เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 24

บทที่ 24 เด็กน้อย เจ้ามาตอบ

เวลานี้สวี่ชิงตรงกลับมายังที่พักแล้ว ถึงจะถอนหายใจยาวออกมา

เขาคิดว่าตนเองทำเช่นนั้นไม่ค่อยดีนัก แต่การกระหายความรู้ก็ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่น

และเขาก็เข้าใจ ว่าลูกไม้ของตนถูกมองออกแล้ว

“หลังจากนี้ต้องตอบแทนเสียแล้ว”

เด็กหนุ่มงึมงำเสียงเบา จดจำเรื่องนี้ไว้ในใจ เขาไม่รู้ว่าตนเองสามารถตอบแทนอะไรได้ แต่ในใจก็ยังคิดเช่นนี้ ไม่แน่ว่าภายหลังอาจมีโอกาสดังว่า

สวี่ชิงกลัวว่าตนเองจะลืม จึงหยิบเอาตำราไม้ไผ่ม้วนหนึ่งออกมาจากถุงหนัง ใช้เหล็กแหลมสลักชื่อปรมาจารย์ไป่สามตัวอักษรลงไปบนนั้น

และพอมองอย่างละเอียด ตำราไม้ไผ่นี้นอกจากปรมาจารย์ไป่แล้ว ยังมีหัวหน้าเหลย รวมไปถึงชื่ออื่นด้านบนอีกสามชื่อ

สามชื่อนั้น ล้วนเป็นคนที่เคยช่วยเหลือเขาไว้ตอนอยู่ที่ถ้ำยาจก ต่อให้จะเพียงแค่เล็กน้อย แต่ก็ถูกเขาจดจำไว้ในใจ

เป็นเช่นนี้ หลังจากสลักชื่อลงไปแล้ว สวี่ชิงก็ยังหยิบเอาตำราไม้ไผ่อีกม้วนหนึ่งออกมา ระลึกไปถึงเนื้อหาของบทเรียนคาบวันนี้ จากนั้นก็จดบันทึกลงไป

และนำเอาตำราไม้ไผ่ของคาบที่แล้วหยิบออกมาท่องเงียบๆ หลังจากแน่ใจว่าตนเองจดจำทั้งหมดได้แล้ว สีหน้าของเขาก็เผยความพึงพอใจออกมา

“สมุนไพรที่ข้ารู้จักตอนนี้มียี่สิบเจ็ดชนิดแล้ว”

สวี่ชิงดีใจมาก อารมณ์นี้คงอยู่ต่อไปทั้งวัน กระทั่งตอนที่ฝึกบำเพ็ญก็ยังรู้สึกจิตใจเบิกบาน

ดังนั้นวันถัดมาเขาจึงลุกแต่เช้า หลังจากออกไปขายหญ้าเจ็ดใบบางส่วน ซื้อสมุนไพรที่ดูคล้ายกับดอกลิขิตฟ้า จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่ด้านนอกกระโจมปรมาจารย์ไป่ตามทางที่คุ้นเคย

สวี่ชิงยังคงยืนรอที่ตำแหน่งเมื่อวานเงียบๆ ที่นั่นเพราะสนใจบทเรียนด้านในกระโจมเช่นเคย นำสมุนไพรเข้าไปสอบถามอย่างตึงเครียดและกระสับกระส่ายเมื่อปรมาจารย์ไป่เดินออกมาหลังจากบทเรียนเสร็จสิ้น

จ้องมองสมุนไพร ปรมาจารย์ไป่กระแอมขึ้นเสียงหนึ่ง ขณะที่ส่ายศีรษะ ก็บอกเล่าข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรที่สวี่ชิงซื้อมาให้รู้

นี่ยิ่งทำให้สวี่ชิงเข้าใจสมุนไพรมากขึ้นอีกชนิดหนึ่ง สิ่งนี้ทำให้เขาพึงพอใจและซาบซึ้งยิ่งขึ้น หลังคารวะและจากมา เขายังหันหน้ากลับไปมองเช่นเดียวกับเมื่อวานนี้จากที่ไกลๆ และมองเห็นปรมาจารย์ไป่ยืนอยู่ที่เดิม พยักหน้าเป็นสัญญาณให้กับตนเอง

ภาพนี้ สะท้อนในดวงตาของสวี่ชิง และสลักลงไปในหัวเขา

เป็นเช่นนี้ ผ่านไปครึ่งเดือน

ทุกวันสวี่ชิงล้วนนำสมุนไพรต่างๆ เข้ามาสอบถามปรมาจารย์ไป่หลังจากจบฟังบทเรียนที่ด้านนอกกระโจมจบ

เขาได้รับความรู้สมุนไพรมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งต่อมายังได้ยินเรื่องเกี่ยวกับวิธีการปรุงสมุนไพรอีกด้วย

สิ่งนี้ทำให้สวี่ชิงได้รับประโยชน์มามากมาย มีจดบันทึกตำราไม้ไผ่ได้หลายสิบม้วนแล้ว

ส่วนปรมาจารย์ไป่ทางนั้นก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องที่สวี่ชิงครูพักลักจำเลย ทุกวันก็อธิบายอย่างอดทนกับคำถามเรื่องสมุนไพรของเขา

กระทั่งว่าท้ายที่สุด ไม่ได้มีเพียงองครักษ์ที่ชินกับการปรากฏตัวของเด็กน้อยเสื้อขนสัตว์ในช่วงเช้าตรู่ของทุกวันแล้ว เด็กหนุ่มเด็กสาวในกระโจมเองก็ยังประทับใจในตัวเขาอย่างมากเช่นกัน

กระทั่งมีวันหนึ่งที่ด้านนอกฝนตกหนัก ไม่ว่าจะปรมาจารย์ไป่หรือเด็กหนุ่มเด็กสาวก็ล้วนคิดว่าสวี่ชิงจะไม่มา แต่สวี่ชิงกลับสวมเสื้อกันฝนเดินมาท่ามกลางสายฝน

ตั้งใจเล่าเรียนไม่มีเหน็ดเหนื่อย ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออก

สิ่งนี้ทำให้ปรมาจารย์กับศิษย์ข้างกายทั้งสองคนประทับใจเป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้นมีวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาเรียน แต่สวี่ชิงกลับไม่ปรากฏตัวตรงตามเวลาปกติ เด็กหนุ่มกับเด็กสาวก็เอาแต่มองออกมาด้านนอกอยู่เนืองๆ

เหมือนกำลังประหลาดใจว่าคนเก็บกวาดสกปรกตัวน้อยคนนั้น ทำไมวันนี้จึงยังไม่มา

จนเมื่อเงาของสวี่ชิงที่เหนื่อยล้าสะท้อนที่กระโจม เด็กหนุ่มเด็กสาวจึงถอนสายตากลับมา

สาเหตุที่มาสายเป็นเพราะนอกจากสวี่ชิงจะเข้ามาฟังบทเรียนของปรมาจารย์ไป่แล้วยังต้องเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม ขณะที่ออกค้นหาดอกลิขิตฟ้ากับหินขจัดแผลเป็นก็ยังต้องคอยลับฝีมือและร่างกายออกล่าอสูรกลายพันธุ์อีกด้วย

แต่ขั้นตอนการค้นหาก็ไม่ได้ราบรื่นนัก

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาหาสองสิ่งนี้ไม่พบเลย แต่อันตรายในพื้นที่ต้องห้าม ก็ทำให้สวี่ชิงตระหนักลึกซึ้งขึ้นอีกครั้ง

ต่อให้เขาที่มีเคล็ดคีรีสมุทรขั้นสี่ และมีพร้อมไปด้วยการพิจารณาและการสังเกตที่เฉียบคมของคนเก็บกวาดมือฉมัง ถ้าระวังเสียหน่อยก็ยังรักษาชีวิตหรือกระทั่งออกล่าได้ในพื้นที่ป่ารอบนอก แต่บางครั้งก็เจอกับอันตรายบ้างเหมือนกัน

ครั้งนี้ที่สายก็เพราะเขาไปเจอเข้ากับอสูรกลายพันธุ์ที่ออกมาจากส่วนลึก วิ่งหนีตลอดทั้งคืน รอดมาได้อย่างหวุดหวิด จึงเพิ่งกลับมาถึงช่วงฟ้าสาง

หลังจากกลับมาเขาก็ยังไม่ได้พักผ่อน แต่ไปฟังบทเรียนอยู่เงียบๆ

นอกจากนี้ ช่วงหลายวันมานี้ สวี่ชิงยังได้รับผลประโยชน์เล็กน้อยด้วย นั่นก็คือข้อเสนอรับประกันความปลอดภัยที่ดาบกระดูกเคยเสนอมา

ดาบกระดูกยังใช้ชีวิตได้อย่างดี

นับตั้งแต่ที่เขาซื้อประกันทางนี้ไปครั้งที่แล้ว ทุกครั้งที่จะเข้าพื้นที่ต้องห้ามก็ล้วนแวะเวียนเข้ามาซื้ออีก แม้ว่าหมอกลวงตาจะไม่ได้ปรากฏออกมาอีกเลย สวี่ชิงก็ไม่ได้แสดงฝีมือ

แต่ดาบกระดูกยังคงดึงดัน กระทั่งไม่รู้ว่าไปเล่าต่อกันอย่างไร จึงค่อยๆ มีคนเข้ามาซื้อประกันกับเขามากขึ้น

สวี่ชิงระมัดระวังเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ล้วนไม่สนใจ มีเพียงคนที่เคยช่วยไว้ก่อนหน้านี้เท่านั้นที่เขาตอบรับ

เรื่องนี้ทำให้รายรับของสวี่ชิงเพิ่มมากขึ้น เมื่อรวมกับรายรับจากการล่าในพื้นที่ต้องห้ามของเขา ชีวิตแต่ละวันก็ค่อยๆ ดีขึ้น

ถึงแม้หัวหน้าเหลยจะไม่สามารถออกไปทำภารกิจได้อีก แต่สวี่ชิงก็ให้ค่าเช่าบ้านเสียเยอะแยะ แม้หัวหน้าเหลยจะไม่รับ แต่สวี่ชิงเองก็ยังยืนยัน จนสุดท้ายหัวหน้าเหลยก็จำใจต้องรับไป

เงินก้อนนี้ส่วนใหญ่ หัวหน้าเหลยนำไปใช้กับเรื่องอาหารการกิน ทำให้ทุกครั้งที่สวี่ชิงกลับมาจากพื้นที่ต้องห้าม ก็จะได้ทานกับข้าวกับปลาอุ่นร้อนอยู่เสมอ

และหัวหน้าเหลยก็ยังซื้อเสื้อผ้าบางส่วนให้กับสวี่ชิงอีกด้วย

เสื้อผ้าเหล่านี้ล้วนเป็นของใหม่ สวี่ชิงจึงทำใจใส่ไม่ลง ทุกตัวจึงถูกพับเก็บวางไว้บนชั้นอย่างดี บางครั้งหยิบออกมาดูให้รู้สึกเบิกบานใจ

และช่วงเวลาอาหารของทุกวัน ก็เป็นช่วงเวลาที่สวี่ชิงรู้สึกอบอุ่นที่สุด

เพราะไม่เพียงแต่ได้กินของดีๆ ช่วงนี้หัวหน้าเหลยยังมักทำตัวเหมือนเป็นผู้อาวุโสในครอบครัว พออายุมากขึ้นก็ชอบเล่าเรื่องเพื่อนบ้านบ้าง เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในฐานที่มั่นให้ฟังบ้าง

ช่วงนี้กางเขนกับเขี้ยวหงส์ก็กลับมาอยู่เป็นเพื่อนหัวหน้าเหลยพักหนึ่ง จากนั้นก็ออกไปอีกครั้ง

บทที่ 24 เด็กน้อย เจ้ามาตอบ 1

บทที่ 24 เด็กน้อย เจ้ามาตอบ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา