บทที่ 351 ราวผู้จากไปย้อนคืนมา
ตอนนี้ที่ข้างเสามรรคาสวรรค์พ้นพันธะ นายกองแทรกตัวไปในกลุ่มคน คิดอยากจะหาตำแหน่งที่ดีกว่าไปสัมผัสรับรู้
สามวันก่อนหน้านี้สัมผัสรับรู้ล้มเหลว เขารู้สึกว่าน่าจะเป็นเพราะตำแหน่งไม่ถูกฮวงจุ้ย จึงคิดจะเข้าใกล้อีกนิด
แต่ยังไม่ทันจะหาได้เจอ นายกองก็พลันมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างหนึ่งขึ้นมารางๆ
“ลางสังหรณ์ของข้าแม่นมาก ไม่ชอบมาพากล…” นายกองพึมพำ นึกย้อนเรื่องที่ตัวเองก่อเอาไว้ในช่วงนี้อย่างละเอียด
“ตาที่ข้าทิ้งไว้ที่เขาจักรพรรดิภูตถูกพบแล้วหรือ
“สายลับของข้าที่สำนักเซียนล้ำบารมีความแตกแล้วหรือ
“ร่างแยกที่แอบวางไว้ในเขาไตรวิญญาณสะกดมรรคาถูกพบแล้วหรือ
“หรือคนที่ข้าซื้อตัวในลัทธินอกวิถีจะหักหลัง
“วิหคเพลิงสวรรค์รู้ว่าข้าจะไปขโมยบ้านของเขาหรือ
“ศัตรูในแดนต้องห้ามมรณะตื่นแล้วหรือ” คิดไปคิดมา จู่ๆ นายกองก็พลันนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
“จอมเซียนจื่อเสวียนตอบจดหมายกลับมาแล้วหรือ”
นายกองปวดหัวนิดๆ ไม่รู้ว่าตัวเองมีปัญหาที่จุดใด แต่ลางสังหรณ์ที่หวาดหวั่นพรั่นพรึงประเภทนี้รุนแรงนัก เขาจึงไปจากกลุ่มคนอย่างระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งอำพรางกลิ่นอาย แปลงโฉม แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงไปจากละแวกใกล้ๆ เสามรรคาสวรรค์พ้นพันธะ หากระโจมไกลๆ ที่ชายขอบเมือง ฝืนทนความเจ็บปวดจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเช่าอยู่ สัมผัสรับรู้อย่างระมัดระวังที่นั่น
แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าไม่เหมาะ สองมือจึงประสานปางมือ สำแดงเคล็ดวิชาลับบางอย่าง ทำให้ตัวเองแอบซ่อนได้ลับขึ้นไปอีก
ไม่นานนัก สวี่ชิงมาแล้ว หาละแวกใกล้ๆ เสามรรคาสวรรค์พ้นพันธะรอบหนึ่งแต่ก็หาร่องรอยของนายกองไม่เจอ
ส่วนการค้นหาของเจ้าเงาก็ต้องอยู่ในระยะประมาณหนึ่งถึงจะได้ ที่นี่กว้างใหญ่นัก สวี่ชิงนอกจากจะวนรอบทั้งเมืองแล้ว ไม่เช่นนั้นไม่มีทางค้นหาได้อย่างแม่นยำแน่นอน
หาไม่สำเร็จ สวี่ชิงหมุนตัวจากไป
ไม่นานก็ผ่านไปหลายวัน นายกองเห็นทุกอย่างเป็นปกติจึงค่อยๆ ผ่อนคลาย แม้การแอบซ่อนอำพรางจะยังคงอยู่ แต่ทั้งกายใจส่วนใหญ่แล้วล้วนจมอยู่กับการสัมผัสรับรู้
แต่ว่าสวี่ชิงไม่ยอมแพ้ ในหลายวันนี้เขานอกจากจะไปสัมผัสเจตจำนงต่อสู้ที่เสามรรคาสวรรค์พ้นพันธะทำให้ตราประทับวิญญาณศึกในทะเลความรู้สึกเพิ่มขึ้นแล้ว เวลาที่เหลือก็ไปเตร็ดเตร่ในเมืองที่เกิดจากการรวมตัวของกระโจมนับไม่ถ้วน
เนื่องจากที่นี่ผู้บำเพ็ญมากมาย จึงมีย่านการค้าเล็กใหญ่มากมาย ของที่ขายในนั้นก็มีมากมายหลากหลาย ส่วนมากล้วนน่าประหลาดอัศจรรย์
สวี่ชิงหลายวันนี้ในขณะที่ตามหาร่องรอยของนายกองก็ได้เห็นอะไรมากมาย และซื้อสมุนไพรพิษจำนวนหนึ่งด้วย
แต่ว่าทุกครั้งที่เขาออกไปข้างนอกล้วนแปลงโฉม ทำการอำพรางบางอย่าง
ในช่วงหลายวันมานี้เขาได้รับการท้าประลองจากลูกศิษย์อัจฉริยะจากสำนักต่างๆ ที่มาจากมณฑลรับเสด็จราชันเจ็ดแปดฉบับแล้ว
การมาเยือนของเขามีหลายคนที่รู้แล้ว และในฐานะที่เป็นคนที่ได้รับสิทธิพิเศษในฐานะผู้สืบมรรคาของพันธมิตรแปดสำนัก ชื่อเสียงของเขาก็เล่าลือไปทั่วทุกสำนัก
จะอย่างไรก็มีตะเกียงแห่งชีวิตสองดวงและเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิ อีกทั้งยังสังหารเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง ทุกอย่างนี้ทำให้น้ำหนักของสวี่ชิงในใจลูกศิษย์ยุคนี้จากสำนักต่างๆ ในมณฑลรับเสด็จราชันไม่ด้อยเลย
ตอนนี้การทดสอบผู้ครองกระบี่จะเริ่มขึ้นแล้ว ผู้ที่คิดว่าความสามารถแท้จริงพอใช้ได้ส่วนมากก็คิดอยากเผยรัศมีอำนาจสยบอัจฉริยะจากสำนักต่างๆ ที่นี่ ใช้เรื่องนี้ดึงดูดสายตาของโถงครองกระบี่ ทำให้ตัวเองได้รับการบวกคะแนนเพิ่ม
ดังนั้นไม่ใช่แค่สวี่ชิงถูกท้าประลอง อัจฉริยะคนอื่นในพันธมิตรก็ต่างถูกท้าประลองอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สำนักใหญ่อื่นๆ ก็เช่นกัน ทุกวันล้วนมีคนลงมือแลกเปลี่ยนฝีมือ
ในนั้นมีเพียงคนเดียว ที่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครกล้าท้าประลอง คนคนนี้ก็คือจางซืออวิ้น ผู้สืบมรรคาของสำนักเซียนล้ำบารมี และได้รับการขนานนามว่าเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของยุคนี้ในมณฑลรับเสด็จราชัน
โลกภายนอกลือกันว่าเขามีกำลังรบหกวังสวรรค์ อายุเท่านี้ก็มาถึงระดับนี้แล้ว ทำให้ลูกศิษย์สำนักต่างๆ ล้วนไม่กล้าไปท้าประลอง ต่างยำเกรง
และเขาก็ไม่ได้อยู่ในเมืองมรรคาสวรรค์ แต่ไปในจุดลึกของที่ราบน้ำแข็ง ว่ากันว่าไปอาศัยสภาพแวดล้อมของที่นั่นฝึกฝนวิชาเวทของตน
เทียบกับเขาแล้ว ทางสวี่ชิงทางนี้ในสายตาคนนอกอย่างมากก็มีกำลังรบสามสี่วังสวรรค์เท่านั้น ย่อมเป็นคู่ประลองที่ดีที่สุดรองจากผู้สืบมรรคาสำนักเซียนล้ำบารมี
ในบรรดาคนที่ส่งหนังสือท้าประลองให้เขาก็มีคนของสำนักเซียนล้ำบารมีด้วย และสวี่ชิงก็ไม่สนใจการท้าประลองที่น่าเบื่อประเภทนี้เลย
เขาในตอนนี้กำลังเดินอยู่ในย่านการค้าที่ค่อนข้างใหญ่แห่งหนึ่ง สายตากวาดบนแผงสินค้าซ้ายขวา คิดอยากจะดูว่ามีสมุนไพรพิษพิเศษบางอย่างหรือไม่
ที่นี่มีผู้บำเพ็ญไม่น้อย นอกจากผู้บำเพ็ญไร้สังกัดในท้องถิ่นแล้ว ลูกศิษย์ที่มาจากสำนักเผ่ามนุษย์ทั่วทั้งสารทิศก็มีจำนวนหนึ่งเช่นกัน คึกคักยิ่งนัก
ไม่นานนักฝีเท้าสวี่ชิงก็หยุดชะงัก สายตาจับต้องไปบนแผงสินค้าแห่งหนึ่ง
ของที่ขายที่นี่ล้วนเป็นวัตถุดิบหลอมลูกกลอน หลอมอาวุธจำนวนหนึ่ง ในนั้นมีสมุนไพรจำนวนหนึ่งด้วยเช่นกัน
ในนั้นมีหญ้าหนอนทองห้าเส้นต้นหนึ่ง ในตำรายาของสวี่ชิงมันเป็นสมุนไพรที่ผสานพิษแปรสภาพที่ไม่เลวเลย สรรพคุณยาของมันพิเศษมาก หลังจากที่ขุดจากดินแล้วต้องใช้ปราณธาตุทองถึงจะรักษาเอาไว้ได้
เขาจึงก้าวเท้าออกไป ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปใกล้ เขาก็ได้ยินคนข้างๆ วิพากษ์วิจารณ์เอ่ยถึงชื่อของตัวเอง
“ได้ยินแล้วหรือยัง หลี่จื่อเหลียงสำนักเซียนล้ำบารมีรับคำท้าประลองแล้วเก้าครั้ง ชนะทั้งเก้าครั้ง พลังบำเพ็ญแก่นลมปราณสี่วังสวรรค์แข็งแกร่งมาก ตอนนี้ในสำนักเซียนล้ำบารมีชื่อเสียงเป็นรองเพียงผู้สืบมรรคาของพวกเขาเท่านั้น”
“คนคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ช่วงก่อนหน้านี้เสามรรคาสวรรค์พ้นพันธะก็ไปถึงความสูงห้าร้อยกว่าจั้ง ว่ากันว่ายังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขาด้วย”
“เขาก็เกิดผิดช่วงเวลานัก หากสำนักเซียนล้ำบารมีไม่มีจางซืออวิ้น คนคนนี้น่าจะเป็นผู้สืบมรรคาได้”
“ว่ากันว่าเขาส่งสารท้าประลองให้สวี่ชิงว่าที่ผู้สืบมรรคาของพันธมิตรแปดสำนักคนนั้นตั้งสามครั้งแล้ว สวี่ชิงคนนั้นเห็นได้ชัดว่าหวาดกลัว คนที่มาจากที่เล็กๆ ลักษณะล้วนเป็นเช่นนี้ ไม่กล้ารับคำประลอง ช่วงนี้ทุกสำนักต่างเยาะหยันเรื่องนี้กันทั้งนั้น”
สวี่ชิงฟังถึงตรงนี้ ก็หันไปมองแวบหนึ่งด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ คนที่วิพาษ์วิจารณ์เรื่องนี้เป็นลูกศิษย์สำนักเล็กๆ ที่ขึ้นกับสำนักเซียนล้ำบารมี พลังบำเพ็ญไม่สูง เป็นเพียงแค่ระดับสร้างฐานเท่านั้น
คนแบบนี้สวี่ชิงเห็นมากมากมาย
พลังบำเพ็ญธรรมดาๆ อย่างเห็นได้ชัด แต่กลับชื่นชอบที่จะไปวิจารณ์ผู้แข็งแกร่ง เหมือนว่าจากคำวิจารณ์และคำพูดดูถูกนี้จะทำให้หาตัวตนของพวกเขาได้
สายตาของสวี่ชิงกวาดไปที่ใบหน้าของทั้งสามคนนี้ หลังจากดึงกลับมาก็เดินไปที่แผงสินค้า ชี้ไปที่หญ้าหนอนทองห้าเส้น


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา