บทที่ 241 การเก็บงำของยอดเขาลำดับเจ็ด
วิหคทองทะยานขึ้นไป ขณะที่ทะเลเพลิงไหลเวียน ใบหน้าบิดเบี้ยวนับไม่ถ้วนบนร่มผีคันนั้นก็ร้องเสียงแหลม คิดจะสะกดแต่ทำอะไรไม่ได้
เพียงพริบตาวิหคทองพุ่งก็มา
เสียงผีร้ายกรีดร้องกลายเป็นเสียงร้องเวทนาหวีดแหลม ร่มผีทั้งคันถูกแผดเผาอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า ใบหน้าสิ่งประหลาดทั้งหมด แย่งกันคิดจะหนีออกด้านนอกแต่ก็ทำไม่ได้
เพียงชั่วกระพริบตาก็ถูกวิหคทองเผาจนมอดไหม้ ขณะเดียวกันร่างของสิ่งประหลาดมากมายที่แปลงมาจากซือหม่าหรูหญิงสาวชุดขาวก็ระเบิดด้วยทะเลเพลิงของวิหคทองนี้เช่นกัน ทำท่าจะสลายหายไป
แต่ซือหม่าหรูพลังต่อสู้ไม่ธรรมดา แม้เวลานี้จะสั่นสะท้านไปทั้งใจ แต่ยังคงพุ่งไปหาสวี่ชิงจากรอบด้าน กลายเป็นใบหน้านับไม่ถ้วนทะลวงทะเลเพลิง กัดทึ้งกลืนกินร่างกายสวี่ชิงอย่างรุนแรง
ลมหยินพัดโบก คิดจะเป่าไฟชีวิตให้มอดดับ
สวี่ชิงเลิกคิ้ว ช่องเวททั้งหมดโหมขึ้น ตอนนี้เขารู้สึกว่าอำพรางช่องเวทต่อไปไม่มีความหมาย หญิงสาวตรงหน้านี้ พลังต่อสู้ไฟชีวิตสี่ยังยากจะสะกดไหว ดังนั้นช่องเวททั้งเก้าสิบช่องจึงระเบิดออกราวเตาไฟ สั่นสะเทือนฟ้า
และช่องเวทของเขาก็แตกต่างจากคนอื่น ช่องเวทของเขายิ่งใหญ่กว่า ทุกช่องมีทะเลวิญญาณถึงห้าร้อยจั้งอยู่ภายใน
ทะเลวิญญาณที่น่าตกตะลึงเช่นนี้ ก่อพลังเวทที่น่ากลัวยิ่งกว่าออกมา และด้วยการสนับสนุนของพลังเวทนี้ ระดับความร้อนแรงของไฟชีวิตสวี่ชิงจึงยิ่งน่ากลัวเหนือสิ่งอื่นใด
ลมหยินนี้…อาจจะพัดไฟชีวิตส่วนใหญ่ให้ดับได้ แต่กลับพัดไฟชีวิตของสวี่ชิงให้วูบไหวไม่ได้เลย
ไฟชีวิตเขาเผาไหม้จนสร้างความตกตะลึงให้คนที่ได้ยินได้ เวลานี้ยอมให้สิ่งประหลาดเหล่านั้นเข้าใกล้ แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้เลย และยิ่งไม่ต้องพูดถึงกายเนื้อของเขาก็เข้าขั้นจากการฝึกบำเพ็ญวิหคทอง
เวลานี้เลือดลมทั้งร่างระเบิดออกฉับพลัน ก่อตัวเป็นทะเลเพลิงแสงเลือด แผ่ซ่านครืนครัน เมื่อสิ่งประหลาดทั้งหมดได้สัมผัสก็กรีดร้องแหลมราวกับถูกลบทิ้งไป
ที่แปลงมาจากซือหม่าหรูเองก็ไม่เว้น ทั้งหมดแหลกสลายก่อตัวเป็นปราณหมอกพัดตลบ รวมตัวเป็นกลุ่มก้อนอยู่ไม่ไกล แต่กลับมีกลิ่นอายที่น่ากลัวยิ่งกว่าแผ่ออกมาจากด้านใน
ปราณหมอกกลุ่มนี้ก็กลายเป็นอสูรร้ายขนาดยักษ์สามหัวตัวหนึ่งท่ามกลางการแผดเสียง
รูปร่างอสูรร้ายคล้ายกับพยัคฆ์ สองหัวอยู่ด้านหน้า อีกหัวหนึ่งอยู่ที่หาง พริบตาที่ปรากฏตัวรอบด้านก็เกิดลมพายุคลั่ง คลื่นพลังที่น่าตกตะลึงทำให้รู้สึกเย็นเยียบ ขณะที่ระเบิดออกรอบด้าน พยัคฆ์ผีตัวนี้ก็พุ่งไปหาสวี่ชิง
เข้าประชิดด้วยความเร็วในพริบตา
มีภูตผีจำนวนมหาศาลแผ่ออกมาจากตัวมัน กลายเป็นผีร้าย หมุนวนรอบๆ จนก่อตัวเป็นกระแสวนลมพายุที่เหมือนจะฉีกทึ้งได้ทุกสรรพสิ่ง
ดวงตาสวี่ชิงเปล่งประกายเย็นชา ก้าวเท้าไปก้าวหนึ่ง พริบตาก็ไปปรากฏเบื้องหน้าพยัคฆ์ผีตัวนั้น มือขวายกขึ้นระเบิดเพลิงพิฆาตในร่างกายจนกลายเป็นกำปั้นเปลวเพลิงขนาดยักษ์ซัดออกไป
เสียงดังตูม พยัคฆ์ผีคำรามเสียงต่ำเบี่ยงตัวฉับพลัน อ้าปากกว้างราวกับสามารถกลืนกินได้ทุกสรรพสิ่งเข้าประชิดสวี่ชิง พุ่งมาที่สวี่ชิงจะกลืนกินในฉับพลัน
สวี่ชิงสายตาสงบนิ่ง มือขวาทำปางชี้นิ้วขึ้น ทันใดนั้นทะเลเพลิงนอกร่างเขาก็แผ่ออก มัจฉาบรรพกาลตัวหนึ่งจำแลงร่าง ขนาดของมันโตกว่าพยัคฆ์ผี ปากใหญ่ที่ใหญ่ยิ่งกว่าปากของพยัคฆ์ผีก็อ้าแล้วหุบ กลืนลงไปทันที
เสียงโครมดังขึ้น พยัคฆ์ผีตัวนั้นแตกซ่าน มีเสียงกรีดร้องออกมาจากตัว แต่ซือหม่าหรูก็ไม่สามัญ หลังจากที่มัจฉาบรรพกาลกลืนกินนางไปแล้ว พริบตาต่อมาก็ระเบิดร่างแหลกลาญ ปราณหมอกนับไม่ถ้วนรวมตัวกันแล้วพุ่งออกมาจากด้านใน จำแลงเป็นรูปลักษณ์สิ่งประหลาดแบบที่สามกลางอากาศ
นั่นเป็นสิ่งประหลาดที่มีปีกด้านหลัง ร่างสีดำสนิทที่ดูคล้ายกับรากษส[1]
หลังจากก่อตัวก็คำรามเสียงต่ำใส่สวี่ชิง ตั้งท่าจะพุ่งไป แต่พริบตาต่อมาสายฟ้าสีดำก็แทงทะลุเมฆหมอกบนฟากฟ้าพุ่งตรงไปทางรากษส บนพื้นเองก็มีเงามืดทอดแผ่ ปกคลุมมันเอาไว้
รากษสที่แปลงมาจากซือหม่าหรูหน้าเปลี่ยนสี ฉากหลบเหล็กแหลมสีดำกับเงามืดบนพื้นฉับพลัน แต่กลับหลบสวี่ชิงไม่พ้น
สวี่ชิงกระโจนออกมา ทั้งตัวพลังมหาศาล หลังจากเข้าประชิดก็คว้าคอของรากษสนี้ไว้ กระแทกที่กำแพงที่อยู่ข้างๆ อย่างแรง
กำแพงทลายลงท่ามกลางเสียงสนั่น ขณะที่ร่างของรากษสกำลังสั่นเทิ้มอย่างบ้าคลั่ง เพลิงพิฆาตมหาศาลก็แผ่ออกมาจากมือสวี่ชิง
ดวงตาเขาเผยความโหดเหี้ยมออกมา เริ่มทำการหลอม
ช่องเวทที่เก้าสิบเอ็ดในร่างสวี่ชิง ก็เริ่มมีเค้าลางว่าจะทะลวงได้จากการหลอมครั้งนี้ในพริบตา
รากษสที่แปลงมาจากซือหม่าหรูดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย สวี่ชิงแค่นเสียงและเหวี่ยงอย่างรุนแรง กดมันไว้บนพื้นแล้วบีบ เสียงโพละดังขึ้น ร่างกายรากษสตนนี้ก็ระเบิดแหลกเละ
เมื่อเห็นว่ายังมีปราณหมอกแผ่ออกมา วิหคทองกลางอากาศก็แผดเสียง สูดรับอย่างรุนแรง และปราณหมอกก็พุ่งตรงไปในปากมันทันที กำลังจะกลืนกินจนหมด
แต่ตอนนี้เอง ปราณหมอกเหล่านี้ก็รวมตัวกันอย่างบ้าคลั่ง ปรากฏเป็นรูปลักษณ์ที่สี่!
เป็นยักษ์ร่างตุ๊ต๊ะสูงนับร้อยจั้งร่างหนึ่ง เหมือนจะใช้น้ำหนักตัวที่น่าตกตะลึงฝืนนั่งลงมาต้านทานกับวิหคทอง
แต่เห็นได้ชัดว่านางยังมีคุณสมบัติไม่พอ ดวงตาวิหคทองเผยประกายเย็นเยียบออกมา กลืนกินอีกครั้ง และสวี่ชิงเองก็ไหววูบก้าวเท้ามา
เขามองรูปลักษณ์ที่สี่ของซือหม่าหรู ในดวงตาเผยประกายประหลาดออกมา
การสูดรับเมื่อครู่ทำให้เขาทะลวงหนึ่งช่องเวทในพริบตา สิ่งนี้ทำให้สวี่ชิงเวลานี้มองซือหม่าหรูราวกับกำลังมองสมบัติล้ำค่า
ดังนั้นหลังจากเข้าประชิดเจ้ายักษ์ตุ๊ต๊ะที่กำลังกระเสือกกระสน สวี่ชิงก็ระเบิดเพลิงพิฆาตทั่วร่าง หลังจากครอบคลุมมันไว้อย่างรวดเร็ว ก็ทำการหลอมอีกครั้ง
ในดวงตายักษ์รูปลักษณ์ที่สี่ของซือหม่าหรูเผยความตกตะลึงพรั่นพรึง ดิ้นรนอย่างรุนแรงแต่ก็สลัดไม่หลุด
เมื่อเห็นว่าสวี่ชิงกับวิหคทองล้วนกำลังสูดรับ กระทั่งเงามืดบนพื้นเองก็รีบร้อนพุ่งเข้ามา ส่วนเหล็กแหลมสีดำที่ห่างออกไปก็ดูตื่นเต้นตั้งท่าจะเข้าประชิด
ดวงตาซือหม่าหรูเผยความประหลาดใจ จากนั้นจึงระเบิดรูปลักษณ์ที่สี่ของตนเองทิ้งอย่างไม่ลังเล
เสียงดังก้องฟ้า แรงปะทะบ้าคลั่งแผ่ขยายครืนครันทั่วสารทิศ นี่คือการระเบิดตนเองของพลังต่อสู้ระดับไฟชีวิตสี่ดวงครึ่ง ระดับความแข็งแกร่งของมันมหาศาลมาก ก่อคลื่นที่น่ากลัวพัดกวาดออกไป
และใช้การระเบิดตัวเองของรูปลักษณ์ที่สี่ กระดูกท่อนแขนสีดำท่อนหนึ่งก็พุ่งออกไปจากรูปลักษณ์ที่สี่ที่แตกสลาย พุ่งไปด้านนอกกรมปราบพิฆาต!
กระดูกแขนท่อนนี้ คือแหล่งกำเนิดพลังร่างแยกนี้ของซือหม่าหรู ตอนนี้นางรับรู้ถึงความน่ากลัวของสวี่ชิงอย่างลึกซึ้งแล้ว ไม่คิดจะต่อสู้ต่อ เมื่อปรากฏตัวก็รีบหนีอย่างรวดเร็ว
และนางก็เลือกจังหวะดีมาก พลังระเบิดตนเองที่น่าตกตะลึงเดิมสามารถสกัดกั้นการตามล่าตามทั้งหมดได้ แต่นางก็คำนวณพลังที่แท้จริงของสวี่ชิงพลาดไป
ดังนั้นพริบตาต่อมา ร่างของสวี่ชิงก็พุ่งออกมาจากคลื่นระเบิดตัวเองของนางฉับพลัน เข้าประชิดในพริบตาแล้วคว้าเอาไว้
ในจังหวะวิกฤตกระดูกท่อนแขนของซือหม่าหรูก็ระเบิดแสงดำแยงตา มันที่รู้ว่าไม่อาจหลบหนีได้แล้ว ก็หมุนตัว ใช้กระดูกท่อนแขนนี้เคาะฟาดที่ศีรษะสวี่ชิงแรงๆ
ขณะเดียวกัน บทเพลงสิ่งประหลาดก่อนหน้า ก็ดังก้องทั่วสารทิศอีกครั้ง
“กระดูกหนึ่งท่อนฟาดไปเบาๆ ลูกตาสองดวงถลนออกมา
“สามทีเคาะกะโหลกเปิด สี่ลิ้นรีบมาจับไวๆ
“สหายห้าคนมีแรงมาก มือเล็กหกข้างล้วงเข้าไปข้างใน”
พลานุภาพในการทุบตีมากกว่าไฟชีวิตสี่ดวง เห็นว่ากำลังจะฟาดลงมา สวี่ชิงก็หรี่ตาลง ข่มความคิดที่จะสำแดงพลังตะเกียงแห่งชีวิตของตนเอง ล้วงแผ่นหยกออกมาชิ้นหนึ่ง
แผ่นหยกนี้ คือเกราะคุ้มกันปราณก่อกำเนิดที่นายท่านหกมอบให้ในตอนนั้น
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา