บทที่ 35 เกิดริ้วรอยเพราะลม
สวี่ชิงขมวดคิ้ว หันหลังไปมอง
แมงกะพรุนตัวเล็กฝูงใหญ่ จำนวนนับร้อยตัว เข้ามาจากปากทางเข้าหุบเขาอย่างรวดเร็ว พุ่งไปยังองครักษ์และเด็กหนุ่มสาวเหล่านั้น
คนกลุ่มนี้หน้าเปลี่ยนสี ทำการต่อต้านทันที โดยเฉพาะองครักษ์เหล่านั้นที่เข้าขัดขวางสุดชีวิต
และเด็กหนุ่มอายุมากกว่าหน่อยที่สวี่ชิงจับตามองคนนั้น ระลอกคลื่นพลังวิญญาณระดับรวมปราณขั้นเจ็ดแผ่กระจาย เมื่อลงมือก็เปล่งแสงประกายรุ้งพร่างพรายไปพื้นที่หนึ่ง
แต่แมงกะพรุนมีเยอะเกินไป อีกทั้งแมงกะพรุนพวกนี้มีความสามารถในการต้านทานวิชาเวท เมื่อโดนตัวพวกมัน พลังโจมตีจะถูกลดทอนลงไปมาก
มิหนำซ้ำพวกมันยังรวดเร็วเป็นอย่างมาก โจมตีฉับไว ร่วมมือกันคล่องแคล่ว ทำให้ในหุบเขาแห่งนี้เพียงเสี้ยวพริบตาก็บาดเจ็บล้มตายกันไปเจ็ดแปดคนแล้ว
เด็กหนุ่มที่แต่เดิมเสื้อผ้าหรูหรา ตอนนี้กลับขาดวิ่น แววตาฉายความสิ้นหวัง เสี้ยวพริบตาที่แมงกะพรุนตัวหนึ่งโถมมา เขาก็ถอยหนีล้มลุกคลุกคลาน ปากก็ร้องขอความช่วยเหลือสหายสนิทระดับรวมปราณขั้นเจ็ดคนนั้น
“นายน้อยไป่ ช่วยข้าด้วย!”
จากคำร้องขอของเขา แสงพรายรุ้งสายหนึ่งก็พุ่งมาขวางอยู่ข้างหน้าเขา สะกัดกั้นแมงกะพรุนเอาไว้ ทำให้เด็กหนุ่มคนนี้หนีช่วงวิกฤตอันตรายมาอย่างอกสั่นขวัญแขวน
สวี่ชิงตรงนี้แม้จะอยู่ห่างค่อนข้างไกล แต่ก็ยังตกเป็นเป้าของแมงกะพรุนจำนวนหนึ่งจนได้
มีสามตัวที่พุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว กำลังจะพุ่งทะลุร่างของเขาตามปกติ
เสี้ยวพริบตาต่อมา ประกายเย็นเยียบในดวงตาสวี่ชิงฉายวาบ มือขวายกขึ้นแล้วชกออกไปทันทีหมัดหนึ่ง
เสียงตูมดังขึ้น หมัดของเขาซัดไปที่ร่างของแมงกะพรุนตัวหนึ่ง แมงกะพรุนตัวนี้สั่นสะท้านไปทั้งร่าง ไม่อาจแบกรับพลังเอาไว้ได้ ก็แตกสลายเป็นส่วนๆ
สวี่ชิงไม่หยุดนิ่ง พริบตาต่อมากริชก็ปรากฏขึ้นที่มือซ้าย เพียงไหววูบก็ประชิดแมงกะพรุนที่เหลืออีกสองตัว
ความเร็วและความคล่องแคล่วของร่างกายเขาเหนือกว่าแมงกะพรุน เสี้ยวพริบตาหลังจากที่เขาพุ่งทะลุผ่าน ร่างของแมงกะพรุนสองตัวนั้นก็กลายเป็นสองซีกทันที
ภาพฉากนี้ทำให้เด็กหนุ่มสาวที่สู้กับแมงกะพรุนเหล่านั้นเห็นเข้า ขยับมายังเขาตรงนี้ตามสัญชาตญาณด้วยจิตใจที่สั่นสะท้าน
และการสังหารแมงกะพรุนสามตัวติดๆ ก็ทำให้แมงกะพรุนตัวอื่นๆ ลืมดวงตาแห่งมารขึ้น ถาโถมมาหาสวี่ชิงตรงนี้ทันที
ครั้งนี้มาสิบกว่าตัว
สวี่ชิงสีหน้าเป็นปกติ ไม่ถอยหนีแต่กลับพุ่งตัวออกไป แปรเปลี่ยนเป็นรอยเงาเข้าประชิดไปอย่างเร็วรี่ กริชในมือฉายประกายวาววับแสบตา ทุกที่ที่วาดผ่านมีหัวแมงกะพรุนแต่ละตัวๆ หลุดร่วงส่งเสียงดังเผละๆ
และไอพลังประหลาดปริมาณมหาศาลก็แผ่ออกมาจากการตายของพวกมัน ทำให้ต้นไม้ใบหญ้าในหุบเขากลายเป็นสีดำทันที ซึ่งรวมไปถึงห้องยาของสวี่ชิงด้วย กระทั่งองครักษ์ที่บาดเจ็บเหล่านั้นก็ถูกไอพลังประหลาดปนเปื้อนไปด้วย
มองดูหุบเขาของตัวเองเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้ จิตสังหารในดวงตาสวี่ชิงก็เข้มข้นขึ้น
ร่างพุ่งออกไปอีกครั้ง ครั้งนี้เขาเร็วยิ่งกว่าเดิม ทุกที่ที่ผ่าน กริชสะบัด แมงกะพรุนต่างแหลกสลาย แต่ไม่นานเขาก็ขมวดคิ้วแน่น กริชในมือเมื่ออยู่ภายใต้การกัดกินจากไอพลังประหลาดก็ค่อยๆ ทนกับการโจมตีไม่ไหว เริ่มแตกร้าว
สวี่ชิงไม่มีเวลาได้ปวดใจ เพียงสะบัดเหล็กแหลมก็มาอยู่ในมือ กรีดแมงกะพรุนหลายตัวอย่างต่อเนื่อง ระหว่างนั้นก็ซัดผงพิษออกมาด้วย
แม้ระดับการต้านพิษของร่างกายแมงกะพรุนพวกนี้จะสูง ผงพิษที่ฟุ้งตลบอวลอยู่รอบๆ ยากจะส่งผลกับพวกมันได้ในทันทีทันใด แต่สวี่ชิงก็ไม่ยอมแพ้ เพราะพิษอยู่ที่นี่ ผลของมันไม่ใช่แค่ฆ่าล้างสังหารเท่านั้น แค่ยังมีประโยชน์ในการลบล้างกลิ่นอีกด้วย
ส่วนในด้านอาวุธ ทางด้านสวี่ชิงก็มีส่วนที่บกพร่องอยู่ แรงในการแทงทะลุจากเหล็กแหลมของเขาแม้จะแข็งแกร่ง แต่การตัดผ่าสู้กริชไม่ได้ ในตอนนี้เอง ข้างหลังสวี่ชิงก็มีเสียงตะโกนทุ้มต่ำดังลอยมา
“สหาย ใช้กระบี่ของข้า!”
กระบี่ที่แผ่ประกายวาววับเล่มหนึ่งโยนมาจากข้างหลังท่ามกลางเสียงพูด เขาพลิกมือรับมันไว้ หางตาเหลือบไปเห็นคนที่มอบกระบี่ให้ตน ก็คือเด็กหนุ่มที่ถูกเรียกว่านายน้อยไป่นั่นเอง
สวี่ชิงไม่พูดอะไร เมื่อถือกระบี่เอาไว้ก็สัมผัสได้ถึงความไม่ธรรมดาของมันทันที
เพียงแค่ฟันออกไป ประกายเย็นเยียบคมกริบก็แผ่ออกมาจากกระบี่ทันที แม้สวี่ชิงจะใช้กระบี่ไม่เป็น แต่อาศัยความคมของมัน ก็ยังสามารถตัดหัวแมงกะพรุนได้เจ็ดแปดตัวในเวลาสั้นๆ
จากซากร่างแมงกะพรุนบนพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ ร่างของสวี่ชิงก็อาบย้อมไปด้วยเลือดสีน้ำเงินที่สาดกระจายออกมาจากร่างของพวกมัน ส่วนองครักษ์สามคนและคนหนุ่มสาวที่เหลือรอดเหล่านั้น ตอนนี้ก็มาอยู่ข้างหลังสวี่ชิงหมดแล้ว มองภาพฉากนี้ ในใจของทุกคนล้วนตื่นตะลึง ในดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจและไม่อยากเชื่อ
“เกินไป…แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“เขาเป็นพวกฝึกกายา นี่เป็นฝึกกายาขั้นที่เท่าไร หรือจะถึงขั้นบริบูรณ์แล้ว!!”
“จากระลอกคลื่นพลังวิญญาณไม่เหมือนนะ เหมือนจะเป็นขั้นห้า ขั้นหก”
“พลังบำเพ็ญไม่สำคัญ ที่สำคัญคือความเหี้ยมโหดของคนคนนี้” องครักษ์และคนหนุ่มสาวเหล่านั้นตอนนี้จิตใจสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ตื่นตะลึงกับการลงมือของสวี่ชิง
ต่อให้เป็นนายน้อยไป่ก็ต้องอึ้งตะลึงเหมือนกัน ตอนนี้เด็กสาวในกลุ่มคนนั้นหัวใจเต้นเร็วขึ้น สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของสวี่ชิงก็เก็บแผนการทุกอย่างลงไป
นางสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เหมือนกับคนที่ถูกเรียกว่าสัตว์ประหลาดเหล่านั้นของตระกูลจากร่างของสวี่ชิง
สัตว์ประหลาดในตระกูลเหล่านั้น ทุกคนล้วนแต่เป็นบุคคลที่ฆ่าสังหารมามากมาย ทุกครั้งที่นางได้เห็นล้วนกลัวไปโดยสัญชาตญาณ ตอนนี้เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าคนนี้ทำให้นางรู้สึกเฉกเช่นเดียวกันทุกประการ
นางไม่อยากหาเรื่องคนแบบนี้
โดยเฉพาะตอนนี้ภารกิจของตัวเองก็เสร็จสิ้นแล้ว ล่อแมงกะพรุนมาได้จำนวนมาก คนในลัทธิได้สิ่งที่อยากได้ที่รังแมงกะพรุนในป่าส่วนลึกราบรื่นหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับนางแล้ว
ในเมื่ออันตรายครั้งนี้ก็อยู่เหนือความคาดหมายของนาง ดังนั้นตอนนี้มือขวาจึงสอดเข้าไปในอกเสื้อ หยิบเอาแผ่นหยกแผ่นหนึ่งออกมา นั่นเป็นของวิเศษอักขระ ประโยชน์คือเอาไว้ส่งข้าม
นี่คือหลักประกันของนาง
และในขณะที่นางลังเลอยู่หน่อยๆ ว่าจะบีบให้แตกดีหรือไม่ ที่ปากทางเข้าหุบเขาก็มีเสียงดังบึ้มขึ้น แมงกะพรุนอีกหลายสิบตัวโผล่ออกมาจากตรงนั้น พุ่งมาเป็นจำนวนมหาศาล
ภาพฉากนี้ทำให้นางไม่ลังเลอีกต่อไป บีบแผ่นหยกส่งข้ามในมือแตก ร่างหายไปในพริบตา
การจากไปของนางทำให้สหายคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ ต่างมีสีหน้าซับซ้อน
สวี่ชิงไม่ได้สังเกตเรื่องพวกนี้ เขาจ้องแมงกะพรุนที่ถาโถมเข้ามาพวกนั้น คำนวณเวลา ยืนอยู่ตรงนั้น เลือดลมในกายพลันปะทุขึ้น อ้าปากส่งเสียงคำรามออกไปทางแมงกะพรุนที่ใกล้เข้ามา
และจากการขยายใหญ่ขึ้นของเลือดลมและการโคจรของเคล็ดคีรีสมุทรของเขา ก็พลันมีเงาขุยปรากฏขึ้นข้างหลัง ส่งเสียงคำรามออกมาเหมือนกับเขา
เงาขุยดุดัน เหี้ยมเกรียม ที่หัวมีเขาเดียว ทั้งร่างดำสนิท เหมือนปีนออกมาจากยมโลก ในตามีประกายแสงสีม่วงกะพริบวูบวาบอยู่รางๆ ดูแล้วแปลกประหลาดน่าขนลุก
การคำรามของมันไร้เสียง แต่เมื่อรวมกับการคำรามของสวี่ชิงแล้ว คล้ายว่ามีพลังสยบอันน่าหวาดหวั่น ทำให้แมงกะพรุนที่ถาโถมมาเหล่านั้นต่างหยุดชะงัก ดวงตาทุกคู่ลืมตื่นขึ้นจ้องสวี่ชิงเขม็ง
ที่ถูกสยบไม่ใช่แค่พวกมันเท่านั้น แต่ยังมีคนหนุ่มสาวที่อยู่ข้างหลังสวี่ชิงเหล่านั้นด้วย ทุกคนต่างหน้าซีดเผือดไปในทันที มองเงาข้างหลังสวี่ชิง ดวงตาของพวกเขาต่างหดเล็กลง
“เลือดลมรวมเป็นเงา!!”
“นี่…นี่คือ…นี่คือปรากฏการณ์ที่ฝึกกายาจนถึงระดับบริบูรณ์แล้วถึงจะปรากฏขึ้น!!”
ความตื่นตะลึงหวาดกลัวพุ่งพล่านในใจพวกเขาอย่างรุนแรง
แมงกะพรุนพวกนั้นสัมผัสถึงความเหี้ยมเกรียมของสวี่ชิงได้อย่างชัดเจน รวมกับพิษของเขาตอนนี้ออกฤทธิ์แล้ว ทำให้กลิ่นของเลือดตะขาบวงรอบบนร่างของคนทั้งหลายในหุบเขาสลายไป
ดังนั้นหลังจากที่ประจันหน้ากันอย่างตึงเครียด แมงกะพรุนพวกนั้นก็ถอยไปข้างหลังช้าๆ แล้วจากไปอย่างรวดเร็วตามปากทางเข้า
มองเงาแมงกะพรุนที่จากไป ในใจของสวี่ชิงก็โล่ง หมุนตัวกลับมามองกลุ่มเด็กหนุ่มสาวอย่างเย็นชา

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา