลับใหล เรื่องของเจ้ากำลังจะจบลง ส่วนเรื่องของข้า…กำลังจะเริ่มขึ้น”
……
แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ท้องฟ้าทางทิศตะวันออกตอนนี้ว่างเปล่า
แดนศักดิ์สิทธิ์ระดับดำสี่แดนที่เคยลอยอยู่ที่นั่น ภายใต้คมกระบี่ของมหาจักรพรรดิครองกระบี่ก็แหลกสลายไปสามแดน
แดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมารที่เหลือเพียงแห่งเดียว มหาจักรพรรดิครองกระบี่เพียงสะบัดมือก็ทำให้มันร่วงหล่นลงมา มอบให้กับจักรพรรดินี
มีเพียงมหาจักรพรรดิปีกมารเท่านั้นที่หนีไป หายไปไร้ร่องรอย
จากนั้นมหาจักรพรรดิครองกระบี่ก็ก้าวเท้าเดินไปทางทิศใต้ของท้องฟ้า
จักรพรรดินีและสวี่ชิงตามอยู่ข้างหลัง
เดิมเป็นระยะที่ไกลไร้ขอบเขต แต่ภายใต้กลิ่นอายอันน่าครั่นคร้ามของมหาจักรพรรดิครองกระบี่ในตอนนี้คล้ายว่าถูกร่นระยะให้สั่นลง เพียงแค่หนึ่งก้านธูป เขาก็พาทั้งสองก้าวข้ามดินแดนมากมาย มาปรากฏอยู่ที่ฟ้าดินทางใต้ของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์
ที่ไกลๆ เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องประกายพร่างพรายสามแดน
สนามรบทางใต้ไม่เหมือนกับทางตะวันออกที่มีค่ายกลปกป้อง เผ่าเอกภพแดนสีชาดที่อยู่ทางใต้แปรเปลี่ยนให้ทางใต้ทั้งผืนกลายเป็นทะเลเพลิง
ไฟเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับพวกเขา
ใช้ไฟเป็นทะเล สามารถสำแดงศักยภาพด้านกำลังรบทั้งหมดของเผ่าเอกภพแดนสีชาดออกมาได้
และในช่วงนี้ สงครามระหว่างพวกเขากับแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ดุเดือดเป็นอย่างยิ่ง
ยืนอยู่บนท้องฟ้า สวี่ชิงมองเห็นบนแผ่นดินที่ปกคลุมไปด้วยทะเลเพิลงเต็มไปด้วยศพไหม้เกรียม ยิ่งมีเศษชิ้นส่วนของสิ่งก่อสร้างและของวิเศษเวทที่แตกสลายนับไม่ถ้วน บ้างมาจากดินแดนของเผ่าพันธุ์ที่นี่ บ้าง…ก็มาจากการแหลกสลายของแดนศักดิ์สิทธิ์แดนหนึ่งยืนอยู่บนท้องฟ้า สวี่ชิงมองเห็นบนแผ่นดินที่ปกคลุมไปด้วยทะเลเพลิงเต็มไปด้วยศพไหม้เกรียม ยิ่งมีเศษชิ้นส่วนของสิ่งก่อสร้างและของวิเศษเวท บ้างมาจากดินแดนของเผ่าพันธุ์ที่นี่ บ้าง…มาจากการแตกสลายของแดนศักดิ์สิทธิ์แดนหนึ่ง
ทางใต้ทำลายแดนศักดิ์สิทธิ์ไปหนึ่งแดน สังหารมหาจักรพรรดิไปหนึ่งคนทางใต้ทำลายแดนศักดิ์สิทธิ์ไปแดนหนึ่ง สังหารมหาจักรพรรดิไปคนหนึ่ง
ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์สี่แดนแต่เดิมที่อยู่ที่นี่ตอนนี้เหลือเพียงสามแดนเท่านั้นทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์สี่แดนที่แต่เดิมอยู่ที่นี่ตอนนี้เหลือเพียงแค่สามแดนเท่านั้น
และการมาเยือนของมหาจักรพรรดิครองกระบี่ก็ดึงดูดสายตาของทั้งฝ่ายทันที ดังนั้นผู้บำเพ็ญของเผ่าเอกภพแดนสีชาดต่างรูม่านตาหดเล็ก ภายใต้คำบัญชาจากเทพเจ้าของเผ่าพวกเขา ก็ถอยร่นไปราวคลื่นและการกลับมาของมหาจักรพรรดิครองกระบี่ก็ดึงดูดสายตาของทั้งสองฝ่ายทันที ดังนั้น ผู้บำเพ็ญของเผ่าเอกภพแดนสีชาดต่างรูม่านตาหดเล็ก ภายใต้คำบัญชาจากเทพเจ้าของเผ่าพวกเขาก็ถอยไปราวคลื่น
ส่วนแดนศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดค่ายกลป้องกันทุกด้าน มหาจักรพรรดิทั้งสามในนั้นไม่กล้าปรากฏตัว
เรื่องที่เกิดขึ้นที่ทิศตะวันออกทั่วทั้งแปดทิศต่างรู้กันหมดแล้ว
เผชิญหน้ากับคนที่มีกำลังรบระดับเตรียมเซียนคิมหันต์อย่างเห็นได้ชัดคนหนึ่ง ไม่เพียงแต่ทำให้ทางแดนศักดิ์สิทธิ์เกิดความหวาดกลัวอย่างรุนแรงเท่านั้น แม้แต่เผ่าเอกภพแดนสีชาดก็ระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน
แต่สำหรับมหาจักรพรรดิครองกระบี่แล้ว เผ่าเอกภพแดนสีชาดจะมีความระมัดระวังหรือไม่ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ตอนนี้สิ่งที่เขาจะทำคือถ่ายทอดวิชากระบี่ของตัวเอง
ดังนั้น ในยามที่สายตาจับจ้องไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม เสียงของมหาจักรพรรดิครองกระบี่ก็ดังก้องมาในใจจักรพรรดินีและสวี่ชิง
“กระบี่ที่ข้าบรรลุ กระบี่ที่สอง ชื่อว่า…”
“แยกนภา!”
มหาจักรพรรดิครองกระบี่เอ่ยราบเรียบ มือขวายกขึ้นกดไปทางแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มกำลังป้องกันทุกด้านทั้งสามแดนเบาๆ
จากการกดนี้ ท่ามกลางจิตใจที่พลุ่งพล่านของเผ่าเอกภพแดนสีชาด ภายใต้ความหมองหม่นในเสี้ยวขณะนี้ของท้องฟ้า ท่ามกลางการมอดดับในเสี้ยวพริบตาของทะเลเพลิงบนพื้น…
แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยอยู่กลางท้องฟ้าทั้งสามพร้อมด้วยอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลรอบๆ ก็พลันรางเลือน
พลังน่ากลัวกลุ่มหนึ่งคล้ายว่ากดอัดลงมาจากความว่างเปล่า ซัดลงมาที่พื้นที่แถบนั้น สกัดกั้นมันกับโลกภายนอกออกจากกัน
จากนั้น พลังนี้ก็ปะทุ เหมือนว่าดึงเอากลิ่นอายของพื้นที่แถบนั้นไป!
และเสียงสุขุมลึกซึ้งของมหาจักรพรรดิครองกระบี่ก็อธิบายกระบี่นี้ของตน
“กระบี่นี้สร้างขึ้นเมื่อครั้งติดตามจักรพรรดิโบราณออกสู้กับหมื่นเผ่า เพื่อกวาดล้างศัตรูเป็นวงกว้าง ทั้งสามารถเก็บพลังสังหาร และสามารถทำลายล้างศัตรูได้เป็นบริเวณกว้าง…ดังนั้น หลักการของมันก็คือดึงเอาพลังชีวิตทุกอย่างในพื้นที่นั้นไป”
“ทำให้ที่นั่นกลายเป็นสุญญากาศ”
“ใช้พลังกดอัดที่เกิดจากการยุบตัวของสุญญากาศทำลายมิติ ทำลายทุกอย่างที่อยู่ในนั้น และร่องรอยแหลกสลายของพวกมันก็คือรอยกระบี่”
“รอยกระบี่เหล่านี้กว้างไกลไร้ขอบเขต รวมเข้าด้วยกันก็จะเกิดเป็นกระบี่แหวกนภา!”
ขณะเดียวกับที่มหาจักรพรรดิครองกระบี่เอ่ยวาจา แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามตลอดจนพื้นที่ที่ถูกสกัดกั้นรอบๆ แถบนั้นก็พลันพังทลาย
จากพลังชีวิตที่ถูกดึงออกมาทั้งหมด พลังกดอัดปะทุทุกด้าน รวมกับการเพิ่มพลังจากเจตจำนงของมหาจักรพรรคครองกระบี่แล้ว สรรพชีวิตทั้งหลายในพื้นที่แถบนั้นสีหน้าแปรเปลี่ยนมาตื่นตระหนกหวาดผวาสุดขีด
สิ่งที่เกิดรอยแตกก่อนเป็นอันดับแรกคือค่ายกลป้องกันของแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม
ภายใต้แรงกดอัดสุญญากาศนี้ ค่ายกลสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง รอยแตกร้าวบนนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ จวบจนกระทั่งค่ายกลในสุดท้ายแล้วก็ไม่อาจทนรับได้ต่อไป แตกร้าวเป็นเสี่ยงๆ ระเบิดมา
ดังนั้นพลังกดอัดสุญญากาศที่รุนแรงกว่าเดิมปะทุขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม
เพียงพริบตา เสียงกรีดร้องครวญคร่ำดังระงมไปทั่ว
ทว่าเสียงโหยหวนครวญครางไม่อาจดังเล็ดลอดออกมา ถูกกักกั้นเอาไว้ในนั้น
มีเพียงผู้แข็งแกร่งของแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามอย่างมหาจักรพรรดิ อย่างเจ้าเหนือหัวเท่านั้น ในเสี้ยวพริบตานี้ในดวงตาแดงก่ำ ต่างสำแดงไพ่ตาย ลองทำการต้านทาน
แต่…ไร้ความหมาย
การแตกสลายดำเนินต่อไป รอยร้าวเพิ่มมากขึ้น
เส้นรอยแตกร้าวเหล่านั้นล้วนแปรเปลี่ยนเป็นรอยกระบี่
จวบจนกระทั่งสุดท้าย รอยกระบี่นับไม่ถ้วนปรากฏลอยขึ้น รวมเป็นกระบี่น่าครั่นคร้ามเล่มหนึ่ง อยู่ในดินแดนสุญญากาศที่ถูกสกัดกั้นผืนนั้น แสงกระบี่แผ่ซ่าน ปราณกระบี่แข็งแกร่งไม่อาจต้านทาน จิตกระบี่สะท้านฟ้าดิน
นานหลังจากนั้นการสกัดกั้นหายไป เศษชิ้นส่วนแดนศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนร่วงลงสู่ผืนดิน
ไม่มีเลือดเนื้อ สิ่งที่ร่วงลงมาพร้อมกับเศษชิ้นส่วนคือธุลีที่แปรเปลี่ยนมาจากสิ่งมีชีวิต
และพลังชีวิตทั้งหมดล้วนกลายเป็นสารอาการหล่อเลี้ยงที่ช่วยพลักดันให้มหาจักรพรรดิครองกระบี่เคลื่อนไปข้างหน้า โหมซัดไปในร่างกายของเขา ทำให้เสี้ยวขณะนี้กำลังรบของเขาพุ่งเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ภายใต้การกวาดโหมของพลังนี้ เทพเจ้าของเผ่าเอกภพแดนสีชาดก็ต่างเลือกที่จะหลบหลีก ไม่คิดเผชิญหน้า
“เทพแท้จริงไม่ปรากฏตัวออกมา เผชิญหน้ากับเซียนคิมหันต์…พวกเรายากที่จะต่อกร”
ครู่หนึ่ง หลังจากที่มหาจักรพรรดิครองกระบี่พาสวี่ชิงและจักรพรรดินีจากไปแล้วถึงได้มีเสียงสงบนิ่งดังเนิบนาบออกมาจากในเผ่าเอกภพแดนสีชาด



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา