เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 406

บทที่ 406 นักโทษสิบสี่คนในเขตหนึ่งสามสอง

เขตติงหนึ่งสามสอง ตอนนี้มีนักโทษทั้งหมดสิบสี่คน

เทียบกับนักโทษหลายร้อยกระทั่งหลายพันคนในห้องขังเขตติงเขตอื่นๆ แล้ว จำนวนนักโทษของที่นี่ก็เป็นจำนวนที่น้อยมากจริงๆ

น้อยจนสวี่ชิงไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย ในสมองก็มีข้อมูลนักโทษทั้งหมดในเอกสารผุดขึ้นมา

ตอนนี้จากการเปิดออกของประตูใหญ่ห้องขังติงหนึ่งสามสอง จากกลิ่นเน่าที่ฟุ้งออกมา สวี่ชิงยืนอยู่ที่หน้าประตู จับตามองอย่างสงบนิ่ง

ในประตูใหญ่ มืดมิดไปหมด

สวี่ชิงครุ่นคิดอยู่หลายชั่วอึดใจ ก้าวเท้าเข้าไป

ก้าวเข้าไปในคุกทีละก้าวๆ เดินเข้าไปในความมืด จากนั้นประตูใหญ่ห้องขังก็ปิดดังปังจากการโบกมือของเขา

เสียงดังมา ดังเข้าไปในหูของพัศดีที่จับจ้องที่นี่ทุกคน แปรเปลี่ยนเป็นระลอกคลื่นในใจของเขา

ในห้องขังติงหนึ่งสามสองยังคงมืดสนิท มีเพียงเสียงฝีเท้าที่ดังสะท้อน

นั่นคือฝีเท้าของสวี่ชิง เขาไม่ได้ใช้สิทธิ์ของพัศดีจุุดตะเกียงที่นี่ เพราะเทียบกับแสงสว่างทะลุปรุโปร่ง สวี่ชิงรู้สึกว่าความมืดของที่นี่เหมาะกับตนมากกว่า

เดิมเขาก็ชอบเดินอยู่ในยามค่ำคืนอยู่แล้ว

โดยเฉพาะหลังจากที่คุ้นชินกับความมืดแล้ว ทุกอย่างที่นี่แม้จะมืดมิด แต่ก็ใช่ว่ามองเห็นไม่ชัด

เหมือนกับห้องขังที่เขาได้สังหารจนสิ้นซากห้องนั้น ใจกลางของเขตติงหนึ่งสามสองเป็นลานกว้าง รอบๆ มีห้องขังแต่ละห้องๆ เรียงราย

สวี่ชิงเดินไปยังโถงทางเดินนอกห้องขัง ผ่านห้องว่างห้องแล้วห้องเล่า จวบจนมาถึงหน้าห้องขังที่สิบเก้า ฝีเท้าเขาก็หยุดลง

นี่เป็นห้องขังห้องหนึ่ง ในนั้นมีนักโทษ

นั่นเป็นเงาร่างที่นั่งขัดสมาธิหันหลังให้สวี่ชิง เป็นร่างที่สูงใหญ่นัก ส่วนศีรษะเกือบถึงเพดาน

ทั่วตัวเปล่าเปลือยไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ แต่กลับมีรยางค์หยุบหยับ มีสั้นมียาว ปกคลุมอยู่บนร่างราวกับเสื้อผ้าขาดๆ วิ่นๆ

ยักษ์ตนนี้ไม่ได้ใส่ใจการปรากฏตัวขึ้นของสวี่ชิงอะไรทั้งสิ้น เหมือนกำลังกินอาหาร เสียงเคี้ยวเป็นระยะๆ ดังสะท้อนห้อง ศีรษะของเขาก็กำลังขยับไปมาหมือนว่ากำลังกัดทึ้ง

นอกห้องขัง สวี่ชิงยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งไม่ขยับ จ้องมองอย่างเย็นชา

เขาสามารถมองเห็นสิ่งที่อีกฝ่ายกินอยู่ผ่านเจ้าเงา คือรยางค์ของตัวเอง ตอนนี้กำลังถูกกัดกินทีละเส้นๆ

ขณะเดียวกันสวี่ชิงก็เห็นรูปร่างหน้าตาของนักโทษได้อย่างชัดเจน

ข้อมูลของนักโทษปรากฏขึ้น อีกฝ่ายเป็นอสูรเมฆา

ระหว่างทางที่มา สวี่ชิงได้เห็นอสูรเมฆาที่มณฑลพระพายเมฆินทร์มาก่อน พวกมันไม่มีสติปัญญา ตัวมีขนาดร้อยจั้งขึ้นไป เงาร่างข้างหน้านี้มีขนาดเล็กกว่ามาก อีกทั้งรูปร่างหน้าตาก็แตกต่างไปเล็กน้อย

สวี่ชิงดึงสายตากลับมา ก้าวเท้าต่อไป ไม่นานก็มาถึงห้องขังเจ็ดแปดห้องถัดมา เห็นนักโทษคนที่สอง

นี่เป็นนักโทษหญิง

นางเป็นเผ่ามนุษย์

เนื้อตัวเต็มไปด้วบคราบไคล เต็มไปด้วยรอยแผลที่เกิดจากการกัดเป็นทางๆ

สามารถมองเห็นเลาๆ ว่าหน้าตานับว่างดงาม โดยเฉพาะรูปร่างที่ยิ่งอรชรอ้อนแอ้น ตอนนี้นางกำลังนั่งยองๆ อยู่ที่มุมหนึ่ง ในอ้อมแขนอุ้มตุ๊กตาฟางตัวหนึ่ง เหมือนว่ากำลังกล่อมนอน

ในตอนสวี่ชิงเดินผ่าน นางรู้สึกตัวก็ยกนิ้วชี้ซ้ายแตะที่ริมฝีปาก ส่งเสียงชู่ออกมาเบาๆ

คล้ายว่ากำลังเตือนสวี่ชิงอย่ารบกวนการนอนของเด็ก

บนพื้นห้องขังที่นางอยู่ล้วนเป็นฟางแห้ง จะเห็นร่องรอยตุ๊กตาฟางที่ถูกฉีกทึ้งไม่เหลือชิ้นดีนับไม่ถ้วน

สวี่ชิงจ้องเพ่งอย่างเย็นชา เอกสารที่ผุดในสมองมีข้อมูลของสตรีคนนี้ปรากฏขึ้น นางเคยเป็นอัจฉริยะฟ้าประทาน มาจากสำนักมายาจำแลงปีศาจ

เมื่อหลายปีก่อนได้พบเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ กินสมบัติล้ำค่าฟ้าดินที่เหมือนกับผลอายุวัฒนะเข้าไป เดิมถูกคาดหวังไว้สูง แต่ถูกสืบพบว่านางแอบกินเด็กทารกเผ่าเดียวกันอย่างโหดเหี้ยม

เรื่องนี้สร้างกระแสฮือฮาในตอนนั้นไม่น้อยเลย

เดิมนางถูกลงโทษประหาร แต่ญาติพี่น้องของเด็กทารกที่ถูกนางสังหารอย่างทารุณโหดเหี้ยมต่างขอให้นางอยู่มิสู้ตาย ให้ได้รับความทุกข์ทนทรมาน

ตอนนี้ท่ามกลางการจับจ้องของสวี่ชิง จู่ๆ ซากตุ๊กตาฟางบนพื้นพวกนั้นก็ต่างลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จ้องผู้หญิงคนนั้นเขม็ง แล้วอ้าปากส่งเสียงคำราม กระโจนไปหานาง

รวมถึงตุ๊กตาหญ้าตัวนั้นที่อยู่ในอ้อมแขนของนางก็เช่นกัน มันพุ่งไปหาหญิงคนนั้นกัดทึ้งอย่างบ้าคลั่ง

ผู้หญิงคนนั้นตัวสั่น ปล่อยให้ตุ๊กตาฟางพวกนี้กัดตัวเอง นางเงยหน้าขึ้นยิ้มให้สวี่ชิง รอยยิ้มแปลกประหลาด คล้ายว่ากำลังทักทายสวี่ชิง

สวี่ชิงมองอยู่ครู่หนึ่งก็ถอนสายตากลับมา ก้าวเท้าจากไป เดินไปทางนักโทษคนต่อไป

เขาวนรอบโถงทางเดินไปกว่าครึ่งเช่นนี้ เทียบข้อมูลของนักโทษในนั้นทีละคนๆ ขณะเดียวกันก็สังเกตว่าพวกเขามีปัญหาหรือไม่

เขตติงหนึ่งสามสองทำไมถึงโหดเหี้ยมอันตราย สวี่ชิงไม่ได้สงสัยอะไรนัก แต่ว่าในเมื่อให้เขามาดูแลห้องขังนี้ เช่นนั้นเขาก็จะต้องควบคุมทุกอย่างของที่นี่ไว้ในมือ

จากการสำรวจ ความรู้สึกที่ชัดเจนที่สุดต่อนักโทษเขตติงหนึ่งสามสองของสวี่ชิงคือแปลกประหลาดกว่าพวกที่เขาสังหารจนสิ้นซากพวกนั้นอย่างชัดเจน

กระทั่งว่านักโทษคนที่เจ็ดบอกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตมีเลือดเนื้อไม่ได้

นั่นคือโม่ที่หมุนเองอันหนึ่ง

มันหมุนไม่หยุด แผ่พลังดูดออกมา เหมือนจะดูดวัตถุทุกอย่างในคุกเข้าไปบดให้แหลกละเอียด

เผ่าพันธุ์ประเภทนี้แม้แต่มือผีก็ไม่เคยแนะนำ ในข้อมูลนักโทษที่ปรากฏขึ้น นี่คือปีศาจหิน

เผ่าพันธุ์จำนวนน้อยที่เกิดขึ้นหลังจากเสี้ยวหน้าเทพเจ้ามาเยือน

ยกตัวอย่างอีกเช่นตอนนี้ สวี่ชิงยืนอยู่ข้างหน้าห้องขังที่สองร้อยสามสิบเจ็ด นักโทษที่ขังอยู่ในนั้นเป็นนักโทษคนที่สิบสามของที่นี่

อีกฝ่ายไม่มีร่างกาย มีเพียงแค่ศีรษะ กลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นในคุก หลังจากสังเกตเห็นสวี่ชิง มันก็หยุด ดวงตาแดงก่ำจ้องสวี่ชิง มุมปากยิ่งฉายรอยยิ้มออกมา

“สนุกเหลือเกิน ทั้งๆ ที่เจ้าตายไปแล้ว แต่เจ้ากลับไม่รู้ สนุกจริงๆ ครั้งหน้าเจ้าจะตายด้วยน้ำมือของผู้บำเพ็ญที่ใส่หมวกฟาง แต่เจ้าตายไปแล้ว จะตายอีกครั้งได้อย่างไร

“ตายอย่างอนาถเหลือเกิน ร่างระเบิดไปแล้ว แต่หัวยังอยู่ อีกฝ่ายบอกว่าจะเอาหัวเจ้าไปยังสถานที่หนึ่ง

“อนาถเหลือเกิน อนาถเหลือเกิน

“ทุกคนกำลังหาเจ้า แต่หาไม่เจอ…ฮ่าๆ พวกเขาไม่รู้ว่าเจ้าถูกฝังไว้ที่ใด แต่ข้ารู้ ข้ามองเห็น

“เจ้าอยากแก้ดวงหรือไม่ ขอแค่เจ้าโยนข้าไปในห้องขังของอสูรเมฆา ให้ข้าอยู่ที่นั่น ข้าจะช่วยเจ้าแก้ดวง เป็นอย่างไร

“เจ้าต้องเชื่อข้า ข้าเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถช่วยดูแลได้ ดูแลพวกที่ไม่ตายพวกนั้น ความจริงเป็นคุณงามความดีของข้า

สวี่ชิงไม่พูดอะไร หลังจากประเมินหัวนี้อย่างละเอียดก็ก้าวเท้าจากไป ไปยังห้องขังที่ขังนักโทษคนสุดท้าย

ที่นี่ยิ่งพิเศษขึ้นไปอีก

ในห้องขังไม่มีผู้บำเพ็ญ มีเพียงภาพวาดภาพเดียวเท่านั้น

ภาพวาดที่ลอยอยู่กลางอากาศ

ในภาพเป็นภาพครอบครัวสี่รุ่นพร้อมหน้า ผู้ใหญ่และเด็กทั้งครอบครัวนั่งอยู่ด้วยกัน ต่างกำลังยิ้ม มีทั้งหมดยี่สิบสามคน

คนที่อยู่ตรงกลางเป็นชายชรา เขาที่ล้อมรอบไปด้วยหลานๆ ยิ้มอย่างมีความสุขเป็นที่สุด จิตรกรถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

มองภาพวาดภาพนั้น ในดวงตาสวี่ชิงฉายประกายแปลกประหลาด นี่ก็เป็นเผ่าพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากเสี้ยวหน้าเทพเจ้ามาเยือนเช่นกัน ชื่อว่าเผ่าจิตรกรรม

เผ่านี้ไม่อยู่ในความเป็นจริง พวกมันอาศัยอยู่ในภาพวาด

แต่พวกมันกลับบอกว่า มนุษย์ในโลกอยู่ในภาพวาด พวกมันถึงจะอยู่ในโลกความเป็นจริง

สวี่ชิงมองอยู่นานถึงจะดึงสายตากลับมา หันหลังเดินจากไป ในตอนที่กลับมายังห้องขังที่คุมขังนักโทษคนแรก อสูรเมฆาที่กำลังกินไม่หยุด จู่ๆ ก็หยุดเคี้ยว ส่งเสียงต่ำทุ้มออกมา

“อย่าเชื่อสองสามเจ็ด ไม่ว่ามันพูดอะไรก็อย่าได้เชื่อ”

สองร้อยสามสิบเจ็ด เป็นห้องขังที่ศีรษะทำทีลึกลับศีรษะนั้นอยู่นั่นเอง

สวี่ชิงไม่สนใจ เดินไปยังข้างประตูใหญ่คุกเขตติงหนึ่งสามสอง ขัดสมาธินั่งลง มองคุกมืดมิด ในดวงตาของเขาฉายแววครุ่นคิด

นักโทษพวกนี้ เขารู้สึกว่าน่าสนใจมาก

เวลาหมุนผ่านไปช้าๆ เขตหนึ่งสามสองนอกจากเสียงของแต่ละคนก็ถือว่าเงียบมาก

ไม่มีเรื่องแปลกประหลาดอะไรเกิดขึ้น และไม่มีสถานการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น

บทที่ 406 นักโทษสิบสี่คนในเขตหนึ่งสามสอง 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา