เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 389

บทที่ 389 ใช้ทางยมโลก

จุดที่เสียงร้องงิ้วแว่วออกมา เป็นร้านที่อึมครึมร้านหนึ่ง

เจ้าของร้านเป็นผีประหลาดที่มีลูกตามากมาย ล่องลอยอยู่เหนือร้าน ทั่วร่างเต็มไปด้วยลูกตา

จากการจับจ้องของสวี่ชิง ลูกตาเกือบครึ่งของผีประหลาดก็จ้องมองมาทางเขา

สวี่ชิงไม่สนใจ สาวเท้าก้าวเดินผ่านไป ก้มหน้ามองขวดสัมฤทธิ์ใบหนึ่งในบรรดาของมากมายบนพื้น

“ขวดจับเสียง”

สวี่ชิงจำได้ทันที

เขาเคยได้รับขวดจับเสียงมาใบหนึ่ง ต่อมาก็ใช้ขวดใบนั้นจับเสียงบทเพลงขบวนร้อยอสูรแห่งรัตติกาล แล้วนำไปใช้ล่อยักษ์ของราชรถดวงตะวัน จนได้รับวิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณมา

เพียงแต่ตอนนั้นด้วยพลานุภาพของยักษ์ ขวดจับเสียงใบนั้นก็แตกสลายไปแล้ว

เวลานี้ เสียงร้องงิ้วนั่นดังออกมาจากขวดใบนี้

สวี่ชิงนิ่งเงียบโน้มตัวลงเล็กน้อย ยกนิ้วชี้ไปที่ขวดจับเสียง มองไปทางผีประหลาดหลายตา จากนั้นก็โยนถุงออกไปใบหนึ่ง ด้านในใส่วิญญาณบางส่วนไว้

เมื่อผีประหลาดหลายตาตรวจสอบดูพักหนึ่ง ดวงตาทั้งหมดก็หรี่ลง เหมือนกำลังใช้ความคิด ไม่นานก็ส่ายหัว

สวี่ชิงมองผีประหลาดตรงหน้าผาดหนึ่ง

เขารู้ว่าผีประหลาดในย่านการค้าส่วนใหญ่จะโลภมาก จึงโยนถุงหนังออกไปอีกใบหนึ่ง แต่ว่าครั้งนี้ ในสายตาเขามีความเย็นชาที่ทำให้อีกฝ่ายสัมผัสได้อย่างชัดเจน

อาจเพราะจำนวนวิญญาณมากเพียงพอ หรืออาจเพราะสายตาเย็นชา หลังจากผีประหลาดหลายตาครุ่นคิด ก็พยักหน้าให้

สวี่ชิงหยิบขวดจับเสียงขึ้นมา ปิดฝา เมื่อเสียงร้องงิ้วหายไป เขาก็หันหลังเดินออกจากที่นี่

หลังจากกลับมาถึงโรงเตี๊ยม ตอนที่เฝ้ารอช่วงรุ่งสางมาถึง สวี่ชิงก้มหน้ามองขวดสัมฤทธิ์ในมือ ในใจก็โหมความสงสัยที่เข้มข้น

“เสียงนี้ เป็นเสียงหญิงสาวจากบ้านไม้ห้ามุมในอุโมงค์ภูตจริงๆ

“มีคนใช้ขวดจับเสียงเก็บเสียงเอาไว้ด้วย…”

สมองสวี่ชิงฉายภาพในอุโมงค์ภูตวันนั้น ดวงตาของเทพเจ้าในส่วนลึกอุโมงค์ภูตค่อยๆ ปิดลงตามเสียงร้องงิ้วของหญิงสาวที่ดังขึ้น

เขาไม่รู้ว่าร้องงิ้วให้เทพเจ้าองค์นั้น หรือว่าเดิมทีเสียงนี้แฝงพลังบางอย่างที่ไม่อาจคาดเดา ทำให้เทพเจ้าหลับตาลงได้

แต่ไม่ว่าอย่างไร สวี่ชิงรู้สึกว่าซื้อขวดจับเสียงใบนี้มาแล้วคุ้มค่ามาก

ไม่นาน ตอนที่นอกห้องมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น สวี่ชิงก็เก็บขวดใบเล็ก จัดระเบียบเสื้อผ้า ผลักประตูเดินออกไปด้วยใกล้ได้เวลาออกเดินทาง

ในโรงเตี๊ยม ศิษย์ของพันธมิตรแปดสำนักมาถึงหมดแล้ว แต่นายกองไม่อยู่

สวี่ชิงไม่แปลกใจ คนอื่นๆ อาจจะลังเลเรื่องย่านการค้าผี แต่นายกองไม่มีทางอดใจไหวแน่

แต่เห็นได้ชัดว่าการไปยังเมืองหลวงเขตปกครองต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่ในใจนายกอง ดังนั้นแทบจะพริบตาตอนเกือบจะถึงเวลา ร่างของนายกองก็วิ่งกระหืดกระหอบกลับมาจากด้านนอกมาอยู่ข้างๆ สวี่ชิง ดวงตาเขายังมีความตื่นเต้นอยู่

“อาชิงน้อย เจ้าไปย่านการค้าผีมาหรือยัง ข้าจะบอกเจ้าว่าที่นั่นน่ะมีแต่ของดีๆ”

สวี่ชิงกำลังจะเอ่ยปาก แต่พริบตาต่อมาหน้าก็เปลี่ยนสีไป ศิษย์ทั้งหมดในโรงเตี๊ยมก็เช่นกัน

แรงกดดันที่น่าตกตะลึงวูบหนึ่ง พริบตานี้แผ่มาจากด้านนอกโรงเตี๊ยม

แรงกดดันนี้แผ่ความเย็นเยียบที่มิอาจพรรณนาได้ออกมา ทำให้โรงเตี๊ยมราวกับตั้งอยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บที่ยาวนาน มีเจตจำนงที่น่ากลัวอีกวูบหนึ่งกำลังโหมขึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่ในใจของคนทั้งหมด

ความรู้สึกนี้ สวี่ชิงคุ้นเคยดี ตอนที่เขาพบกับสิ่งประหลาดครั้งแรก ก็มีความรู้สึกคล้ายๆ เช่นนี้

ขณะที่เป็นผู้ควบคุมของวิเศษมาสามเดือน เขามองส่วนลึกพื้นที่ต้องห้ามผ่านของวิเศษเวทต้องห้าม ก็มีจุดที่ใกล้เคียง

ตอนที่จิตใจคนทั้งหมดสั่นสะท้าน ร่างของจื่อเสวียนก็เดินออกมาจากห้องในโรงเตี๊ยม เดินมาถึงหน้าประตูใหญ่ ยกมือผลักเบาๆ

เมื่อบานประตูเปิดออก ภายนอกทั้งหมด…แตกต่างจากตอนที่สวี่ชิงกลับมาก่อนหน้า

ย่านการค้าผียังอยู่ ย่านการค้าปกติก็อยู่

ราวกับว่าสีขาวกับดำ หยินและหยาง กำลังปรากฏขึ้นพร้อมกันเวลานี้ ย่านการค้าทั้งสองซ้อนทับกัน แปรเปลี่ยนเป็นความเลือนราง

ในความเลือนรางนี้ บนท้องฟ้า…ก็มีเรือใหญ่สีดำขนาดนับพันจั้งลำหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างไร้ซุ่มเสียงจากความว่างเปล่า ลอยอยู่บนอากาศ

เรือลำนี้เต็มไปด้วยรูพรุน ทรุดโทรมอย่างมาก ใบเรือด้านบนเปื่อยขาด ขณะที่เผยความผุกร่อนตามกาลเวลาออกมา ก็ยังมีปราณความตายที่เข้มข้นถึงขีดสุดอยู่ด้วย

การมาถึงของมัน ความอึดอัดที่แผ่ออกมากลายเป็นความหนาวเหน็บ ราวกับจะแช่แข็งทุกสรรพสิ่ง

นี่คือเรือผี

มันลอยคว้างอยู่กลางอากาศ ราวกับย่านการค้านี้เป็นท่าเรือ มันจอดที่นี่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพื่อรอคนขึ้นเรือ…

“ขึ้นเรือ!” เสียงเรียบๆ ของจื่อเสวียนดังก้อง จากนั้นก็ก้าวเท้าย่ำอากาศไปในเรือผีที่มืดมน

สวี่ชิงกับนายกองมองหน้ากัน ย่างก้าวไปเวลาเดียวกัน ทะยานขึ้นไปบนฟ้า คนอื่นๆ เองก็กัดฟันเหินขึ้นไป ไม่นานกลุ่มของพันธมิตรแปดสำนักทั้งหมดก็พุ่งไปที่เรือผี

เมื่อย่างเข้าไป ความรู้สึกเย็นเยียบนั้นก็ยิ่งชัดเจน และความทรุดโทรมของเรือผีลำนี้ ก็ชัดเจนยิ่งกว่าที่สะท้อนเข้ามาในดวงตาสวี่ชิงก่อนหน้านี้เสียอีก

ดาดฟ้าเรือพังไปกว่าครึ่ง หลายจุดเป็นหลุมเป็นบ่อ กระทั่งตำแหน่งที่แตกท้ายเรือก็ราวกับจะแยกกออกจากกัน ขณะเดียวกันในเรือผีก็ไม่มีเงาของผีประหลาดใดเลย

แต่ความมืดมนของที่นี่แรงกล้าอย่างมาก

นอกจากนี้สวี่ชิงยังพบว่า คนที่ขึ้นมาบนเรือไม่ได้มีแต่พันธมิตรแปดสำนัก ในย่านการค้ายังมีผู้บำเพ็ญอีกนับสิบคน ก็เลือกโดยสารไปกับเรือในเวลานี้เช่นกัน ในบรรดานี้สวี่ชิงยังเห็นผู้ครองกระบี่สองคนที่พบระหว่างทางก่อนหน้าด้วย

หลังจากทั้งสองคนนี้ขึ้นมาบนเรือผี ก็เห็นสวี่ชิงกับนายกองเช่นกัน

ทั้งสองฝ่ายพบกันอีกครั้ง ล้วนไม่รู้สึกแปลกใจ ผู้ครองกระบี่สองคนนั้นพยักหน้ามาให้สวี่ชิงกับนายกอง ไม่พูดอะไร เดินเข้าไปในห้องเรือ

บทที่ 389 ใช้ทางยมโลก 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา