เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 300

บทที่ 300 เสามรรคาสวรรค์พ้นพันธะ

ตอนที่แสงโพล้เพล้ยามเย็นหายไป เรือเวทของสวี่ชิงก็กลับมาถึงท่าจอดเรือ แทบจะตอนที่กลับมา เขาก็ได้รับสื่อเสียงจากนายกอง

“อาชิงน้อย นัดพบครั้งนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง มาๆๆ ข้าอยู่ที่สระน้ำเซียนที่เจ้าทำเรื่องลดราคาให้ข้าร้านนั้น เจ้ามาแช่หน่อยเถอะ มาเล่าให้ศิษย์พี่ฟัง ศิษย์พี่มีประสบการณ์มากมายที่ชี้แนะเจ้าได้นะ”

“ไว้วันหลังเถิด” สวี่ชิงตอบกลับ ขณะที่กำลังจะจบการสื่อเสียง นายกองก็กระแอมไอ

“อาจารย์ก็อยู่ที่นี่ด้วย…”

“…” สวี่ชิงเงียบนิ่ง

ครู่ต่อมา ในสระน้ำเซียนของสวีเสี่ยวฮุ่ย ในบ่อลับที่สามารถก้มมองบ่อน้ำใหญ่เบื้องล่างได้ สวี่ชิงกับนายกองรวมถึงนายท่านเจ็ด ศิษย์อาจารย์สามคนแช่น้ำร้อนอยู่ด้วยกัน

สวี่ชิงมองคนทั้งสามด้วยสีหน้าประหลาด

นายท่านเจ็ดกระแอมไอ จ้องนายกอง

“ก่อนหน้านี้อาจารย์กำลังนั่งสมาธิ เจ้าก็เอาแต่อ้อนให้ข้ามาด้วย แล้วนี่มีเรื่องอะไรกันแน่!”

นายกองกะพริบตา

ผู้นายท่านเจ็ดแค่นเสียง นายกองจึงถอนหายใจ มองสวี่ชิงด้วยสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ

“อาชิงน้อย เจ้ากับจอมเซียนจื่อเสวียนออกไปครั้งนี้ เอ่อ พัฒนาไปถึงขั้นใดแล้ว”

นายท่านเจ็ดสีหน้าปกติ ทำท่าเหมือนไม่ใคร่จะใส่ใจนัก

สวี่ชิงมองอาจารย์ตนเองเงียบๆ ครู่หนึ่ง หลังจากคิดๆ ก็ตอบกลับว่า

“ผู้อาวุโสจื่อเสวียนสอนข้าเป่าขลุ่ยขอรับ”

นายท่านเจ็ดหูผึ่ง

นายกองรีบร้อนถาม

“จากนั้นล่ะ”

“จากนั้นก็ไปกราบไหว้สหายเก่าของนาง อาจารย์ของชายชราสำนักโลกันต์ทมิฬในภูเขาล้ำบารมีพ้นเคราะห์ภัยคนนั้น” สวี่ชิงไม่มีปิดบัง เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอดทาง

ในความเป็นจริงก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง

“แค่นี้?” นายกองทำหน้าไม่เชื่อ

“ขอรับ ตอนกลับมา ผู้อาวุโสจื่อเสวียนมอบขลุ่ยให้ข้าด้วย” สวี่ชิงพยักหน้า

“ขลุ่ยอะไร” นายกองอยากรู้อยากเห็น

“เหมือนชื่อว่าขลุ่ยหลิวอะไรสักอย่างขอรับ” สวี่ชิงตอบกลับ

นายกองยังไม่ทันอ้าปาก นายท่านเจ็ดก็สูดปาก

“ขลุ่ยวิญญาณจันทร์กิ่งหลิว”

สวี่ชิงไม่คุ้นกับชื่อนี้ จึงล้วงขลุ่ยออกมา

ตอนที่เห็นขลุ่ยเลานี้ สีหน้าผู้นายท่านเจ็ดก็ใจลอย ครู่ต่อมาก็ลุกขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ถลึงตามองนายกอง

“หลังจากนี้ตอนที่อาจารย์นั่งสมาธิ ถ้ายังเข้ามารบกวนอีก ข้าจะหักขาเจ้าทิ้งเสีย!”

นายกองเบิกตากว้าง เผยความน้อยเนื้อต่ำใจรุนแรงออกมา ประมาณว่าคนแก่อย่างท่านทำไมไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ท่านแท้ๆ ที่เรียกข้ามา แล้วยังให้ข้าเรียกสวี่ชิงมาด้วย

นายท่านเจ็ดกระแอม

“เอาล่ะ เรื่องที่เจ้าพูดไว้ครั้งที่แล้ว อนุมัติ”

พูดจบ นายท่านเจ็ดก็สวมเสื้อผ้าพลางหันมาพูดกับสวี่ชิงว่า

“เจ้าสี่ ตอนนี้เจ้าไฟชีวิตสี่ดวงแล้ว ใกล้ได้จังหวะพอดี รอให้ข้าจัดการธุระช่วงนี้เสร็จ ข้าจะพาเจ้าออกไป”

นายท่านเจ็ดมือไพล่หลังเดินออกไป

จนกระทั่งนายท่านเจ็ดเดินไปแล้ว สีหน้านายกองก็กลับมาเป็นปกติในพริบตา ไม่มีความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่เลยแม้แต่น้อย จากนั้นก็ยิ้มอย่างภูมิใจให้สวี่ชิง

“เรียนรู้ไว้นะศิษย์น้องเล็ก รับมือกับตาแก่ต้องทำเช่นนี้ ตาแก่นั่นถึงจะหน้าดำปากแข็งแต่ใจอ่อน ดังนั้นเจ้าก็ลองน้อยอกน้อยใจบ้าง เขาก็ผ่อนปรนให้แล้ว

แต่ว่าตาแก่คราวนี้ทั้งละอายทั้งขุ่นเคืองชัดๆ จากที่ข้าเห็นเขารู้จักชื่อขลุ่ย แปดสิบเก้าสิบส่วนเป็นสิ่งที่เขามอบให้ไปเมื่อตอนนั้นแน่

สวี่ชิงกะพริบตา คิดถึงที่จอมเซียนจื่อเสวียนพูดไว้ว่าในอดีตมีคนที่ส่งขลุ่ยให้นางมากมาย จนลืมไปแล้วว่าเป็นขลุ่ยที่ใครมอบมาให้ เมื่อนึกคิดถึงท่าทีของอาจารย์เมื่อครู่ เขาก็รู้สึกว่า…เรื่องนี้น่าจะเป็นไปได้

หลังจากแช่ต่ออีกครู่หนึ่ง สวี่ชิงเองก็เตรียมจะลุกออกไปเช่นนี้ ก่อนที่จะออกไปนายกองก็พิงตัวอย่างเกียจคร้านอยู่ตรงนั้น ส่งเสียงสบายใจออกมา

“อาชิงน้อย คราวหน้าเจ้าให้แผ่นหยกข้าอีกสักชิ้นสิ ข้าถามดูแล้วที่นี่ไม่มีส่วนลดยี่สิบส่วนให้ นั่นเป็นบริการที่ให้แขกพิเศษที่มีอยู่น้อยมาก เจ้านี่ใช้ได้เลยนะ”

“แล้วของท่านล่ะ” สวี่ชิงถามขึ้นมา

“ข้าให้อู๋เจี้ยนอูไปแล้ว” นายกองตอบเสียงทุ้ม

“ข้ามีเรื่องจะให้อู๋เจี้ยนอูช่วย อีกเดี๋ยวเจ้าก็รู้ ถ้าข้าทำสำเร็จได้จะยอดเยี่ยมมาก ถึงตอนนั้นก็อาจจะต้องออกไปซ่อนตัวเสียหน่อย แล้วก็ยังต้องให้เจ้าคอยช่วยข้าพูดด้วย”

สวี่ชิงไม่รู้สึกแปลกใจ หลายครั้งก่อนหน้านี้ที่นายกองกับอู๋เจี้ยนอูมาที่นี่ เขาก็รู้จากสายของเขานานแล้ว ตอนนี้เมื่อได้ยินก็พยักหน้า ส่วนที่นายกองบอกว่าต้องออกไปซ่อนตัว สวี่ชิงรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ เขาพอจะเดาได้ว่าเป้าหมายครั้งนี้ของนายกองอยู่ตรงที่ใด

‘พนันได้เลยว่าต้องเป็นฟันซี่นั้นแน่ๆ’ สวี่ชิงมองนายกอง ออกมาจากสระน้ำเซียน ตอนกลับมาถึงท่าจอดเรือก็ดึกแล้ว หลังจากนั่งลงขัดสมาธิ เขาก็หลับตาเริ่มนั่งสมาธิ

ช่วงนี้ที่อยู่ด้านนอก พอมีจอมเซียนจื่อเสวียนอยู่ด้วย เวลาเขานั่งสมาธิก็ไม่สามารถดิ่งสมาธิได้ทั้งหมด เสียเวลาไปส่วนหนึ่ง ดังนั้นสวี่ชิงจึงตัดสินใจว่าหลายวันจากนี้ จะฝึกบำเพ็ญเอาเวลาที่เสียไปก่อนหน้านี้กลับคืนมา

เวลาก็ผ่านไปสามวันเช่นนี้

กลางดึกของวันที่สาม สวี่ชิงที่นั่งสมาธิอยู่จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้น ดวงตาเผยแววเฝ้ารอ เขาสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวประหลาดในถุงเก็บของ

ออกมาจากขวดใส่แมลงสีดำที่ป้อนวุ้นเซียนเอาไว้

สวี่ชิงล้วงขวดออกมา สัมผัสถึงมันก่อนครู่หนึ่ง พอยืนยันว่าไม่มีอุปสรรคใดจึงเปิดมันออก

ในขวดไม่มีอะไรอยู่เลย สวี่ชิงมองไปรอบๆ ก็สัมผัสอะไรไม่ได้เช่นกัน

แต่ยังมีความรู้สึกอันตรายที่รุนแรงรางๆ แผ่ซ่านอยู่รอบตัวเขา

สวี่ชิงสีหน้าปกติ ยกมือซ้ายขึ้น กรีดลงไปที่ฝ่ามือขวา พริบตาที่เลือดหลั่งออกมา ปากแผลก็สมานกันในพริบตา แต่เลือดสดส่วนนี้ที่ไหลออกมาก็เพียงพอแล้ว

พริบตาต่อมา อากาศไหลเวียน ตัวตนที่มองไม่เห็นยิ่งไปกว่านั้นยังจับสัมผัสได้ยากยิ่งกลุ่มหนึ่ง ก็พุ่งจากรอบด้านมายังเลือดสดกลางฝ่ามือของสวี่ชิงอย่างรวดเร็ว เลือดสดในฝ่ามือเขาก็ลดลงอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในที่สุดก็หายไปจนหมดภายใต้การสังเกตของสวี่ชิง

จากการสลายหายไปของเลือด จากสัมผัสของสวี่ชิง ในที่สุดเขาก็จับสัมผัสตัวตนของแมลงสีดำได้แล้ว

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา