เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 407

บทที่ 407 ใกล้เพียงเอื้อมแต่ไม่รู้จัก

สวี่ชิงสูดลมหายใจลึก สัมผัสกระบี่จักรพรรดิในทะเลความรู้สึกอย่างเงียบๆ เขามีความรู้สึกอย่างหนึ่งคือกระบี่จักรพรรดิได้หลอมผสานกับตนอย่างสมบูรณ์แล้วในชั่วขณะนี้

กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแยกกันได้

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้จิตวิญญาณของคนเกิดความรู้สึกแข็งแกร่งอย่างหนึ่ง

นี่คือการเพิ่มพลังที่เคล็ดวิชาระดับจักรพรรดินำมาให้ ยิ่งมีความคุ้นเคยเกี่ยวกับกระบี่อย่างหนึ่ง

เขาทำความคุ้นเคยกับโครงสร้างทุกส่วนของตัวกระบี่ ทำความคุ้นเคยกับประกายคมทุกชุ่นของคมกระบี่ ทำความคุ้นชินกับลำแสงทุกทางของรอยกระบี่

แต่ความรู้สึกคุ้นชินนี้จะอย่างไรก็ค่อนข้างเบาบางรางเลือน คล้ายบุปผาในกระจกจันทรากลางวารี จำต้องขบคิดและสัมผัสอยู่ตลอด จนกระทั่งแปรเปลี่ยนมันให้กลายเป็นวัตถุจริง จันทราในวารีกลายเป็นวัตถุจริง แปรเปลี่ยนเป็นเนื้อแท้ในวิญญาณของตัวเอง

“เช่นนี้ ก็จะสามารถยกระดับขึ้นเป็นขั้นสอง เพิ่มพลังกำลังรบหนึ่งวังให้กับข้าได้โดยสมบูรณ์” สวี่ชิงพึมพำ

นานหลังจากนั้น เขาก้มหน้ามองไปยังฝ่ามือขวาของตัวเอง จากความคิดที่เกิดขึ้น เพียงพริบตาประกายแสงเจิดจ้าทางหนึ่งก็แผ่ออกมาจากเส้นลายมือของเขา หลอมรวมขึ้นอย่างรวดเร็ว หมุนวนอยู่กลางฝ่ามือเป็นเส้นๆ สุดท้ายก็ถักทอเป็นเงากระบี่ทางหนึ่ง

แฝงด้วยจิตที่คมกริบคล้ายจะสังหารสรรพชีวิตทุกสิ่ง

ยิ่งมีพลังมหาศาลท่วมท้น คล้ายจะบดขยี้จักรวาล เทพและมาร

สวี่ชิงสัมผัสได้แล้ว เคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิของผู้ครองกระบี่เผ่ามนุษย์พูดจากแก่นแท้แล้วคือไม่ใช่เพื่อปกป้อง แต่เพื่อสังหาร รังสีอำมหิตบนนั้นรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง

นี่เป็นกระบี่ที่ใช้การสังหารมาทำการปกป้อง

สวี่ชิงเข้าใจอย่างกระจ่าง ในดวงตาฉายประกายคมกล้า ตอบรับกับประกายกระบี่กลางฝ่ามือ ผสานรวมกันเป็นหนึ่ง

ท่ามกลางความรางเลือน เขาเหมือนได้ยินเสียงกระบี่คำราม ในเสียงนั้นแฝงด้วยความสนิทสนม แฝงด้วยความยอมรับ

ท่ามกลางความคลุมเครือ เขาเหมือนมองเห็นเงานับไม่ถ้วนในตอนที่สัมผัสรับรู้ก่อนหน้านี้ เงาร่างเหล่านั้นแต่ละร่างต่างถือกระบี่จักรพรรดิ ยิ้มมาให้เขา เป็นประจักษ์พยานว่าชนรุ่นหลังเดินบนเส้นทางเดียวกับพวกเขา

สวี่ชิงเงยหน้า ลุกขึ้นยืน โค้งคารวะไปทางความว่างเปล่า

คารวะกระบี่นี้ คารวะสหายร่วมมรรคา

นับจากเสี้ยวขณะนี้เป็นต้นไป ในที่สุดเขาก็มีเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิสองวิชา

วิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณสามารถกลืนกินทุกสรรพสิ่งในฟ้าดิน

กระบี่จักรพรรดิเผ่ามนุษย์สามารถฟาดฟันสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่อยู่ต่ำกว่าจักรพรรดิลงไป

แม้อย่างหลังหากอยากจะสำแดงพลังที่เหนือกว่าตัวเองออกมา จำต้องผ่านกาลเวลาหล่อเลี้ยง แต่เมล็ดพันธุ์กระบี่สำเร็จแล้ว ทุกอย่างจะสำเร็จในไม่ช้า

มองกระบี่จักรพรรดิที่ก่อขึ้นจากปราณกระบี่ สวี่ชิงสะกดระลอกคลื่นอารมณ์ในใจ หลังจากนั้นครู่หนึ่งในที่สุดก็สงบจิตใจได้ ในดวงตาฉายแววครุ่นคิด

‘เคล็ดวิชากระบี่จักรพรรดิ อยู่กับตัวข้ายากจะหล่อเลี้ยงหลายปี ดังนั้น สำหรับข้าเปลี่ยนให้มันกลายเป็นหนึ่งในไพ่ตายของทุกศึกต่อสู้ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นต้องรีบทำความคุ้นชินกับกระบี่ แปรเปลี่ยนภาพมายาเป็นวัตถุจริง ยกระดับเป็นขั้นที่สอง เพิ่มกำลังรบหนึ่งวังของข้า

‘เพิ่มความคุ้นชิน จำต้องใช้กระบี่เล่มหนึ่ง…’ สวี่ชิงจู่ๆ ก็ค่อนข้างกระจ่างขึ้นมา ก้มหน้าเอากระบี่อาญาสิทธิ์ของผู้ครองกระบี่ออกมา

มองกระบี่นี้ เขาค่อนข้างรู้สึกเหมือนฝัน ในที่สุดก็เข้าใจถึงประโยชน์อีกอย่างของกระบี่เล่มนี้

กระบี่เล่มนี้นอกจากจะเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้ครองกระบี่และสร้างหอกระบี่แล้ว ยังมีประโยชน์อีกอย่างหนึ่งที่ซ่อนอยู่ นั่นก็คือเพิ่มความรู้สึกคุ้นเคยต่อกระบี่ให้กับคนที่สัมผัสรับรู้กระบี่จักรพรรดิสำเร็จ

เพราะรูปร่างของมันเหมือนกระบี่จักรพรรดิ…ทุกประการ

‘สมแล้วที่เป็นกรมครองกระบี่ที่เป็นมรดกสืบต่อเผ่ามนุษย์จนถึงปัจจุบัน ทุกรายละเอียดในนั้นแฝงด้วยความล้ำลึกและพลังรากฐาน’ สวี่ชิงรำพึงรำพันในใจ

‘พลังรากฐานเช่นนี้ คิดแล้วกรมครองกระบี่ในเวลาเนิ่นนานที่ผ่านมานี้ ผู้ครองกระบี่มากมายที่สัมผัสรับรู้กระบี่จักรพรรดิ ครั้งเดียวก็สำเร็จเลยเกรงว่าจะไม่มี แต่สัมผัสสองครั้งสำเร็จก็น่าจะไม่ใช่เรื่องน่าอัศจรรย์อะไร’

สวี่ชิงเตือนตัวเองไม่ให้พอใจแค่นี้เพราะสัมผัสสองครั้งก็สำเร็จ อย่างไรเสียข่งเสียงหลงก็สัมผัสสองครั้งสำเร็จเช่นกัน

คิดถึงตรงนี้สวี่ชิงก็สูดลมหายใจลึก ก้าวเท้าเดินออกไปข้างนอก

แต่เขาไม่รู้ ในเสี้ยวพริบตาที่เขาสัมผัสรับรู้สำเร็จ ในชั้นที่แปดสิบเก้ากรมราชทัณฑ์บนพื้น เจ้าวังที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ก็ลืมตาทั้งสองขึ้นช้าๆ

ดวงตาขีดตั้งขนาดมหึมาข้างหลังเขาตอนนี้ก็พลันลืมตาขึ้นมาเช่นกัน

“กระบี่จักรพรรดิมีคนสัมผัสรับรู้สองครั้งก็สำเร็จเพิ่มอีกคนแล้ว ชื่อว่าสวี่ชิง”

เสียงต่ำทุ้มดังก้อง เกิดลมพายุในชั้นที่แปดสิบเก้า

เสียงนี้คือเสียงที่คุยกับเจ้าวังในวันที่สวี่ชิงไปจากที่นี่ในวันนั้น

เจ้าวังคล้ายครุ่นคิด หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็เอ่ยปากเสียงราบเรียบ

“เขตติงหนึ่งสามสองเป็นอย่างไรบ้าง”

“ที่นั่นพิเศษ แม้ข้าจะเป็นวิญญาณศัสตราของกรมราชทัณฑ์แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปดู แต่ว่าในตัวสวี่ชิงเกิดดวงไม่ดีขึ้น นอกจากนี้ความลับในเขตติงหนึ่งสามสองมีเพียงเจ้าที่รู้ เจ้าบอกเขาตรงๆ ได้ แต่ข้าก็สงสัยเช่นกันว่าที่นั่นมีความลับกี่เรื่องกันแน่” ในพายุเสียงแปรเปลี่ยนมาดังก้องเลื่อนลั่น ดังไปทั่วทั้งสี่ทิศ

“เขตติงหนึ่งสามสอง…” เจ้าวังในตาฉายแววนึกย้อนความหลัง

“ความลับที่นั่นไม่ได้มีแค่เรื่องเดียว

“แต่ข้าไม่เคยเล่นพรรคเล่นพวก ทุกอย่างล้วนอยู่ที่วาสนา เจ็ดวันหลังจากนี้หากเขายังมีดวงไม่ดีอยู่ในตัว เจ้าไปลบชื่อควบคุมดูแลเขตหนึ่งสามสองของเขาเสีย เปลี่ยนเป็นห้องขังอื่นได้ตามสะดวก นี่หมายความว่าเขาไม่มีวาสนานี้”

เจ้าวังส่งเสียงสงบนิ่งออกมา หลับตาทั้งสองลง

ในขณะเดียวกัน ในวังครองกระบี่ สวี่ชิงกำลังก้าวเท้าออกไป

‘ในเมื่อมาที่นี่แล้ว เช่นนั้นก็ไปซื้อสมุนไพรพิษบางอย่างที่เขตปกครองเมืองหลวงสักหน่อย การศึกษาค้นคว้าวิถีพิษจะทิ้งไปไม่ได้ นอกจากนี้ลูกกลอนแก่นแท้ก็ต้องซื้อมาศึกษาสักหน่อยเหมือนกัน’

ร่างของสวี่ชิงไหววูบก็ทะยานขึ้นฟ้า ตรงไปยังเมืองหลวงเขตปกครอง

ตอนนี้เป็นเวลาดึกแล้ว เมฆดำบนฟ้าหนาครึ้ม เสียงฟ้าครืนครานดังก้อง ฝนใกล้จะตกแล้ว

แต่เมืองหลวงเขตปกครองไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าหรือตอนมืด ร้านค้าส่วนมากล้วนเปิดทำการ จะอย่างไรลูกค้าหลักๆ คือผู้บำเพ็ญ ซื้อของไม่แบ่งแยกเวลา

แต่ในตอนที่สวี่ชิงทะยานขึ้นฟ้าอยู่นอกวังครองกระบี่ ในเสี้ยวพริบตาที่เหยียบไปในเมืองหลวงเขตปกครอง เสียงสายฟ้าบนฟ้าก็ดังก้อง สายฟ้าทางหนึ่งพลันฟาดลงมาจากในเมฆ พุ่งตรงมายังสวี่ชิงที่ทะยานอยู่กลางท้องฟ้า

ลักษณะของสายฟ้าเหมือนกิ่งไม้ ในยามที่ฟาดลงมาก็แบ่งแยกเป็นทางๆ นับไม่ถ้วน น่าประหวั่นพรั่นพรึงนัก

รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง พลังยิ่งน่าครั่นคร้าม เสียงดังสะท้านฟ้า คล้ายว่าเคราะห์สวรรค์มาเยือน

แม้จะกะทันหัน แต่สวี่ชิงได้ประทับตราการระแวดระวังภัยไว้ในวิญญาณแล้ว แทบจะในเสี้ยวพริบตาที่สายฟ้าฟาดมา ร่างเขาก็พลันถอยหลัง หลบหลีกในทันที

เห็นสายฟ้าฟาดมาข้างหน้า พุ่งตรงไปที่พื้นดิน สวี่ชิงสีหน้าย่ำแย่ มองไปทางท้องฟ้า

เขาที่ตัวอยู่กลางท้องฟ้า ดวงตาทั้งสองสะท้อนกับประกายแสงสายฟ้าบนผืนนภา หักเหเป็นประกายคมกล้า

เมฆดำแผ่ครึ้มบนท้องฟ้า เสียงอัสนีบาตดังก้อง ทุกอย่างแทบจะไม่มีอะไรที่ผิดปกติเกินไป มีเพียงสายฟ้าที่แลบแปลบปลาบ ทุกอย่างเหมือนเป็นแค่เรื่องบังเอิญ

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา