บทที่ 256 หันดาบใส่ฝ่ายตน
ดาบสวรรค์สีม่วงสะบั้น
ฟาดลงมาบนเกราะคุ้มกันตะเกียงแห่งชีวิตของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง ขณะที่เกิดระลอกคลื่น ดาบสวรรค์ของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็ฟันมาปะทะกับดาบสวรรค์ของสวี่ชิงด้วยเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างแตกสลาย
และร่างของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็ถอยกลับไปอย่างรวดเร็วจากแรงปะทะที่ซัดโหมมาจากการแตกสลายของดาบสวรรค์
แต่การลงมือของสวี่ชิงก็ยังไม่จบ ทั้งหมดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นแค่การบดบังบรรพจารย์สำนักวัชระที่อยู่ในเหล็กแหลมสีดำระเบิดพลังโจมตีออกมาในตอนนี้
แสงอัสนีหลายสายระเบิดออกมาจากดาบสวรรค์ สำแดงความเร็วขีดสุดออกมา
เห็นได้ชัดว่าสายฟ้าบนเหล็กแหลมก็ถูกควบคุมไว้ ลายก้นหอยหมุนคว้าง สิ่งนี้ทำให้ความเร็วของเหล็กแหลมสีดำ ปะทุขึ้นอีกครั้ง
บรรพจารย์สำนักวัชระรู้ความสำคัญของภารกิจดี โดยเฉพาะตอนที่เขาเห็นว่าเจ้าเงาในศึกนี้มีบทบาทสำคัญ ในใจก็กระสับกระส่ายมาก
เวลานี้เกิดกลัวว่าตนเองจะทำภารกิจไม่สำเร็จจึงบ้าระห่ำ ระเบิดอักขระอัสนีทั้งหมดบนตัวเหล็กแหลมอย่างไม่เสียดาย เปลี่ยนเป็นความเร็วและพลังที่น่าตกตะลึง ราวกับอัสนีสวรรค์ที่แท้จริง พุ่งเข้าชนเกราะคุ้มกันตะเกียงแห่งชีวิตขณะที่อวิ๋นเซิ่งจื่อถอย
เสียงโครมดังขึ้น เกราะคุ้มกันตะเกียงแห่งชีวิตก็น่าตกตะลึงเหลือเกิน ไม่แตกสลายและยังคงอยู่ แต่ด้วยความเร็วและการปะทะของเหล็กแหลมสีดำก็ถูกแทงทะลุเข้าไปรูหนึ่ง
พริบตาต่อมา เหล็กแหลมสีดำก็ถูกแรงสะท้อนของเกราะป้องกันดีดกลับ บรรพจารย์สำนักวัชระที่อยู่ด้านในก็เหมือนส่งเสียงร้องแหลมออกมาเลาๆ เห็นได้ชัดว่าการสะท้อนกลับครั้งนี้ทำให้เขาบาดเจ็บไม่น้อยเลย
ส่วนรูเล็กๆ ที่ถูกทะลวง ก็ฟื้นตัวกลับอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาก็เป็นเหมือนปกติ
“เปิดเกราะคุ้มกันตะเกียงแห่งชีวิตของข้าไม่ได้ สุดท้ายก็ไร้ประโยชน์”
เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องกระตุกยิ้มมุมปาก แต่ร่างกายก็ยังถอยหลังไปด้วยแรงปะทะ การลงมือก่อนหน้าของสวี่ชิงราวกับพายุคลั่ง ซัดเข้ามาเป็นระลอกอย่างรวดเร็ว
อันดับแรกคืออสูรสมุทรบรรพกาล จากนั้นก็ระเบิดเรือเวท ถัดมาคือดาบสวรรค์ แม้จะสั่นสะเทือนเกราะคุ้มกันตะเกียงแห่งชีวิตของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องไม่ได้ แต่แรงปะทะหลายครั้งนี้ พลานุภาพก็ไม่ธรรมดาเลย
เพราะมีเกราะคุ้มกันอยู่จึงยังไม่อาจสั่นคลอนตัวเขาจริงๆ ได้ เช่นเดียวกับที่เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องลงมือเมื่อครู่ ก็ไม่อาจสั่นคลอนสวี่ชิงได้ ทำได้เพียงทำลายเกราะคุ้มกันของเขาทิ้ง
แต่รวมๆ แล้ว ทางเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็เหมือนจะดีกว่าเล็กน้อย พลังวิเศษที่เขาครอบครองมีเยอะกว่ามาก ขณะที่ถอยหลัง ดวงตาเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็เปล่งประกาย เขามองจุดอ่อนของสวี่ชิงออกแล้ว
“วิชาของเจ้ามันน้อยเกินไป ทั้งยังขาดพลังวิเศษที่สำแดงพลานุภาพได้ด้วย” เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องสายตาดุจอัสนี นับตั้งแต่สู้กันมา สวี่ชิงมีพลังระดับเดียวกับเขามาโดยตลอด ในที่สุดเขาก็เห็นถึงจุดอ่อนของสวี่ชิงเสียที
พอได้ยินคำพูดอวิ๋นเซิ่งจื่อ สายตาสวี่ชิงก็เย็นเยียบ ไม่พูดอะไรเลยสักคำ
และเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็หัวเราะยืดยาว สองมือทำปาง เขาเตรียมจะพุ่งเป้าไปที่จุดอ่อนของสวี่ชิงเพื่อสังหารให้จบสิ้น เมื่อจะสำแดงพลังวิเศษ แต่จู่ๆ เขาก็สีหน้าเคร่งขรึม
เกราะคุ้มกันตะเกียงแห่งชีวิตด้านนอกของเขาเวลานี้หม่นลง ขณะเดียวกันก็มีเกิดระลอกคลื่นด้านนอก โดยเฉพาะตรงจุดถูกเหล็กแหลมสีดำแทงทะลุและฟื้นฟูแล้วมีความรู้สึกกัดกร่อนวูบหนึ่งปรากฏขึ้นมาในใจอวิ๋นเซิ่งจื่อ
ทำให้อวิ๋นเซิ่งจื่อคิดถึงตอนที่เขาเคยอยู่ในเจ็ดเนตรโลหิต พิษที่เขาสัมผัสได้ในสนามรบของสวี่ชิงกับซือหม่าหลิง
“พิษก็แค่วิชาเล็กๆ ยากจะย่างกรายสู่มหามรรคา!”
เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องแค่นเสียงเย็นชา ร่างกายเขามีคุณสมบัติพิเศษมาตั้งแต่เด็ก เมินเฉยพิษทั่วไปไปได้เลย เพียงโบกมือ ตะเกียงแห่งชีวิตเขาเปล่งประกายเจิดจ้า ทำให้การกัดกร่อนบนเกราะคุ้มกันหายวับเหมือนถูกชะล้างไปในพริบตา
เสร็จสิ้น เขาก็ตั้งท่าจะลงมือ แต่พริบตาต่อมาหน้าก็เปลี่ยนสีไปทันควัน
ความเจ็บปวดที่รุนแรงวูบหนึ่งแล่นไปทั่วร่าง ผิวกายดำคล้ำขึ้น ไอพลังประหลาดที่เข้มข้นกว่าลุกลามอยู่ในร่างกาย ทำให้ไฟชีวิตของเขาสั่นไหว
“นี่มัน!!”
เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องหายใจหอบถี่ จิตวิญญาณสั่นสะท้าน เขาสัมผัสได้ว่าร่างกายติดพิษเสียแล้ว พิษนี้รุนแรงมากขนาดทำให้เบื้องหน้าเขาพร่ามัว ความรู้สึกวิกฤตก็ยิ่งแผ่ซ่านทั่วร่าง
พิษนี้ก็คือแมลงสีดำ
อันที่จริงแมลงสีดำก็จับจ้องอยู่กับเกราะคุ้มกันตะเกียงแห่งชีวิตของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องเฝ้ารอโอกาสอยู่ตลอด แต่ไม่สามารถทะลวงเข้าไปได้
การที่บรรพจารย์สำนักวัชระแทงทะลุเข้าไปได้มอบโอกาสนี้ให้แก่พวกมัน พริบตาเมื่อครู่ แมลงสีดำจำนวนมากก็ลอดผ่านรูเล็กนั่นเข้าไปแล้ว
ความจริงที่เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องพูดนั้นไม่ผิด สวี่ชิงมีพลังวิเศษที่พลานุภาพแข็งแกร่งอยู่น้อยก็จริง แต่ที่ผิดนั่นก็คือเขามีพิษอยู่!
พริบตาที่เห็นว่าพิษแมลงสีดำปะทุ จิตสังหารในดวงตาสวี่ชิงก็รุนแรงขึ้น พุ่งพรวดพราดไปหาเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง
เขาต่อสู้มาจนถึงปัจจุบัน ที่รอก็คือโอกาสนี้ เมื่อเห็นว่าเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องติดพิษ เขาก็ระเบิดความเร็วสุดกำลัง เพียงพริบตาที่เข้าประชิดก็ซัดออกไปหนึ่งหมัด



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา