บทที่ 405 เขตลึกลับ
สวี่ชิงยังคงดำเนินการสังหารต่อ นรกยังคงย่างก้าว
อันที่จริงสิ่งที่พัศดีเขตติงเหล่านั้นเห็นมีทั้งถูกและไม่ถูก
ที่ถูกต้องคือระหว่างที่สวี่ชิงสังหาร สีหน้าตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีระลอกคลื่นเลย
แต่ส่วนที่ไม่ถูกคือ…เขาไม่ได้ควบคุมอารมณ์
เขาที่ปีนออกมาจากกองศพ เดินอยู่ระหว่างความเป็นความตาย ดิ้นรนรอดชีวิตมาได้จากการเห็นเสี้ยวหน้าเทพเจ้าลืมตาสองครั้ง
การสังหาร คือสัญชาตญาณของเขา
เจ้าทำร้ายข้า ข้าก็จะสังหารเจ้า
เจตนาร้ายและความโหดเหี้ยมของคนชั่วเหล่านี้ตอนแรกเป็นตัวกำหนดสถานการณ์ ไม่ว่าจะที่นี่หรือด้านนอก ล้วนเป็นเช่นเดียวกัน
ส่วนการลงมือของสวี่ชิง ไม่ได้อ่อนข้อให้เพราะเจตจำนงของพวกคนชั่วหายไป และไม่ได้หยุดลงเพราะเสียงกรีดร้องโหยหวนของอีกฝ่าย
เขาเดินไปด้านหน้าพร้อมกับลงมือไปด้วย
ไล่ตามคนชั่วที่หลบหนีอย่างหวาดกลัวทีละคน หาจุดตายของพวกเขาจากความรู้ที่เรียนรู้มา สังหารไปทีละคน
แน่นอนว่าเขายังแก่นลมปราณต้องการ ดังนั้นเสียงกรีดร้องโหยหวนในระหว่างนี้จึงดังก้องระงมไม่หยุด
จนผ่านไปอีกครึ่งก้านธูป มือซ้ายของสวี่ชิงก็หิ้วหัวของผู้บำเพ็ญเผ่าสองหน้า ยืนอยู่ท่ามกลางซากศพที่เกลื่อนพื้น
เขาสีหน้าเรียบสงบภายใต้กลิ่นคาวเลือดที่ตลบอบอวลเข้มข้น เงยหน้ามองพัศดีที่สีหน้าเคร่งขรึมตรงประตูห้องขังเหล่านั้น
“หมดแล้ว”
สวี่ชิงโยนหัวในมือทิ้ง เอ่ยเสียงแผ่ว
เหล่าพัศดีสีหน้าเคร่งขรึม ครู่ต่อมาก็คารวะอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมายให้กับสวี่ชิง
พัศดีกลางคนด้านหน้าสุด เอ่ยเสียงขรึม
“ยินดีต้อนรับสหายสวี่ชิงเข้าสู่กรมราชทัณฑ์!”
ไม่ว่าจะสถานที่ใด ผู้แข็งแกร่งล้วนได้รับความเคารพนับถือ
กรมราชทัณฑ์ก็เช่นกัน เพียงแต่ที่นี่นอกจากความแข็งแกร่งของร่างกายแล้ว ยังต้องทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเราเป็นพวกเดียวกัน
หากทำได้ถึงจุดนี้ ก็จะได้รับการยอมรับจากพวกเขา
และหากเหนือกว่า เช่นนั้นสิ่งที่ได้รับก็คือความเคารพนับถือแน่นอน
เช่นสวี่ชิงเวลานี้
สวี่ชิงคารวะตอบกลับ สัมผัสได้ว่าวังสวรรค์วังที่ห้าก่อร่างขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาถามขึ้น
“ไปสังหารห้องขังอื่นด้วยได้หรือไม่”
เมื่อพัศดีเขตติงได้ยิน ก็พากันทอดถอนใจ
“สวี่ชิง นักโทษของกรมราชทัณฑ์ แม้พวกเราจะจัดการได้ แต่…ถ้าสังหารมากเกินไปก็ไม่ดี จำนวนของทุกคนในเดือนนี้ ครั้งนี้ถูกเจ้าใช้ไปหมดแล้ว”
พัศดีกลางคนยิ้มขืนเอ่ยขึ้น
“แต่ว่าเจ้าก็ไม่ต้องรีบร้อน ทุกเดือนจะมีนักโทษเข้ามาชดเชยไม่น้อย ตามที่ทุกคนรู้กัน ปกติจับเพิ่มมาเท่าไร นักโทษแต่เดิมก็จะถูกพวกเราจัดการไปเท่านั้น”
พูดพลาง พัศดีกลางคนเปิดประตูห้องขังออก ตอนที่ทุกคนเดินออกไป สวี่ชิงมองไปยังจุดที่ตนเองวางถุงเก็บของของตนเองไว้เมื่อครู่
พัศดีรอบด้านไอแห้งๆ ขึ้นมา มองหน้ากันเอง ต่างฝ่ายต่างล้วงหินวิญญาณบางส่วนส่งให้กับพัศดีกลางคน
หลังจากพัศดีกลางคนรับไป ก็ถอนหายใจ
“กว่าข้าจะพาคนใหม่เข้ามาได้ นึกว่าจะหาเงินได้สักก้อน ไม่คิดเลย…” เขาส่ายหัว แบ่งหินวิญญาณให้พัศดีสี่ห้าคน
พัศดีเหล่านี้หัวเราะเดินเข้ามา พวกเขาเดิมพันว่าสวี่ชิงจะชนะ
จากนั้นผู้บำเพ็ญกลางคนก็นำหินวิญญาณส่วนที่เหลือเก็บไว้ส่วนหนึ่ง และมอบให้กับสวี่ชิงตามที่เฉลี่ย
ก่อนหน้านี้สวี่ชิงพิจารณาไว้ไม่ผิดว่าที่คนเหล่านี้เดินตามมาก็เพื่อเดิมพัน
พวกเขาส่วนใหญ่เดิมพันว่าสวี่ชิงคงยืนหยัดได้ไม่นาน และคนที่เป็นเจ้ามือคือพัศดีกลางคน เห็นได้ชัดว่าแม้จะมีคนเดิมพันว่าสวี่ชิงจะทำสำเร็จแล้วได้รับผลประโยชน์ แต่สวี่ชิงได้รับไปก็ไม่น้อยเลย
ถึงอย่างไรเงินเฉลี่ยที่เขาได้ก็ไม่น้อย
หยิบหินวิญญาณเวลานี้ สวี่ชิงรู้สึกพึงพอใจมาก
พัศดีคนอื่นก็ล้วนมีห้องขังที่ควบคุมเไว้ เวลานี้หลังจากประสานหมัดก็แยกย้ายกันไป พัศดีกลางคนก็พาสวี่ชิงเดินตรงไปจุดลงทะเบียน
ระหว่างทาง ท่าทีของเขาก็แตกต่างกับก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง
“สวี่ชิง ปกติข้าควบคุมอยู่ที่ชั้นสามสิบห้า หลังจากนี้เจ้ามีเรื่องอะไรไม่เข้าใจก็ไปหาข้าได้ ตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปลงทะเบียน จัดสรรห้องขังรวมถึงไปรับชุดนักพรตของพลทหาร และจะนำเอากลิ่นอายของเจ้าไปบันทึกไว้ หลังจากนี้เมื่อเจ้ามาเข้าเวรก็สามารถเข้ามาได้เอง”
สวี่ชิงพยักหน้า ระหว่างทางที่เดินก็ผ่านห้องขังอีกหลายแห่ง ทอดสายตาไป ก็เกิดความรู้สึกเสียดายขึ้นมาเล็กน้อย
พัศดีกลางคนสังเกตเห็นสีหน้านี้ เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“อันที่จริงยังมีอีกวิธีหนึ่ง นั่นคือเจ้าไปควบคุมเขตติงชั้นที่แปดสิบแปด ถึงตอนนั้น เจ้าก็จะเลือกเลื่อนขั้นขึ้นเป็นพลทหารเขตปิ่งได้แล้ว”
ครั้งนี้รอยยิ้มของเขา ไม่ใช่การยิ้มเหมือนไม่ยิ้มแล้ว แต่มีความจริงใจมาด้วย
“กลายเป็นพลทหารเขตปิ่ง เจ้าก็จะจัดการนักโทษได้อย่างไร้ขีดจำกัด ยิ่งไปกว่านั้นแต้มกองทัพที่มอบให้ก็จะมากขึ้น”
“ชั้นแปดสิบเก้าลงไปหรือ” สวี่ชิงถาม ก่อนหน้านี้เขาได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงเขตปิ่ง
“ถูกต้อง กรมราชทัณฑ์แบ่งออกเป็นสี่เขตเจี่ย อี่ ปิ่ง ติง ชั้นแปดสิบเก้าขึ้นมาทั้งหมดเป็นเขตติง”
“ชั้นแปดสิบเก้าลงไปคือเขตปิ่ง ส่วนเขตอี่รวมถึงเจี่ย ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะล่วงรู้ได้เลย อันที่จริงต่ำกว่าเขตปิ่งลงไปคือความลึกลับ ข้าไม่เคยไปมาก่อน และไม่รู้ว่ามีอยู่กี่ชั้น
“ข้ารู้แค่ว่านักโทษที่ขังไว้ที่นั่น พลังบำเพ็ญอ่อนสุดคือระดับปราณก่อกำเนิด ยิ่งไปกว่านั้นระดับความโหดเหี้ยมยังข้ามเขตติงไปไกลโข”
ระหว่างที่พูด พัศดีกลางคนนี้ก็พาสวี่ชิงมาถึงจุดลงทะเบียนที่ชั้นเก้า ที่นั่นสวี่ชิงได้รับชุดนักพรตเพลิงทมิฬของกรมราชทัณฑ์ ขณะเดียวกันก็ถูกบันทึกลิ่นอายลงไปด้วย
ส่วนห้องขังที่ต้องดูแลก็ถูกจัดลงมา

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา