เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 243

บทที่ 243 สะบัดดาบสังหารผี

พลังของเขาน่าตื่นตะลึง วิหคทองปรากฏสะเทือนไปทั่วสารทิศ

พุ่งตรงไปยังที่ที่ส่งสัญญาณความช่วยเหลือ

เขาโดดเด่นยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง รูปโฉมงดงามราวภูตพราย ไฟแผดเผาผืนนภา

เข้าประชิดไปยังจุดขอความช่วยเหลือจากกรมปราบพิฆาต!

ไฟของเขาเลิศล้ำร้ายกาจ ทรงพลังรวดเร็ว บดบังฟ้าดิน

เปลวไฟลุกโชนราวคลื่นยักษ์ซัดขึ้นสูง มาพร้อมด้วยอำนาจท่วมท้น พุ่งไปยังฐานกบดานที่สี่กลุ่มนกเขาราตรีที่อยู่บนพื้น แล้วซัดโถมลงมา

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังขึ้นทันที ในขณะที่แผ่นดินสั่นไหวทะเลเพลิงก็เข้าปกคลุม เงาของกลุ่มนกเขาราตรีที่คิดจะหลบหนีส่งเสียงร้องโหยหวนน่าเวทนาออกมาทันที ร่างกลายเป็นเถ้าธุลีโดยเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ยิ่งมีเสียงถล่มดังสะท้อน สิ่งก่อสร้างจำนวนมหาศาลที่นี่ต่างพังถล่มลงจากการมาเยือนของสวี่ชิง

ที่นี่อยู่ในเขตเมืองหลักยอดเขาลำดับห้า เป็นหอสามชั้นที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก ตอนเช้าขายค่ายกล แม้จะไม่เกี่ยวกับยอดเขาลำดับห้า แต่ก็มีการไปมาหาสู่อย่างลับๆ กับใครบางคน

ส่วนเรื่องที่ยอดเขาลำดับห้าจะรู้หรือไม่ว่าหอแห่งนี้ถูกกลุ่มนกเขาราตรีควบคุม สวี่ชิงไม่สนใจ หลังจากคืนนี้ ที่นี่จะไม่มีอยู่อีกต่อไป

ตอนนี้ จากการมาถึงของเขา จากการกวาดโหมของทะเลเพลิง สมาชิกกรมปราบพิฆาตที่ล้อมที่นี่อยู่ต่างตื่นเต้นฮึกเหิม โค้งคารวะสวี่ชิง

ที่ไกลๆ จากการพังถล่มของสิ่งก่อสร้าง จากลุกโชนของทะเลเพลิง มีสนามรบสองแห่งที่เด่นมาก สนามรบหนึ่งในนั้นเป็นรองเจ้ากรมของกรมปราบพิฆาตเจ็ดแปดคน ร่วมมือกันอัญเชิญพลังค่ายกลสำนัก กำลังสยบชายชราของกลุ่มนกเขาราตรีคนหนึ่ง

ชายชราคนนี้สวมชุดหรูหรา ใบหน้าเต็มไปด้วยกระสีน้ำตาล ตอนนี้ในดวงตาแฝงด้วยความตื่นตกใจโมโห ดิ้นรนสุดกำลัง ในกายยิ่งมีไฟชีวิตสามดวงลุกโชน รัศมีอำนาจไม่ธรรมดา

เดิมทีเมื่อเผชิญหน้ากับรองเจ้ากรมระดับสร้างฐานไฟชีวิตหนึ่งดวง เขาสามารถสังหารได้หลายคนเพียงแค่พริบตา แต่เมื่อมีการใช้พลังค่ายกลของสำนักมาร่วมด้วย ทำให้เขาไม่สามารถทำการสังหารที่นี่ได้ในทันที และไม่อาจหนีได้ด้วย

ทว่าอำนาจของรองเจ้ากรมไม่มาก พลังค่ายกลที่อัญเชิญไม่มากพอที่จะสยบได้โดยสมบูรณ์ ดังนั้นจึงอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก อีกทั้งแต่ละคนยังได้รับบาดเจ็บ แต่ลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิตล้วนมาจากลูกหมาป่า ก้าวออกมาจากการเลี้ยงกู่ทั้งนั้น ความเหี้ยมโหดของพวกเขาเกี่ยวพันกับประสบการณ์ ต่อให้เผชิญกับสถานการณ์เลวร้าย ต่อให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ ความเหี้ยมโหดก็ยังคงมีมากเช่นเดิม

สนามรบอีกแห่งหนึ่งคือเจ้ากรมไฟชีวิตสองดวงของกรมปราบพิฆาตสี่คนร่วมกับลูกศิษย์หลายร้อยคน ใช้ค่ายกลยอดเขาลำดับห้าพันธนการคนคนหนึ่ง

คนคนนี้สวมชุดนักพรตสีทองดูแล้วอายุประมาณสิบแปดสิบเก้าปี หน้าตาหล่อเหลา ดวงตาเป็นประกาย ในขณะที่ดูไม่ธรรมดามากๆ นั้น ข้างกายเขายิ่งมีกระบี่บินเก้าเล่มหมุนวนอย่างรวดเร็ว สร้างเป็นปราณกระบี่เป็นทางๆ สั่นสะท้านไปทั่วสารทิศ

ไฟชีวิตในร่างของเขามีถึงสามดวง ในขณะที่จุดไฟสีหน้าก็แฝงด้วยความโมโห กำลังลองระเบิดค่ายกล สังหารฝ่าออกไป

และค่ายกลสำนักเจ็ดเนตรโลหิตก็ไม่มีผลกับคนคนนี้

ดังนั้นเจ้ากรมปราบพิฆาตจึงใช้แค่ค่ายกลยอดเขาลำดับห้า ร่วมกับลูกศิษย์อีกหลายร้อยคนเพิ่มความแข็งแกร่งให้ค่ายกล ถึงจะพอพันธนาการคนคนนี้ได้ แต่เห็นได้ชัดว่าพันธนาการได้ไม่นาน ตอนนี้แต่ละคนหน้าซีดเผือด เหมือนว่ามาถึงขีดจำกัดแล้ว

การมาถึงของสวี่ชิงประดุจอัสนีสวรรค์ฟาดผ่าลงมายังที่นี่ การลุกโหมของทะเลเพลิงทำให้ชายชราชุดดำไฟชีวิตสามดวงคนนั้นและลูกศิษย์สำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าคนนี้หน้าเปลี่ยนสีทันที

โดยเฉพาะฝ่ายหลังยิ่งใจกระตุกวูบ เขารู้จักสวี่ชิง และรู้ดีถึงความน่ากลัวของอีกฝ่าย

ตอนนี้หลังจากพบว่าสวี่ชิงเมินชายชรากลุ่มนกเขาราตรีคนนั้น พุ่งมาที่ข้างหลังตน ปราณกระบี่ที่แผ่ออกมาจากระบี่รอบๆ เด็กหนุ่มสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าคนนี้ก็ปั่นป่วนเล็กน้อย ยิ่งพูดออกมาอย่างร้อนรนว่า

“สวี่ชิง ข้าแค่ผ่านมาที่นี่ ลูกน้องของเจ้าโจมตีสังหารกลุ่มนกเขาราตรีเหมารวมข้าไปด้วย ข้าไม่มีความเกี่ยวพันกับกลุ่มนกเขาราตรี!”

แทบจะในขณะเดียวกับที่เด็กหนุ่มพูดขึ้น เจ้ากรมปราบบพิฆาตยอดเขาลำดับสามที่ล้อมเขา มุมปากมีรอยเลือด บนร่างมีบาดแผลก็เอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว

“เจ้ากรมสวี่ เมื่อครู่ที่ล้อมจับคนคนนี้กำลังเจรจากับหัวหน้าศัตรูคนนั้น เนื้อหาไม่ทราบ แต่ไม่ใช่แค่ผ่านมาแน่นอน!”

สวี่ชิงพยักหน้า ก้าวออกไปก้าวหนึ่ง ในยามสะบัดมือผู้บำเพ็ญกรมปราบพิฆาตที่ล้อมโจมตีเด็กหนุ่มสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าก็ถูกพลังอ่อนโยนแผ่มา พลังค่ายกลยิ่งสลายไปในทันที ส่วนเงาร่างของสวี่ชิงก้าวออกไปหาเด็กหนุ่มคนนั้น

เด็กหนุ่มสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าหน้าเปลี่ยนสี ในขณะที่ลมหายใจหอบถี่ก็เอ่ยออกไปด้วยเสียงดุดัน

“สวี่ชิง เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องคือศิษย์พี่ของข้า หากเจ้าทำร้ายข้า เขาจะต้องสังหารเจ้าอย่างแน่นอน ข้า…”

เสียงของเด็กหนุ่มคนนี้ยังสะท้อนก้อง สวี่ชิงก็ไปถึงข้างหน้าเขาในพริบตาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์แล้ว รวดเร็วยิ่งนัก เมินกระบี่บินของอีกฝ่าย

เด็กหนุ่มสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าไม่อาจมองได้ชัดและตั้งตัวได้เลย เสี้ยวพริบตาต่อมา มือขวาของสวี่ชิงก็คว้าของคนผู้นี้เอาไว้แล้วกดไปบนพื้นอย่างโหดเหี้ยม

เสียงโครมดังขึ้น พื้นดินแหลกละเอียด เด็กหนุ่มสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าคนนี้เลือดไหลออกทั้งเจ็ดทวาร ไฟชีวิตสามดวงในร่างดับไปเลยในทันทีสองดวง ในดวงตาฉายความหวาดกลัวออกมา กำลังจะดิ้นรนควบคุมกระบี่บินรอบๆ มา แต่ความเร็วของพวกมันช่างช้านัก

เสี้ยวพริบตาต่อมา สวี่ชิงก็เหวี่ยงเด็กหนุ่มที่ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาจากพื้นไปข้างหลัง

ทันใดนั้นเสียงกร๊อบๆ ก็ดังสะท้านในร่างของเด็กหนุ่มคนนี้ เสียงร้องโหยหวนน่าเวทนาดังออกมาจากปากของเขา ตำแหน่งทั่วทั้งร่างก็แตกละเอียดไปไม่น้อยในเสี้ยวขณะนี้ ขณะที่เลือดสดๆ ไหลทะลัก ไฟชีวิตดวงสุดท้ายในร่างก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป มอดดับทันที

บทที่ 243 สะบัดดาบสังหารผี 1

บทที่ 243 สะบัดดาบสังหารผี 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา