เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 385

บทที่ 385 ความตายของจักรพรรดิมรณะ

สวี่ชิงจ้องเพ่ง ควบคุมสายตาที่มองไปยังส่วนลึกของแดนต้องห้ามมรณะอย่างแรงกล้า จดจำคำเตือนของท่านอาจารย์เอาไว้ จากนั้นเบนสายตามองไปที่ชายขอบบริเวณอื่นของแดนต้องห้ามมรณะ

เขาเห็นศิษย์พันธมิตรแปดสำนักสิบกว่าคนกำลังหลบหนีไปคนละทิศคนละทาง

ใบหน้าแต่ละคนเห็นได้ชัดว่ากำลังหวาดกลัว รอบด้านมีมือคนตายปรากฏขึ้นมากมายมหาศาล กำลังยุ่งเหยิง

ภาพนี้ ทำให้สวี่ชิงนึกถึงเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ตอนที่ตนเองกำลังจะออกเดินทางไปที่เผ่าสิงซากสมุทร และได้ทราบข่าวจากในพันธมิตร

มีศิษย์หายสาบสูญไปที่ชายขอบแดนต้องห้ามมรณะ สำนักจึงทำตามกฎ สั่งการให้คนกลุ่มหนึ่งไปตรวจสอบสถานการณ์ คนเหล่านี้…ก็คือศิษย์ที่ส่งมาตรวจสอบกลุ่มนั้น

สิ่งแรกที่สวี่ชิงพบหลังจากส่งข้ามผ่านของวิเศษเวทต้องห้าม และขณะที่เสร็จสิ้นเรื่องนี้ ทางเจ้าจงเหิงกับติงเซียวไห่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น

เส้นผมที่ปรากฏอยู่ด้านหลังคนทั้งสองจู่ๆ ก็เพิ่มมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังปะทุความเร็วพุ่งเข้าหาพวกเขา

เมื่อเห็นว่ากำลังจะรัดตัวพวกเขาอยู่รอมร่อ ตอนนี้เอง สีหน้าติงเซียวไห่ก็เผยความโหดเหี้ยมออก ลงมือฉับพลัน ฟาดฝ่ามือใส่เจ้าจงเหิง

แม้ทั้งสองคนจะเป็นสร้างฐาน แต่ติงเซียวไห่ก็มีไฟชีวิตถึงสองดวงแล้ว ไม่ธรรมดาเลย

ส่วนเจ้าจงเหิงยังห่างจากการสำเร็จไฟชีวิตดวงที่สองอีกหลายช่องเวท เวลานี้ต่อให้จะระวังตัวแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการโต้กลับและคุณสมบัติในการหลบหนี

พริบตานั้น เขากระอักเลือดอย่างบ้าคลั่งภายใต้การลงมือกะทันหันของติงเซียวไห่ เรือเวทใต้เท้าสั่นคลอน เกิดรอยปริแตก ไม่มั่นคง ครู่เดียวเส้นผมที่ไล่ตามมาก็รัดเรือเวทเอาไว้

“ติงเซียวไห่!” เจ้าจงเหิงร้องเสียงหลง สีหน้าโกรธเคือง จ้องติงเซียวไห่ที่พุ่งทะยานไปไกลโดยหลังจากใช้เขาเป็นเหยื่อล่อไม่แม้แต่จะหันกลับมามองอย่างเอาเป็นเอาตาย

ส่วนเขาตอนนี้ หลังจากเส้นผมเหล่านั้นพันรัดเรือเวท ก็ทำได้เพียงสละเรือหลบหนี แต่ก็ยังช้าอยู่มาก ค่อยๆ ถูกเส้นผมที่มีมากยิ่งกว่าเดิมกับมือคนตายเหนือผิวน้ำทะเลดึงรั้งไว้

วิกฤติความเป็นตายรุนแรง ฉายแววสิ้นหวัง ขณะที่เจ้าจงเหิงเปล่งเสียงคำราม ใช้งานของคุ้มกายที่ปู่ของเขามอบให้ แต่ก็เหมือนจะไม่มีประโยชน์มากนัก

ต่อให้แหวกทางออกมาได้ แต่ไม่นานก็ถูกพันรัด

ติงเซียวไห่ที่อยู่ไกลๆ ร่างเล็กลงแล้ว ตัวตนของเจ้าจงเหิง ดึงดูดสิ่งประหลาดส่วนใหญ่เอาไว้ ทำให้เขาหลุดพ้นจากภยันตรายไปได้สำเร็จ

เขาได้ยินเสียงกรีดร้องของเจ้าจงเหิงแล้ว แต่ไม่สนใจ

นี่ไม่ใช่การให้ศิษย์ในสำนักตายแทนครั้งแรก ขอแค่ตนเองอยู่รอดปลอดภัย คนอื่น เขาไม่สนใจ

‘คนที่โตมาในครอบครัวที่อบอุ่นจะเป็นพวกคนโง่เง่า อยู่ต่อหน้าข้าก็เอาแต่ยกตนข่มท่าน เห็นข้าเป็นอะไร!

‘นอกจากมีท่านปู่ที่ดีก็ไม่มีอะไรเลย คนโง่เช่นนี้อยู่ในโลกนี้ไปก็คงมีชีวิตต่อได้ไม่นานนัก ถูกกำหนดว่าจะถูกคนอื่นเล่นงานจนตาย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่สู้ตายอย่างมีคุณค่า

‘ข้ามีชีวิตอยู่ต่อไปถึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด’ ติงเซียวไห่สีหน้าไร้อารมณ์ เร่งความเร็วขึ้นแล้วหายไปในปราณหมอก

เพียงแต่ความรู้ความเข้าใจของเขายังไม่มากพอ ทำให้ติงเซียวไห่ไม่ทรบพลานุภาพแท้จริงของของวิเศษเวทต้องห้ามเจ็ดเนตรโลหิต และไม่รู้ว่าสวี่ชิงเวลานี้ กำลังผสานรวมกับของวิเศษเวทต้องห้าม ใช้จับจ้องมาที่นี่ มองเห็นทั้งหมด

สำหรับเรื่องนี้ สวี่ชิงไร้ความเห็น

ถ้าอยู่ในจุดยืนเดียวกับติงเซียวไห่ เพื่อที่เขาจะอยู่ต่อ ก็พูดไม่ได้ว่าผิด จุดยืนของเจ้าจงเหิงก็เช่นเดียวกัน

ทว่าจากจุดยืนของสวี่ชิง ในสองคนนี้เขาไม่ชอบติงเซียวไห่มากกว่า

ส่วนเจ้าจงเหิง สวี่ชิงเห็นสีหน้าสิ้นหวังท่ามกลางวิกฤตเป็นตายของเขา จึงครุ่นคิด และสื่อจิตเทพเข้าไปในวิญญาณศัสตรากระจกโบราณสำริด

“รวมร่างอัญเชิญเงา ไปเยือนสถานที่นี้”

แทบจะพริบตาที่สวี่ชิงสื่อจิตเทพออกไป กระจกโบราณสำริดก็ส่งเสียงหวึ่งๆ แสงเจิดจ้าขึ้นฉับพลัน และมีดวงตาดวงหนึ่งลืมขึ้นกะทันหันด้านบน

พริบตาต่อมา แสงเจิดจ้าแยงตาก็ส่องมาจากกระจกโบราณสำริด ผ่านความว่างเปล่ามายังชายขอบแดนต้องห้ามมรณะ ผ่านปราณหมอกมาที่เบื้องหน้าเจ้าจงเหิง

ขณะที่สีหน้าเจ้าจงเหิงเผยแววไม่อยากเชื่อ แสงที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขาฉับพลัน ก็ฟุ้งเป็นฝุ่นละอองนับไม่ถ้วน หลังจากกลายเป็นจุดแสงและรวมตัวกัน ก่อเป็นร่างของสวี่ชิงขึ้นมา

“สวี่ชิง!” เจ้าจงเหิงเบิกตากว้าง จากนั้นก็ยินดีเป็นล้นพ้น

“ช่วยข้า สวี่ชิงช่วยข้าด้วย!” มือคนตายนับไม่ถ้วนคว้าร่างของเจ้าจงเหิงเอาไว้ ทั้งยังถูกเส้นผมสีดำพันไว้ด้วย ครึ่งตัวอยู่เหนือน้ำ ดิ้นรนไม่หยุด แต่ก็ยังจมลงช้าๆ

สวี่ชิงสัมผัสสภาพร่างกายอยู่พักหนึ่ง นี่เป็นการใช้กระจกโบราณสำริดอัญเชิญเงาร่างแยกครั้งแรกของเขา ในสัมผัสของเขา ร่างนี้เป็นภาพมายา พลังก็ต่างจากร่างเดิมอยู่ไม่น้อย

ไม่มีเงา ไม่มีถุงเก็บของ วังสวรรค์สามวังในร่างก็เป็นภาพลวงตา ลูกกลอนพิษต้องห้ามรวมถึงเขาจักรพรรดิภูตและพระจันทร์สีม่วงล้วนไม่มีอยู่

ความสามารถโดยรวม เป็นแค่แก่นลมปราณสามวังสวรรค์ทั่วไปเท่านั้น

“ดูท่าการอัญเชิญร่างแยก ยังมีจุดบกพร่องอยู่” สวี่ชิงครุ่นคิด ยกมือขวาขึ้นโบกไปเบื้องหน้า

ฉับพลันน้ำทะเลสีดำรอบด้านก็โหมขึ้นทันควัน กลายเป็นคลื่นยักษ์หลายชั้น โถมไปหาเจ้าจงเหิงที่กำลังขอความช่วยเหลือ ทุกที่ที่แล่นผ่าน มือคนตายเหล่านั้นก็พากันแตกสลาย เส้นผมที่พันรัดก็แหลกละเอียดในพริบตา

แม้พลังต่อสู้จะสู้ร่างเดิมไม่ได้ แต่พลังบำเพ็ญสามวังสวรรค์ ขอแค่ไม่เข้าไปในส่วนลึกของแดนต้องห้ามมรณะ ก็ยังพอรับมือกับพวกสิ่งประหลาดได้

เวลานี้เจ้าจงเหิงก็หลุดจากอันตรายได้ในพริบตาจากการแผ่ขยายของมวลคลื่นทะเล เรือเวทที่อยู่ไกลๆ ของเขาก็ถูกสวี่ชิงยกมือคว้าไว้แล้ว กระชากกลับมาทันควัน

เส้นผมที่พันอยู่ก็ขาดทันที

เมื่อเห็นภาพนี้ ขณะที่เจ้าจงเหิงหลุดพ้นจากอันตรายเหมือนเกิดใหม่ก็ยังพรั่นพรึงอยู่

เขาย่อมรู้ความแข็งแกร่งของสวี่ชิง แต่วิธีการปรากฏตัวของสวี่ชิงในวันนี้ลบล้างความคิดของเขาไปจนหมด ยิ่งเพิ่งผ่านเรื่องความเป็นความตายมาอีก ดังนั้นอารมณ์ในปัจจุบันจึงเกิดระรอกคลื่นไม่มีที่สิ้นสุด

“สวี่…”

“เจ้ารีบออกไปจากที่นี่ก่อน ข้าจะไปดูศิษย์พันธมิตรคนอื่นทางนั้นเอง” สวี่ชิงตัดบท พัดเรือเวทไปทางเจ้าจงเหิง

เจ้าจงเหิงรีบพยักหน้า ในดวงตาซาบซึ้งอย่างแรงกล้า หลังย่างขึ้นเรือเวทกำลังจะอ้าปาก แต่สวี่ชิงก็สะบัดแขนเสื้อ ฉับพลันพลังมหาศาลก็ซัดไปที่เรือเวทวิหคหงส์ที่โอ่อ่าของเจ้าจงเหิง

บทที่ 385 ความตายของจักรพรรดิมรณะ 1

บทที่ 385 ความตายของจักรพรรดิมรณะ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา