เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 242

บทที่ 242 เมฆดำบดบังจันทร์ คืนล่าสังหาร

วันที่สอง

อัจฉริยะพันธมิตรเจ็ดสำนักหยุดการประลองอย่างหาได้ยาก คนที่เหลือทั้งหมดแทบจะจับจ้องไปที่กรมปราบพิฆาตท่าเรือที่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบหก

ต่างนิ่งเงียบ

ต่างสูดลมหายใจลึก

ยิ่งไปกว่านั้นสายตายังฉายความระแวดระวังและตื่นตะลึงอย่างรุนแรงออกมา

เกิดอะไรขึ้นในกรมปราบพิฆาตพวกเขาไม่รู้

แม้ค่ายกลสำนักเจ็ดเนตรโลหิตจะไม่มีผลกับซือหม่าหรู แต่การสกัดกั้นสภาพแวดล้อมไม่ให้เข้าแทรกแซงมีผลกับทุกคน ดังนั้นการต่อสู้เมื่อวานนี้คนนอกจึงมองไม่เห็นทุกอย่างในนั้น

มีเพียงผู้นำระดับสูงในสำนักเจ็ดเนตรโลหิตและองค์ชายองค์หญิงที่รายชื่ออยู่ในอันดับเท่านั้นถึงจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ทว่านอกจากยอดเขาลำดับเจ็ด หกยอดเขาที่เหลือความจริงแล้วก็มองไม่เห็นเช่นกัน เพราะ…นายท่านเจ็ดแทรกแซง

ดังนั้น สิ่งที่คนทั้งหลายที่อยู่นอกยอดเขาลำดับเจ็ดได้เห็นคือซือหม่าหรูลอยเข้าไป จากนั้นไม่นานเท่าไร การสกัดกั้นจากกรมปราบพิฆาตก็สลายไป ทุกอย่างกลับคืนสู่ปกติ ลูกศิษย์กรมปราบพิฆาตที่กระจายตัวอยู่ข้างนอกกลับมา การดำเนินงานของทั้งกรมปราบพิฆาตทุกอย่างกลับสู่ปกติ

ยังคงไล่ล่าจับกุมกลุ่มนกเขาราตรีต่อไป ยังคงส่งนักโทษจำนวนมหาศาลเข้ามา

มีเพียงซือหม่าหรูหายตัวไป ซือหม่าหลิงน้องชายของนางก็ยังคงถูกคุมขังไม่ได้ปล่อยตัวออกมา

ส่วนเรือกระดูกขาวที่ท่าเรือลำนั้น ในขณะที่ไร้ความเคลื่อนไหวสูญเสียการควบคุม ก็สลายไปเอง

ภาพนี้ทำให้อัจฉริยะเหล่านี้ของพันธมิตรเจ็ดสำนักจิตใจเกิดคลื่นยักษ์ท่วมฟ้ากันทุกคน พวกเขาตอนนี้พลันรู้สึกว่าการไปท้าประลองยอดเขาอื่นๆ ไม่มีความหมายอะไรแล้ว

ไม่ว่าจะไปท้าประลองอย่างไร กรมปราบพิฆาตท่าเรือที่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบหกล้วนเหมือนหนามแหลมที่ทิ่มแทงใจพวกเขา

ซือหม่าหลิงถูกกรมปราบพิฆาตสยบ เห็นได้ชัดว่าพี่สาวของเขาก็ถูกสยบเช่นกัน ส่วนหวงอี้คุนสำนักโลกันต์ทมิฬที่ไปท้าประลองยอดเขาลำดับเจ็ดก็หายตัวไป ก่อนหายตัวไปได้บอกกับคนอื่นๆ ว่าเขาจะเป็นผู้จัดการเรื่องที่เกี่ยวกับสวี่ชิงแห่งกรมปราบพิฆาตเอง

ทั้งหมด…ล้วนเกี่ยวข้องกับสวี่ชิง!

ดังนั้นกรมปราบพิฆาตที่ท่าเรือหนึ่งร้อยเจ็ดสิบหกในสายตาลูกศิษย์พันธมิตรเจ็ดสำนักเสมือนถ้ำพยัคฆ์ ดั่งสระมังกร ในขณะเดียวกับที่ลึกลับเกินหยั่งก็มีอันตรายที่ไม่อาจจินตนาการได้

เดิมเป้าหมายพันธมิตรที่ส่งพวกเขามาคือให้พวกเขาอาศัยการท้าประลองครั้งแล้วครั้งเล่ากำราบเจตจำนงของลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิต ทำให้ในใจของพวกเขามีเมล็ดพันธุ์ความยำเกรงต่อพันธมิตรเจ็ดสำนัก

และในทีแรกพวกเขาก็ทำได้แล้วจริงๆ จากการท้าประลองแต่ละครั้ง ลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิตต่างเงียบงัน ในใจยิ่งหวาดหวั่น กระทั่งว่ามีจำนวนหนึ่งที่ลองคบค้ากับพวกเขาแล้ว

แต่ตอนนี้ ในขณะเดียวกับที่พวกเขาสยบลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิตก็ถูกกรมปราบพิฆาตสยบเช่นกัน

“สวี่ชิงคนนี้กำลังรบที่แท้จริงอยู่ระดับใดกันแน่!”

“ซือหม่าหรูยังไปไม่กลับ แม้ที่มาจะไม่ใช่ร่างจริงของนาง แต่ก็มีกำลังรบไฟชีวิตสี่ดวงครึ่ง นางที่สยบพวกเราได้ง่ายๆ กลับถูกกรมปราบพิฆาตสยบ”

“ยอดเขาลำดับเจ็ด…นี่ถึงจะเป็นสาขาหลักของสำนักเจ็ดเนตรโลหิตเช่นนั้นหรือ”

“ศิษย์พี่เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องยังไม่ไปก็ดี…”

ในขณะเดียวกับที่อัจฉริยะพันธมิตรเจ็ดสำนักตื่นตะลึง ลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิตหลังจากที่จับตามองทุกอย่างนี้ก็ต่างเกิดคลื่นซัดโหมจิตใจเช่นกัน ในสายตาของพวกเขา สวี่ชิงและยอดเขาลำดับเจ็ดตอนนี้โดดเด่นเพียงหนึ่งเดียว

เหมือนแสงเจิดจ้าทางหนึ่งที่สาดส่องมายังท้องฟ้าที่ค่อนข้างหมองหม่นในใจของลูกศิษย์ยอดเขาอื่นๆ

ในขณะเดียวกับที่ยามเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับอัจฉริยะแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ความคิดที่ว่าไม่อาจสู้ได้ชนะประเภทนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง ก็มีความปรารถนาในยอดเขาลำดับเจ็ด ยิ่งเกิดความเคารพนับถือเจ้ายอดเขาลำดับเจ็ดสูงมาก

กระทั่งว่ามีข่าวลือบางอย่างแพร่ไปในสำนักเจ็ดเนตรโลหิตในตอนนี้ ข่าวลือกันว่าสถานการณ์ของสำนักเจ็ดเนตรโลหิตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ในนั้นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือจะมีตำแหน่งเจ้าสำนักเกิดขึ้น!

สำนักเจ็ดเนตรโลหิตจนถึงตอนนี้มีเพียงเจ้ายอดเขา ไม่มีเจ้าสำนัก

ลูกศิษย์ของยอดเขาทั้งเจ็ดความจริงแล้วฟังคำสั่งจากเจ้ายอดเขาของตัวเอง สำหรับยอดเขาอื่นๆ จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ยอมรับสักเท่าไร ต่างดูแลปกครองกันเอง มีเพียงเรื่องใหญ่เท่านั้นถึงจะร่วมมือกัน

ตอนนี้…การมาเยือนของพันธมิตรเจ็ดสำนักก็เหมือนค้อนยักษ์อันหนึ่งทุบยอดเขาต่างๆ ของสำนักเจ็ดเนตรโลหิตจากทั่วทุกสารทิศ ความรู้สึกเหมือนพายุฝนตั้งเค้าแบบนั้น ทำให้ลูกศิษย์ทั้งหมดภายใต้ความกดดันจากโลกภายนอกจิตใจสั่นคลอน ความคิดต่างๆ ผุดขึ้นมา

แต่ความกดดันเช่นนี้ดูจากอีกชั้นหนึ่งแล้วก็เหมือนกับการตีเหล็ก ทำให้พวกไร้ประโยชน์ที่แฝงอยู่ในสำนักเจ็ดเนตรโลหิตหลายปีมานี้เหล่านั้นถูกสั่นคลอนจนเปิดเผยออกมาเอง

และเรื่องทั้งหมดนี้เมื่ออยู่ในสายตาของต่างเผ่าและพันธมิตรของสำนักเจ็ดเนตรโลหิตที่มาเยือน พวกเขามองไปลึกกว่านั้น มองเห็นถึงการหยั่งรู้จิตใจมนุษย์ของบรรพจารย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิตท่านนั้น

นี่คือยืมมือของพันธมิตรเจ็ดสำนักมาฝึกฝนสำนักของตัวเอง

พันธมิตรเจ็ดสำนักเห็นได้ชัดว่ามองจุดนี้ออกเช่นกัน ดังนั้นเรื่องที่อัจฉริยะสำนักต่างๆ ไม่ท้าประลองต่อก็ไม่ได้เร่งเหมือนอย่างก่อนๆ แต่คำสั่งโยกย้ายสำนักเจ็ดเนตรโลหิตกลับส่งออกไปจากพันธมิตรเจ็ดสำนักไม่ขาดสาย

พวกเขาต้องการโยกย้ายเจ้ายอดเขาต่างๆ โดยเฉพาะยอดเขาลำดับเจ็ด

พวกเขายังเรียกองค์หญิงองค์ชายทั้งหมด โดยเฉพาะองค์หญิงองค์ชายและผู้อยู่ในอันดับรายชื่อของยอดเขาลำดับเจ็ดให้เดินทางไปยังแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ มอบหน้าที่ต่างๆ ให้

คำสั่งโยกย้ายพวกนี้ถูกเสี่ยเลี่ยนจื่อยื้อเอาไว้

แต่พันธมิตรเจ็ดสำนักครั้งนี้เหมือนจะเด็ดขาด คำสั่งแต่ละคำสั่งเข้มงวดขึ้น จนถึงสุดท้ายกระทั่งว่าในคำพูดมีเจตนาข่มขู่ คล้ายว่าหากไม่ฟังคำสั่ง พันธมิตรเจ็ดสำนักคิดจะใช้กำลังเข้าสยบ

โดยเฉพาะสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุดในพันธมิตรเจ็ดสำนักตอนนี้ บรรพจารย์ของพวกเขากระตุ้นของวิเศษเวทต้องห้ามของสำนัก สร้างเป็นภัยคุกคามร้ายแรง

บทที่ 242 เมฆดำบดบังจันทร์ คืนล่าสังหาร 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา