บทที่ 238 ไฟชีวิตโชติช่วงวังสวรรค์!
เช้าตรู่
สวี่ชิงที่ผ่านการทดลองมาทั้งคืนมองขวดใบเล็กสามใบข้างหน้า พอใจเป็นอย่างยิ่ง
นี่เป็นแมลงสีดำรุ่นที่เก้านับจากก่อนหน้านี้ หลังจากที่ผ่านการทดลองมากมายและการเลี้ยง
ความจริงแมลงสีดำรุ่นที่เก้านี้ไม่สามารถใช้คำว่าดำได้แล้ว สีของพวกมันอยู่ในสภาวะกึ่งโปร่งแสง อีกทั้งขนาดเมื่อเทียบกับอดีตแล้วก็เหมือนไข่ไก่กับถั่วลิสง
ต้องรู้ว่าแมลงสีดำในอดีตก็ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต่อให้เป็นประสาทสัมผัสรับรู้ก็ยากที่จะสังเกตได้อย่างละเอียด และในตอนนี้ก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม
ต่อให้เป็นสวี่ชิงก็ยังต้องอาศัยเลือดของตัวเองเหนี่ยวนำถึงจะสัมผัสพวกมันได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย
นอกจากนี้ แมลงพวกนี้ยังมีพิษ อีกทั้งพิษยังเข้มข้นกว่าเมื่อก่อนมากๆ ในช่วงที่สวี่ชิงไม่สนใจเงินทอง ทำการซื้อสมุนไพรพิษอย่างบ้าคลั่งและทำการทดลอง พวกมันหากเพียงเข้าไปในร่างของศัตรู กำลังการสังหารมากกว่าก่อนหน้านี้ประมาณสองสามเท่าจากการกัดและปล่อยพิษออกมา
ด้านไอพลังประหลาดก็เช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกันนั้นระดับความแข็งแกร่งของแมลงสีดำพวกนี้ เนื่องจากสวี่ชิงใช้พวกมันไปสัมผัสกับพิษของลูกกลอนต้องห้ามอยู่ตลอดดังนั้นจึงเกิดการกลายพันธุ์
ในตัวของแมลงสีดำรุ่นที่เก้าหลังจากที่กลายพันธุ์แล้วก็มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ต่อให้เป็นสภาพแวดล้อมลูกกลอนต้องห้าม พวกมันก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายสิบอึดใจ
‘น่าเสียดายที่สติปัญญาของมันไม่มากพอ ไม่เช่นนั้นหากแกล้งตายเป็นล่ะก็ ผลลัพธ์จะยิ่งดีขึ้นไปอีก
‘นอกจากนี้ พวกมันในตอนนี้ยังห่างไกลจากเป้าหมายของข้า…ที่จะสามารถผสานไปในลูกกลอนต้องห้ามได้อย่างสมบูรณ์ เลี้ยงและมีชีวิตอยู่ในลูกกลอนนั่นได้ ข้าจะยังพอใจไม่ได้ ต้องรีบทำให้พวกมันอยู่ในลูกกลอนให้ได้โดยสมบูรณ์’
เมื่อสวี่ชิงคิดถึงตรงนี้ ในขณะเดียวกับที่เสียดายนิดๆ ก็เก็บความพอใจลงไป
แต่เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ใช่ว่าจะทำให้สำเร็จไม่ได้ อย่างไรเสียตอนนี้ในกระเป๋ามีหินวิญญาณเพียงพอ ในสำนักยังซื้อสมุนไพรที่ล้ำค่าราคาสูงลิ่วพวกนั้นได้อีกด้วย
หากเป็นแบบนี้ต่อไป ในอนาคตก็น่าคาดหวัง
คิดถึงตรงนี้ แววตาของสวี่ชิงก็ฉายความวาดหวังออกมา ในขณะสะบัดมือก็เอานิ้วมือสองนิ้วออกมากำไว้ในมือ เงยหน้ามองหวงอี้คุนที่ตอนนี้ยังสลบไสล ทั้งยังถูกเขาผนึก อยู่ในคุกแน่นิ่งไม่ขยับ
ตอนนี้ในคุก คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็เหลือแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น
ส่วนเหยียนเหยียน เมื่อรุ่งสางเห็นสวี่ชิงขมวดคิ้ว แม้จะเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ แต่ก็ยังจากไปอย่างรู้กาลเทศะและจากการที่เหยียนเหยียนจากไป สวี่ชิงถึงได้รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
เขาไม่ค่อยชินกับการมีคนแปลกหน้าที่ยังมีชีวิตอยู่ข้างกาย ตอนนี้หลังจากกวาดตามองหวงอี้คุนที่สลบไสล เขาหยิบแผ่นหยกออกมาสื่อเสียง ไม่นานนัก ประตูคุกก็เปิดออก เจ้าใบ้น้อยวิ่งเข้ามาเป็นคนแรก โค้งคารวะสวี่ชิงอย่างเคารพนอบน้อม
สวี่ชิงกวาดตามองเจ้าใบ้น้อย พลังบำเพ็ญของอีกฝ่ายยกระดับไปเร็วมาก ตอนนี้ถึงระดับรวมปราณขั้นเก้าใกล้จะถึงขั้นสิบแล้ว ดังนั้นจึงสะบัดมือเอาลูกกลอนเม็ดหนึ่งแล้วโยนไป
ความขยันขันแข็งและจริงจังตั้งใจของเจ้าใบ้น้อยในช่วงนี้ สวี่ชิงล้วนเห็นอยู่ในสายตา
ถือยาลูกกลอนเอาไว้ ดวงตาของเจ้าใบ้น้อยเป็นประกายแวววาว มองสวี่ชิง รอคำสั่ง
สวี่ชิงชี้ไปที่หวงอี้คุน
“ใส่ห่วงเวทให้เขายี่สิบห่วง พาตัวไปขังไว้กับซือหม่าหลิง”
เจ้าใบ้น้อยพยักหน้าทันที วิ่งไปคว้าคอของหวงอี้คุนเอาไว้ ออกจากคุกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนออกไปในตอนที่ปิดประตู การเคลื่อนไหวของเขาช้าเนิบ ปิดประตูอย่างแผ่วเบา
สวี่ชิงเก็บสายตากลับมา ก้มหน้ามองนิ้วมือทั้งสองนิ้วของหวงอี้คุน นิ้วทั้งสองนิ้วนี้เปล่งประกายพร่างพรายประดุจทองม่วง แผ่ระลอกคลื่นพลังที่น่าครั่นคร้ามออกมา ทำให้เคล็ดวิชาเพลิงพิฆาตกลืนวิญญาณในร่างโคจรขึ้นเอง แผ่เปลวไฟออกมานอกร่าง เหมือนจะส่องประกายพราวพร่างสะท้อนกับนิ้วมือทั้งสอง
“ไม่รู้ว่าของชิ้นนี้ใช้อย่างไร แต่ข้ารู้สึกว่าไม่อาจนำมาทะลวงเปิดช่องเวทได้ เหมือนเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เคล็ดวิชาพัฒนาขึ้น” สวี่ชิงพึมพำ หยิบแผ่นหยกถ่ายทอดเสียงถามนายกอง
ไม่นานนัก นายกองก็ตอบกลับมา
“ฮ่าๆ อาชิงน้อย เจ้าโง่นั่นไปหาเจ้าที่นั่นแล้วกระมัง ข้าคิดแล้วก็น่าจะเป็นเช่นนั้น จึงเหลือไว้ให้เจ้าสองนิ้ว
“ข้าจะบอกเจ้าให้ นี่คือดัชนีโลกันต์เชียวนะ เป็นของดี หวงอี้คุนนี่เป็นอัจฉริยะฟ้าประทานจริงๆ ยิ่งมีจิตมุ่งมั่นแน่วแน่ ฝึกออกมาได้มากตั้งห้านิ้ว!
“ของสิ่งนี้ตาแก่บอกข้าว่าจะทำให้เคล็ดวิชายอดเขาลำดับเจ็ดของเราพลิกโฉมพัฒนาขึ้น วิธีโดยละเอียดเขายังขบคิดอยู่ น่าจะค้นคว้าออกมาได้เร็วๆ นี้ เป็นหนึ่งในเคล็ดวิชาที่เป็นเฉพาะศิษย์ในอันดับรายชื่อของยอดเขาลำดับเจ็ดเรา”
สวี่ชิงได้ยินดังนั้นก็ไม่ขบคิดเรื่องนิ้วอีก หยิบเอาแหวนเก็บของของหวงอี้คุนออกมา
“หวงอี้คุนคนนี้เหมือนจะค่อนข้างจนหรือ” สวี่ชิงกวาดตามองแหวนเก็บของ บนนั้นเหมือนกับของซือหม่าหลิง มีตราประทับเช่นกัน ขณะเดียวกันแหวนเก็บของของหวงอี้คุนไม่มีอัญมณีของล้ำค่า ดูแล้วธรรมดามาก
ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องให้สวี่ชิงสั่ง เจ้าเงาที่คอยสังเกตสวี่ชิงอยู่ตลอดเวลาพุ่งมาอย่างรวดเร็ว ทำการขูดแหวนอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากที่อยู่ในระดับพอประมาณแล้ว มันก็รีบส่งอารมณ์ประจบประแจงออกมา หดกลับไป
เห็นได้ชัดว่ามันจำเรื่องที่สวี่ชิงสัญญาว่าหากมันทำดีก็จะให้เศษชิ้นส่วนของวิเศษเวทต้องห้ามกับมันได้
สวี่ชิงมองไปทางเจ้าเงาทางนั้นแสดงสายตาชมเชยออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิต
สายตานี้ หลังจากที่เจ้าเงาอึ้งไปครู่หนึ่ง ก็ดีใจจนร่างไม่เสถียร แตกเป็นร่องหลายร่องบนพื้นทันที ดีใจเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนบรรพจารย์สำนักวัชระไม่มีความสุขแล้ว กายวิญญาณอัสนีของมันตอนนี้สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ ความรู้สึกอันตรายรุนแรงพลันปะทุขึ้นในจิตใจของมัน
สายตาของสวี่ชิงกวาดไปที่เหล็กแหลมสีดำแวบหนึ่งทั้งอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ หลังจากดึงสายตากลับมามือขวาก็ยกขึ้น พลังเวทแผ่กระจาย ลูบไปบนแหวนเก็บของของหวงอี้คุน พร้อมด้วยความรู้สึกคาดหวังขึ้นมา

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา